ตอน2           

                <<<< หัวหน้าโลโซทัวร์(ทัวร์กระจอก)

         vs      

หัวหน้ากระเหรี่ยงทัวร์ (ทัวร์ชมวัว) เกือบตีกัน >>>>

 

คำโบราณว่าไว้จะทำอะไรให้ดูตาม้าตาเรือ....หรือจะทำอะไรควรจะดูทิศทางลมก่อนว่าคนที่จะพูดด้วยน้ำลายไหลยืดหรือเปล่าไม่งั้นอาจจะเดี้ยงได้ง่ายๆ  ก่อนที่กรุ๊ปโลโซทัวร์ของป้าจะออกเดินทาง ป้าเสี่ยงตายไปถามลุงในขณะที่แกกำลังนั่งดูกีฬาเตะบอลหน้าตูมมากเหมือนลิงโดนบังคับให้กินกะปิ  เพราะทีมแกแพ้หมดเรียกว่าแพ้จนหัวรูดหลุด  และนั่งดูแข่งจักรยาน Tour de Franc  คนสวิสลงปั่นด้วยแต่สงสัยแข้งคงจะเหี่ยวมากเลยอยู่ท้ายโหล่ เรียกว่าวันนั้นทั้งวันหน้าแกตูมไม่ยอมบานเลย นี่ละนะพวกบ้าและชอบอินทั้งหลายเซ็งมาก..

คนยุโรปชอบการแข่งขันกีฬามากและที่นี่มีกีฬามากมายหลายอย่างที่คนที่อื่นไม่รู้จัก  ที่รู้จักกันดีคือ  การแข่งจักรยานจะจัดทุกๆปีและจัดหมุนเวียนตามประเทศต่างๆในยุโรป เช่นที่ประเทศเยอรมันประเทศสวิตเซอร์แลนด์ประเทศอิตาลี ประเทศเบลเยี่ยม ประเทศฝรั่งเศส  การแข่งจักรยานแบบนี้ จะมีรางวัลใหญ่แจกซึ่งจะต้องปั่นสะสมแต้มทำคะแนนตั้งแต่วันแรกที่แข่งจนถึงวันสุดท้าย  และแต่ละวันจะมีรางวัลให้ ไม่ว่าจะเป็นการปั่นทำสถิติเวลาต่ำสุด..คือถ้าใช้เวลาปั่นเข้าเส้นหลักชัยน้อยกว่าคนอื่นได้รางวัลไป  รางวัลBergpreis(รางวัลปั่นขึ้นเขาลงเขา)

           

ซึ่งเป็นรางวัลที่ใหญ่ที่สุด เป็นรางวัลที่แสดงถึงความพร้อมของร่างกายคนขี่จักรยานว่าสมบูรณ์ไหม เพราะเป็นการขี่จักรายานขึ้นภูเขาสูงชันและหลายร้อยกิโลเมตร  ป้าเห็นสะภาพเขาแต่ละลูกที่นักปั่นจักรยานแข้งทองแข่งขันกันแล้วขอกราบอำลาใส่ตีนหมาโกยไม่ไหวมันสูงชันมาก ขนาดนั่งรถยังตูดแฉะไปหมดกว่าจะถึงจุดหมายปลายทางข้างล่าง  คนขี่จักรยานเหล่านี้ต้องมีร่างกายฟิตสมบูรณ์เพราะการแข่งขันแบบนี้ใช้เวลาเป็นอาทิตย์  แต่ละวันเขาจะจัดนับแต้มคะแนนเวลาตอนเข้าหลักชัยและจัดรางวัลให้ทุกวัน  รวมทั้งมีเสื้อสีต่างๆเช่นสีม่วง สีส้มใส่แสดงถึงชัยชนะคนนำแต้มสะสมของการจัดการแข่งขัน

        

“ Hoppๆๆๆๆๆๆๆ (คำเชียร์ของคนสวิส) ไช่เซ่ะ...ๆๆๆๆยกกำลังมากๆแสดงว่าบูดที่สุด(คำด่าของคนสวิส)   หันหลังมองทำไม  ขี่ซีวะ  มองโทโกรี่ (อีตาคนนี้แกเช่าบ้านอยู่ใกล้กับบ้านป้า เจอกันบ่อยมากตอนไปซื้อของที่ Migros)”  ลุงเชียร์พร้อมคำด่า ฝากไปกับลมกับแล้ง 

“บ๊อบบี้  Samedan อยู่ตรงไหน?”  ป้าเอาแผนที่ไปถามแกเพราะหมดปัญญาหาไม่เจอ  และไปถามโดยไม่ได้มองหน้าแกหรอกเพราะกำลังติดพันกับทัวร์ที่จัดขึ้น  นี่เสี่ยงอย่างมากที่ไปถามแก...ในช่วงเวลาวิกฤติคงจะโดนด่าแน่ๆ

“เอาแผนที่ไปไกลๆ...เธอถามชั้นตอนอื่นได้ไหม?ไอ้สวิสห่วยมาก......ฮี้...หมู่สะแตนตอนมะแว่ดเต้อะ(คำด่าคำนี้ด่าจนชินแล้ว )...และทำไมถึงต้องมาถามเกี่ยวกับไอ้Samedan   อย่าบอกนะว่าเธอคิดจะวางแผนการอะไร”  ลุงพูดพร้อมทั้งปัดแผนที่ป้าซะบินว่อนเลยเหมือนเครื่องร่อนถลาแบบไร้ทิศทาง  ป้าไม่มีวันยอมหรอก  เราหัวหน้ากรุ๊ปทัวร์ซะอย่าง  รีบหยิบแผนที่กลับไปชูตรงหน้าเกือบทิ่มตาแก 

เกือบซวยตาแกเริ่มออกสีเขียว  พอเห็นลูกกะตาลุงเข้าทำให้นึกถึงความหลังเก่าๆ เลยงอนขึ้นมาไม่ง้อก็ได้  เดินไปถามฝ่านมันที่กำลังนั่งติดพันกับเกม  ทั้งพ่อทั้งลูกไม่สนใจใยดีป้าเลย  ......นี่แหละนะตนเป็นที่พึ่งของตนไม่ง้อก็ได้ทั้งลูก.....ทั้งผัว

สักพักลุงเดินมาทำเป็นง้อ ป้าเลยเล่นตัวสุดขีดนานๆเขาถึงจะปล่อยผีให้แกมาง้อแบบนี้สักครั้ง.... “schaetzeli(ที่รัก เป็นภาษสวิส..อ่านว่าชั๊ดซ์-สะ- ลี่    บางครั้งก็เรียกชั๊ตซี่)....pall เธอก็รู้นี่ชั้นบ้ากีฬา..จะถามอะไรชั้นถามได้เลยนะๆๆ..ตอนนี้   แต่ขอร้องทีถ้าแบบปัญญาอ่อนไม่เอานะ  ก่อนแต่งงานกับเธอหมอวัดไอคิวชั้นสูงมาก  ตอนนี้มันลดแบบ50%เลย  ภาษาของชั้นก็วิบัติมาก  และSamedan ทำไม  ”  แต่ป้ายังงอนอยู่อยากจะเล่นตัวให้มันนานๆหน่อย  แต่พอนึกขึ้นได้ว่าแกเป็นโรคหัวใจเลยเข้าไปคลอเคลียเหมือนหมาน้อยขนกุดร่วงแบบหมาขี้เรื้อน(หมาที่แก่มากๆ)

 

“บ๊อบบี้  ไอ้ซาเม่ด้านมันอยู่ที่ไหน  หาไม่เจอ  อยากจะให้เธอตื่นเต้นกับวันเกิดเลยไปซื้อตั๋วให้จะพาไปเที่ยว นี่ฝ่านมันก็ร่วมรู้เห็นเป็นใจนะถ้าจะด่า  ด่ามันด้วยมันเชียร์ ให้ซื้อ ”  ป้ารีบบอกให้ฝ่านมันโดนด่าด้วยแบบหาเพื่อน  นี่ดีนะมันไม่อยู่ เลยใส่ไฟได้เต็มที่

“เธอจะหาเจอได้ไงดูกลับหัวกลับหางแบบนี้   ชั้นให้เธอหาทางตอนขับรถเข็ดมากกว่าจะหาเจอรถแล่นเลยไปแล้ว   ไม่รู้ว่าเธอสอบผ่านแผนที่มาได้อย่างไร  สงสัยตอนสอบคงหลับหูหลับตาสอบมา  และอ้อ.......นี่เหรอจะให้ชั้นตื่นเต้น  หมดอารมณ์แล้ว  ทีหลังอย่าทำเลยนะอยากจะไปไหนจะพาเที่ยวเอง   สงสัยทัวร์นี้ไม่พ้นชั้นหรอก ”

นี่ขนาดมาง้อ....ยังหูชา  ถ้าโดนด่าจะขนาดไหน....เซ็งจริงๆ  แกเซ็งป้าคนเดียวที่ไหน  ป้าเองก็เซ็งแกมากเหมือนกัน... นึกถึงตอนลุงแกขับรถ  โชเฟอร์ประเทศสวิตเซอร์แลนด์คงมีแกคนเดียวที่ขับรถแบบนึกจะเลี้ยวซ้าย...ก็เลี้ยวทันทีทันควัน  นึกจะเลี้ยวขวาปาดหน้าปาดหลังก็ทันทีทันใด  และก็ชอบมาถามผู้โดยสารแบบป้า   กว่าจะสะกดชื่อออกรถมันแล่นผ่านเลยไปแล้ว  แทบจะตีกันจนตกรถก็เพราะหาชื่อเมือง รู้ว่าป้าอ่านภาษาเยอรมัน บางทีก็ภาษาฝรั่งเศสไม่ค่อยจะออกยังมาถามอีก และเวลาใครเขากดแตรด่าก็ยกนิ้วให้เขาที่หัว  ถ้าเก่งจริงทำไมไม่ยกนิ้วกลางล่ะ โถ ทำแค่ยกนิ้วชี้

นี่เขาเรียกว่าเก่งไม่จริง  จะมาเก่งกับเมียเท่านั้น แต่ไม่ต้องห่วงป้าหรอก...ตอนนี้มันอยู่ตัวแล้วปล่อยแก  เขาว่าการให้ผัวด่านี่ได้กุศลสูงนะและเป็นการฝึกประสาทหูให้ทำงานดี  แต่ถ้าด่าแบบขี้หูสั่นสะเทือนก็ไม่ไหว.

แกด่าจนเหนื่อยเลยหมดแรงด่า.....นี่เป็นเพราะป้าอยากรู้เลยทนเอาหูไปนาเอาตาไปไร่......ยอมให้แกด่า  ว่าไปคุยกับลุงแกได้ความรู้รอบตัวมากนะหูชาช่างหัวมันเถอะ  แกเหมือนกับตู้หนังสือเคลื่อนที่ถึงแม้ว่าจะปากพอๆกับน้องปุย(หมาป้าที่ตายไปแล้ว)ก็ตาม..........ยกให้แกคนเดียว

Copyright © 2003 Pallswiss All Rights Reserved