News:

ยินดีต้อนรับ สู่ Pall Swiss เว็บบอร์ดตัวใหม่



นู๋สับสนแล้วก็เบื่อตัวเอง

Previous topic - Next topic

จิ๊บซี่

ตั้งแต่มาซูริคจนถึงวันนี้ถามตัวเองมาตลอดว่าต้องการอะไร ? สับสนจังเลยมาเที่ยวเหรอแต่มันเหงาจังนะ ฝนก็ตก คิดถึงแม่ด้วย กังวลเรื่องงาน กดดันกับป้าด้วย สรุปว่าจะกลับแล้วละแต่ต้องอยู่ให้ครบเดือนใช่ป่าวคะ ไม่งั้นเค้าจะยึดเงินประกันของป้า เข้าใจผิดหรือเปล่าคะ พี่ชาดำใจดีคิดถึงจังสบายดีหรือเปล่า พี่ miko จ๋าอยากเห็นจี๊ปกะแม่ นี่ยังไงล่ะ?? ไท้ไทยไปหน่อยจ้า

**กระทู้นี้เป็นกระทู้เดิมหมายเลข 0710 ห้อง pallswiss (เผื่อใช้ในการค้นหา)**

pall

สวัสดีจ๊ะจิ๊บซี่
 
 ตอบคำถามที่จิ๊บซี่ถามมาก่อน
 
 ขอตอบเป็นข้อๆ
 
 A.
 เรื่องเงินประกันที่จิ๊บซี่ถามมานั้นคงจะหมายถึงประกันเจ็บป่วย
 และอุบัติเหตุที่ป้าของจิ๊บซี่ต้องทำประกันให้คนที่เชิญมาที่นี่
 ซึ่งเป็นระเบียบกฏที่คนเชิญจะต้องทำ...
 ประกันแบบนี้จะมีอายุแค่3เดือน.
 ค่ารักษา..ค่าหมอและโรงพยาบาลที่นี่แพงมาก...
 ถ้าจิ๊บซี่ไม่เจ็บป่วย...ก็ถือว่าประกันได้กำไร...
 ถ้าจิ๊บซี่เบป่วยต้องเข้าโรงพยาบาล..และค่าใช้จ่ายสูงมาก..
 และอยู่ในวงเงินที่ป้าของจิ๊บซี่ทำไว้...
 ประกันจะจ่ายค่ารักษาเหล่านี้.
 
 
 ถ้าจิ๊บซี่กลับก่อนกำหนดของวีซ่าที่ขอมา..
 จะกลับตอนไหนแล้วแต่จิ๊บซี่...
 แบบนี้ประกันได้กำไรลูกเดียว...
 และจิ๊บซี่จะขอเรียกเงินคืนไม่ได้นะ...
 เป็นอันว่าเงินประกันที่ทำไว้สูญไป...
 
 .....................................................................
 B.
 
 ถ้าป้าของจิ๊บซี่ไม่ได้ทำประกันแบบเจ็บป่วยหรืออุบัติเหตุ
 แต่ทำประกันในรูปของเงินเก็บที่อยู่ในธนาคาร...
 ย้อนหลัง3เดือน...โดยต้องไปขอจากธนาคาร
 นำมายื่นให้ทางเขตที่ป้าของจิ๊บซี่อยู่
 แล้วนำมายื่นค้ำประกันจิ๊บซี่...เพื่อให้จิ๊บซี่สามารถ
 มาเที่ยวสวิตฯได้...
 วงเงินที่ใช้ค้ำประกันป้าไม่ทราบว่าเขตที่ป้าของจิ๊บซี่อยู่
 ต้องใช้วงเงินเท่าไร...แต่คิดว่าคงไม่ต่ำกว่า20000สวิสฟรังก์
 
 ถ้าจิ๊บซี่กลับก่อนกำหนดวีซ่าที่ขอมา...
 ก็ไม่มีปัญหาอะไร...และป้าของจิ๊บซี่ก็ไม่ได้สูญเสียเงินส่วนนี้
 ที่เอายอดเงินจากธนาคารมายื่น...ก็เพื่อเป็นหลักประกันว่า
 ถ้าจิ๊บซี่เจ็บป่วยหรือเกิดอะไรขึ้น....ป้าของจิ๊บซี่มีเงิน
 ส่วนนี้เพื่อชำระใช้จ่าย..และเป็นคนรับผิดชอบจิ๊บซี่...
 
 **วิธีนี้...คนจะไม่ทำกันหรอก...เพราะใช้ยอดเงินประกันสูงมาก**
 ส่วนมากจะทำประกันเจ็บป่วยอย่างที่บอกมาข้างต้น
 
 ***สรุปสั้นๆ...เพื่อให้จิ๊บซี่สบายใจ***
 จิ๊บซี่อยากจะกลับบ้านตอนไหน..กลับได้ตลอดเวลา
 จะมาแค่อาทิตย์เดียว..หรือมาอยู่จนครบกำหนด
 ไม่ต้องกลัว...ว่าเขาจะยึดเงินประกันของป้าหรอก.
 ถ้าจิ๊บซี่อยากกลับสามารถกลับบ้านได้เลย...

pall

สวัสดีจ๊ะจิ๊บซี่
 
 ใช่จ๊ะจิ๊บซี่สับสนและผิดหวังมาก...ที่ทุกสิ่งทุกอย่าง
 ไม่ได้เหมือนอย่างที่จิ๊บซี่คาดหวังไว้..
 ป้าเข้าใจถึงความรู้สึกของจิ๊บซี่ดี
 เป็นธรรมดาของมนุษย์ทุกคนที่วาดหวังสิ่งใดไว้
 อย่างสวยงาม..แล้วผลที่ออกมาตรงกันข้ามไปหมด
 จิ๊บซี่เหมือนกับคนไทยหลายต่อหลายคน
 ที่ยังไม่พร้อมหรือยังปรับตัวเข้ากับสิ่งแวดล้อมที่ตัวเองอยู่
 ยังไม่ได้..และความอดทนยังไม่พอ...และการเรียนรู้การใช้ชีวิต
 ที่นี่ยังไม่ดีพอ..ข้อสำคัญการปรับตัวเพื่อเผชิญกับปัญหา
 หรือแก้ปัญหาไม่ได้..เลยทำให้เกิดความรู้สึกซึมเศร้า
 ว่าเหว่...และอยากกลับบ้าน
 
 อีกอย่างนะจ๊ะจิ๊บซี่...ป้าคิดว่าป้าของจิ๊บซี่อาจจะใช้ชีวิต
 หรือการกระทำแบบคนที่อยู่ที่นี่..ซึ่งจิ๊บซี่อาจจะไม่เข้าใจ
 หรือจิ๊บซี่กำลังสับสนเลยทำให้เข้าใจป้าผิดๆก็ได้นะจ๊ะ
 จิ๊บซี่ลองคุยหรือพูดกับป้า..ช่วงที่จิ๊บซี่ไม่เครียด
 อาจจะเข้าใจกันดีขึ้น...
 การมองหรือเข้ากันกันคนละมุม..ทำให้เกิดความบาดหมางใจกัน
 เป็นเรื่องที่น่าเสียใจจริงๆนะจ๊ะ.
 
 ช่วงนี้อากาศกำลังจะดีขึ้น..ไม่แน่อาจจะทำให้จิ๊บซี่มองโลก
 ในแง่ดีขึ้นนะจ๊ะ..ดินฟ้าอากาศก็มีส่วนต่ออารมณ์
 ทำให้เกิดความแปรปรวนได้..
 ป้าขอให้จิ๊บซี่นั่งทบทวนความรู้สึกอักครั้ง...
 อย่าตัดสินใจอะไรหุนหัน...ถ้าคิดว่าใช่..ตัดสินใจไปเลยจ๊ะ
 เอาใจช่วยจิ๊บซี่จ๊ะ...
 
 
 ป้าไม่ทราบว่าจิ๊บซี่
 

เทียนหอม

ให้เวลากับตัวเอง เพื่อหาคำตอบให้กับคำถามที่ถามตัวเอง  
 อีกซักนิด แล้วค่อยตัดสินใจว่า จะกลับไม่กลับดีไหม

miko

เศร้าไปใยละจ๊ะ แค่มาท่องเที่ยว สามเดือนเอง ตะเดี๋ยวก็ได้กลับบ้านแล้ว แป๊ป แป๊ปๆๆ เดี๋ยวเดียวก็ สามเดือนแล้ว เวลาทุกวันนี้วันหนึ่งๆผ่านไปเร็วเหมือนโกหก เที่ยวให้เพลินใจไม่ดีกว่าเหรอจ๊ะ  ขนาดพี่อยู่ที่นี่ อยู่ไป เช็ง ไป แป๊ป เดียว จะ ห้าปีแล้ว ยังนึกว่าตัวเองเพิ่งแต่งงานเมื่อเดือนที่แล้วนี่เอง ที่ใหนได้เกียบจะ ห้าปี แล้ว เร็วมากเวลาขอบอก จะคิดตัดสินใจทําอะไรรีบๆชะ เดี๋ยวตามเวลาไม่ทัน

แจง

สวัสดีจ๊า จิ๊บซี่ ป้าพอล เทียนหอม พี่มิโก๊ะ
 
 
 ได้อ่านข้อความของจิ๊บซี่แล้ว ทำให้ นึกถึงตัวเอง ตอนที่มา ที่นี่ ครั้งแรก
 
 
 เหมือนกันเลย คือ ญาติเชิญมา ของแจงเป็น น้า เป็นน้องสาวแม่ แท้ๆ เลยจ๊ะ
 
 
 ส่วนจุดประสงค์ที่น้าอยากให้แจงมาที่นี่ พูดกันตรงๆ คือ อยากให้ มีชีวิต ที่ดีขึ้น ให้มีโอกาสเรียนรู้ คนที่นี่
 
 น้าแจงเป็นคนเปิดประตูให้แจงก้าวเข้ามาในโลกอีกโลกนึง
 
 แต่ทั้งนี้ทั้งทั้ง ก็ขึ้นอยู่กับ ตัวเราเองทั้งหมด ว่าจะเดินไปทางไหน
 
 
 มาถึงครั้งแรก คาดหวังไว้เยอะมาก เมืองนอกต้องเป็นอย่างงั้นต้องเป็นอย่างนี้
 
 ต้องเหมือนในทีวี ในหนังที่เราดู เมืองสวย ผู้คนแต่งตัวสวยๆ แฟชั่นล้ำสมัย อะไรที่เราเคยเห็นแต่ในทีวี ต่อไปนี้เราจะได้เห็นของจริงแล้ว
 
 
 ...
 
 แต่พอมาถึง จริงๆแล้ว  เมืองสวิส..มาถึง เห็นแต่ หญ้า กับ วัว ..(ซะส่วนใหญ่)
 
 บ้านเมืองเงียบเชียบ ตกเย็น ผู้คนกลับเข้าบ้านใครบ้านมัน
 เงียบเหงา  
 
 ไม่เจี้ยวจ้าว ไม่ ฟุ้งเฟ้อ เหมือนที่เราคาดไว้
 
 ต้องมาเจอกับภาษาอะไรก็ไม่รู้ ได้ฟังทีไร ปวดหัวทู้กที
 เหมือนตัวเองกลายเป็นมนุษย์ต่างดาว ฟังคนเค้าไม่รู้เรื่อง  
 555
 
 
 ดีหน่อย ที่ยังมีลูกน้อง (ลูกน้าอ่ะนะ)  คอยเป็นเพื่อน คอยชวนคุย
 
 ส่วนกับน้า ยอมรับว่า ขัดแย้งกันมาก ใช่อยู่ เค้าเป็นคนพาเรามาที่นี่ได้
 แต่เค้าไม่ใช่เจ้าชีวิตเราทั้งหมด
 
 เป็นคนชี้ทางให้เราได้ แต่ไม่ใช้ คนจูงจมูกเรา
 
 แจงเอง มีความคิดสวนทางกับน้ามาก เพราะเราคิดว่าเราน่าจะทำได้
 แต่น้าเค้าจะกังวล และคิดแทนเราแทบทุกอย่าง
 
 อาจเพราะ ค่าประกันแสนแพงด้วยก็ได้
 
 ทะเลาะกันบ่อยครั้งมาก
 
 น้าอยากให้เราไปทางนี้ แต่เราคิดว่า ทางนี้เหมาะกับเรามากกว่า
 
 ขัดแย้งกันค่ะ  กดดันสุดๆ อยากกลับบ้านมากๆ (เหมือนจิ๊บซี่เลย)
 
 แต่เราอยากพิสูจน์ว่า ทางที่เราเดิน นั้นดี และเหมาะสมกับเรา
 
 ส่วนน้าเราก็(หัวโบราณ) คิดว่า เรายังเด็กและ เลือกแต่ตามใจแต่ตัวเอง
 
 แต่มาถึงวันนี้ ก็เข้าใจท่านดี ในสิ่งที่ท่าน ทำลงไป  
 
 
 
 สุดท้าย สิ่งที่อยากจะบอกจิ๊บซี่ คือ เชื่อ ในความเป็นตัวของตัวเอง
 
 เชื่อในความรู้สึกของตัวเอง จ๊ะ