เวลาผ่านไปไวเหมือนโกหก นึกไม่ถึงเลยว่าป้ามาอยู่ที่ประเทศ สวิตเซอร์แลนด์นาน ถึง 30 ปีแล้ว ตอนแรกยังนึกว่าตัวเองยังจ๊าบอยู่ จนกระทั่งพวกลูกหลานคนไทยที่ผ่านไปมาเรียกว่าป้าถึงได้รู้สึกตัวว่าวัยแบบป้าน่าจะเข้าวัดเข้าวาสงบสติอารมณ์เหมือนคนอื่นเขาได้แล้ว แต่อย่าเข้าเลยขืนเข้าวัดคงจะป่วนจากฝีมือลุงหัวหน้ากระเหรี่ยงทัวร์แน่ๆ สงสารพระเจ้าดีไม่ดีแทนที่จะขึ้นสวรรค์นรกกินหัวเปล่าๆ ลุงแกกับป้าเหมือนคอหอยกับลูกกระเดือกห่างกันไม่ได้เลย เพื่อตัดปัญหาอย่าเข้าวัดดีกว่าแต่มานั่งหน้าจอคอมพิวเตอร์ให้แกเห็นหน้า ถึงแม้หูจะชาแต่ก็ได้ยินเสียงด่าเสียงบ่นของแกซึ่งเหมือนดนตรีขับกล่อมอารมณ์

ทุกครั้งที่มองหน้าลุงป้าจะคิดถึงชีวิตที่ผ่านมา วัย เวลา ทุกข์สุขที่ครองคู่อยู่กับแกมันไม่ธรรมดาเลย มีทุกรส เปรี้ยว หวาน มัน เค็ม ขมขื่น เรียกว่าคนโสดถ้ามาเห็นคู่ป้าคงจะเกาะคานทองแน่นไม่ยอมตะกายลงจากคานแน่ๆ  แบบคนอยากมีผัวจะคิดหนักไม่อยากมีผัวเลย  ชีวิตคู่ของป้าใครที่ได้อ่านคงจะเข้าใจและได้รู้ว่าผัวกับเมียเหมือนเหงือก กับไม้จิ้มฟันจริงๆ  ถ้าเรายึดหลัก อดทนและทนอดได้จึงจะอยู่กันยืดจนฟันหมดปาก  การครองคู่ การใช้ชีวิตต่างแดนของป้ามันไม่ค่อยธรรมดาเหมือนคนอื่นเขา ใครที่ได้อ่านจะสามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้ไม่มากก็น้อย  อุปสรรค วิบากกรรม ปัญหา ที่เกิดขึ้นบางครั้งป้าแทบจะหาต้นผักชีเพื่อผูกคอจะได้ขึ้นสวรรค์ไวๆ แต่พอหายใจไม่ออกรีบแก้ออกแทบไม่ทัน ใครก็ตามถ้ามีปัญหาอะไรควรจะใช้สติมากกว่าอารมณ์ คิดให้ดีนะ ชีวิตนี้ยังมีหวัง

ในการฝอยเล่าเรื่องทุกอย่างป้า ขอใช้คำสรรพนามว่า ป้า  ชอบมากคำนี้และอีกอย่างถ้าจะไปใช้คำว่า “ฉัน”   รู้สึกว่าห่างเหินไม่เป็นกันเอง   คำว่า ป้าบ่งบอกอะไรหลายอย่างในตัว ประหนึ่งว่าผ่านโลกมามากหรือจะให้หยาบๆก็อย่างที่เขาเรียกว่า  โดนน้ำร้อนราดมาหลายหน

ชีวิตของป้าเกือบจะคล้ายๆกับชีวิตของโอชิน เพียงแต่ของป้ามันโอแฉะ สงสัยคงตกบ่อน้ำลายทะเลาะกับผัวและคนรอบข้างซึ่งเกิดจาการแก้ปัญหาทุกอย่างมากเกินไป    ชีวิตป้าตั้งแต่เริ่มต้นจนกระทั่งทุกวันนี้ยังคงเหมือนหมาถูกน้ำร้อนลวกแล้วเอาน้ำเย็นเข้าราด กว่าจะมาถึงวันนี้ได้น้ำลายกับน้ำตาป้าแห้งหมดแล้ว ป้ามานั่งย้อนดูชีวิตที่ผ่านมาแล้วอยากหัวเราะร้องเพลงเย้ยฟ้าท้าดินมาก ตัวเองยังงงๆอยู่เลยว่า นี่หรือคือชีวิตของฉัน

ป้ามาใช้ชีวิตในสวิตเซอร์แลนด์  30  ปี ได้ผ่านกับอุปสรรคมากมาย  อดอยากปากแห้งท้องแห้งกิ่ว โดนโกงจนหมดตัว ได้รับรู้ทุกสิ่งทุกอย่างจนประสาทชักจะเบลอ   จิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวจนคนคิดว่าป้าปลงได้แล้ว   ใครที่อยู่ในสวิตเซอร์แลนด์เห็นผู้หญิงแก่ตูดใหญ่ๆเดินเป๋ไปเป๋มา หรือนั่งน้ำลายไหลยืดเป็นบางเวลานั่นแหละป้าตัวจริง

ป้าเขียนเล่าอะไรต่างๆที่ทุกคนได้อ่านตอนนี้ เป็นช่วงสุดท้ายของชีวิต ช่วงตะกายข้างฝา ช่วงลับฝีปากกับผัว ช่วงนี้ป้าใช้เวลากับผัวมากที่สุดลูกเต้ามันโตแยกออกไปอยู่ที่อื่นแล้ว  เราสองคนเลยออกเที่ยวไปไหนมาไหนได้อย่างสบายใจซ่าจนลืมสังขารตัวเอง จนกระทั่งลุงล้มป่วยลงถึงได้รู้ว่าแกซ่าจนหัวใจเหี่ยว หมอบอกว่าหัวใจแกตายไปแล้ว  25 % ช่วงที่แกยังมีชีวิตอยู่ป้าจึงนึกอยากจะเริ่มเขียนบันทึกเป็นความทรงจำในการเที่ยวไปยังสถานที่ต่างๆ เพื่อเป็นการระลึกถึงลุง ในวันที่แกไปเฝ้าพระเยซูแล้ว

ขอขอบใจลุงซึ่งเป็นทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิตของป้า ผู้ให้ความรัก ความอบอุ่น เข้าใจโอบกอดประคองยามป้าทุกข์หรือยามสุขไม่เคยห่าง  ช่วงชีวิตสุดท้ายเราจะอยู่คู่กันจนลมหายใจสุดท้ายปลิวไปจากร่าง

“แค่มองดูตาเราก็รู้ถึงความต้องการของกันและกัน ไม่จำเป็นต้องเอ่ยคำว่ารักแค่สัมผัสด้วยมือเราก็รู้ถึงความหมาย”   คำหวานนี้ขอมอบให้แก่ลุงผู้เป็นเพื่อนและสามีที่ดีที่สุดในชีวิตของป้า