ตอน1           

                <<<< Trip to Samedan >>>>

 

แล้วแต่เขตที่อยู่ป้าจะเริ่มที่  Bern เขตที่อยู่ คนอื่นอาจจะเริ่มที่ Zuerich
1. Bern-Zuerich
2. เปลี่ยนรถไฟที่ Zuerichไปขึ้นสาย  Zuerich–Chur
3. เปลี่ยนรถไฟที่ Churไปขึ้นสาย  Chur-St.Moritz  และลงสถานี Samedan ตอนขากลับมาบ้าน Bern ก็ทำย้อนมาแบบขามา

 

เตรียมตัวออกเดินทาง

เปิดฉากด้วยเสียงเพลงยะเฮยะฮู    โห่ๆๆๆ ของลุงที่เปิดฟังแบบได้ยินไป10บ้าน20บ้านขี้หูสั่นสะเทือนไปหมด หูแกไม่ค่อยดีแต่ชอบด่าคนอื่นทำเสียงดัง ขนาดนั่งเคาะคอมเฉยๆไม่ได้ทำอะไรแกก็ด่าว่าหนวกหูแบบนี้จัดว่าแกด่าจนเคยตัวเลยหาเรื่องด่าไปหมด  เสียงเพลงที่แกเปิดฟังป้าปวดหัวมากมันดังลั่นสนั่นไปหมด ไม่ได้ฟังเฉยๆแกแหกปากร้องตามด้วย ตอนป้ามีหมาชื่อคุณปุยที่รีบชิงลาขึ้นสวรรค์ไปแล้วเวลาลุงเปิดดนตรีสวิสของแกฟัง  คุณปุยมันจะรีบวิ่งไปเอามือหมาข้างหน้าของมันปิดหูเลย ที่มันตายไวสงสัยคงเป็นโรคหัวใจเป็นรูแน่ๆน่าสงสารมันมาก  เจ้าของเก่าก็เปิดเพลงสวิสกรอกเข้ารูหู เจ้าของใหม่คือลุงยิ่งหนักไปกว่าเดิม ป้ามานั่งคิดดูที่แกเป็นโรคหัวใจนี่คงเพราะฟังเพลงมากและเครียดตอนหาคำด่าเมีย

“pall เธอไปซื้อตั๋วรถไฟหรือยัง pphpp[i[[owiunkm[*&=”
เรียกทำไมป้ารีบวิ่งมาทันทีที่ได้ยินคำหลังคิดเอาเองว่าแกด่าอะไร
ชั้นเรียกเธอตั้งนานมัวทำอะไรอยู่ อยากถามว่าไปซื้อตั๋วหรอยัง ไม่ได้เรื่องเลยอีกตั้ง 3 อาทิตย์จะเดินทางแล้วยังทำเป็นทองไม่รู้ร้อน เซ็งมากยังอยากจะมาจัดเป็นหัวหน้าทัวร์ ทำอะไรเราต้องทำเนิ่นๆ แบบเธอถ้าจัดสงสัยลูกทัวร์ไปอดข้าวลิงกันเป็นแถวๆ และจัดเสื้อผ้าให้สมเหตุผลนะไม่ต้องซ่าเอาแบบไปโชว์ใครแก่แล้วต้องทำตัวให้แก่สาวๆแต่งได้ชั้นชอบดู เราขึ้นเขาสูงจะหนาวมากข้างบนหาเครื่องแต่งกายให้อบอุ่นนะ ชั้นไม่พูดอีกแล้ว และอย่าลืมรองเท้าไม้เท้าเตรียมให้พร้อม.......braๆๆๆๆๆๆๆๆ

เขียนได้แค่นี้ยังมีมากกว่านี้ เขียนไม่ไหวขืนเขียนคงหมดหลายหน้าเซ็งมากและคงไม่ได้พาเที่ยวแน่ๆ คนอ่านก็เซ็งตามด้วยเพราะเขียนมีแต่จังหวะเดียวท่าเดียวตลอด  ตกลงป้าต้องรีบไปสถานีรถไฟเพื่อไปสืบถามข้อมูลการเดินทาง การเดินทางไป Samedanเป็นครั้งแรกที่ไปเราจึงตื่นเต้นกันมาก แถบนี้ไปมาหลายครั้งแต่ไม่เคยผ่านเข้าไปสัมผัสเลย  ไปเจอหนุ่มอารมณ์ดีหน้าตาบานมากแกบานแบบนี้ทุกวันจนป้าสงสัยบานแบบหน้าบวมหรือบานแบบเป็นมิตร  ดีนะหนุ่มวัยจ๊าบน้อยหน้าตูมไม่อยู่ ไอ้หนุ่มคนนี้หน้าตูมทุกวันสงสัยคงโดนเมียด่าทุกวันแบบป้าเลยตูมไม่ยอมบาน  

ป้าเห็นราคารถไฟแล้วลมจะใส่นี่ขนาดเป็นตั๋วแบบลดครึ่งราคานะต้องจ่ายคนละCHF 87 ค่ารถไฟไปกลับ เห็นราคาแล้วหัวใจป้าเหี่ยวมาก เลยบอกให้เขาเขียน ตารางรถไฟให้  การไปเที่ยวที่ไหนในสวิตเซอร์แลนด์สำคัญมากเราต้องรู้เวลารถและรางรถไฟที่จะต้องไป เพราะรถไฟจะทำเวลาใกล้เคียงกันมาก ถ้าเราไปซื้อตั๋วเที่ยวเราต้องให้เขาทำให้เราแล้วรับรองว่าจะสะดวกง่ายดายต่อการจัดทัวร์มาก และปลอดภัยไม่ตกรถไฟ

ป้ามาบอกลุงถึงราคาตั๋วและจะไปซื้อตั๋วแบบ GA ราคาแตกต่างกันประมาณ CHF11  ถ้าซื้อ2คนจะประหยัดได้CHF 22 แต่ป้าต้องไปหาซื้อจำนวน 4 ใบ(ไป-กลับ คนละ2ใบ) ลุงปวดหัวกับเงินจำนวน CHF 22และจำนวนตั๋วรถ ที่ป้านั่งบวกลบคูณหารทั้งวันทั้งคืนเลยไล่ให้ไปเก็บของเข้ากระเป๋า

ป้าลากอีแก่คู่ทุกข์คู่ยากที่ใช้งานจนหนังเยินเตรียมพร้อมจะจัดของเข้ากระเป๋าลุงรีบแล่นถลาเข้ามา
นี่เราจะไปแค่ 2 คืนกับ3วันเธอลากอีแก่ใบนี้อย่างกับจะไปหลายๆเดือน  ไปเปลี่ยนเอากระเป๋าใหม่นะและไม่ต้องเอาเสื้อผ้าไปมาก ของกินเยอะหน่อยกองทัพต้องเดินด้วยท้องเห็นไหมนะโปเลียนแพ้สงครามเพราะอดอาหารพุงโรไปตามๆกัน
จริงเหรอเธอรู้ได้ไงบ๊อบบี้ ไหนเล่าๆอยากฟังอย่าเล่ามั่วนะลุงแกเดินออกไปไม่พูดจาแบบนี้ต้องมั่วจริงๆเลยเดินหนี

 

3 อาทิตย์.......ไวเหมือนโกหก

ก่อนออกเดินทาง 1 วันป้าลากลุงให้ไปซื้อตั๋วด้วยกว่าจะลากแกมาได้น้ำลายแทบเป็นฟอง แกเดินบ่นมาตลอดทางไม่บ่นเปล่ามีคำว่าฟี้ๆๆๆๆๆๆๆแตนๆๆๆๆติดตลอดทาง(คำด่า) แต่พอมาถึงคำด่าหายไปเลยเพราะแกเห็นช่องขายตั๋วมีเอ๊าะคนเดินหน้าเดิมที่จัดทัวร์ให้แก สาวคนนี้อึ๋มมากถูกสะเป็คลุงที่สุด เผอิญมีช่องขายตั๋วข้างๆว่างอยู่ป้าดึงแกไปซื้อตั๋วแหมเสื้อแทบขาดแกไม่ยอมเดินไปช่องนี้ โชคดีที่ทัวร์ป้าไม่มีอวัยวะอะไรบุบสลายจากการทำลายทรัพย์สินรัฐบาล

 

วันที่ 1 สิงหาคม 2003

กระเหรี่ยงทัวร์  Samedan

ตื่นนอนกันตั้งแต่ตี 5 รถไฟที่จะออกเดินทางจาก Koeniz ประมาณ 6.55 ลุงปลุกให้ลุกมาแต่เช้ามืดและลุกมาก็ไม่ได้ทำอะไรหรอกเดินพล่านไปมาทั้งสองคนและรื้อของเข้าๆออกๆ  จนกระทั่งนาฬิกาตีบอกเวลา 6โมงกว่าถึงได้ทำตัวเหมือนหมาถูกน้ำร้อนลวก ลุงแกแบกเป้ใบโตมีอาหารตุนเพียบ ป้าเป็นผู้หญิงตามกฎสากลสุภาพบุรุษต้องคุ้มครองดูแลจึงให้แกทำหน้าที่แบกกระเป๋าใบโตจนไหล่ลู่

ที่สถานีรถไฟมีคนมายืนรอรถไฟแค่ 2 คน คือลุงกับป้า ผิดสังเกตมากถามลุงถึงจำได้ว่าวันนี้เป็นวันชาติคนหยุดทำงานทั่วประเทศและเป็นวันเกิดลุงแก ป้าเลยถือโอกาสHappy Birthday นี่ลืมไปแล้วถ้าแกไม่บอกว่าเป็นวันเกิดแก  รถไฟมาตรงเวลา6.55ไม่ขาดไม่เกิน และเคลื่อนที่พากลุ่มทัวร์ลุงไปถึงสถานีรถไฟ ในตัวเมือง Bern เวลาประมาณ 7.06 น.เข้าจอดรางสาย3

Station Bern

รถไฟจะออกจาก Bern-Zuerich ออกเวลาประมาณ 7.11 น. ยังมีเวลาเดินโต๋เต๋ชมสถานีรถไฟอีก11นาที และรางรถไฟรางที่8ก็อยู่ใกล้ๆกัน สถานีรถไฟของ Bern เพิ่งสร้างเสร็จถ้าใครมาเที่ยวจะเห็นความแปลกตาหลายอย่าง และสถานีรถไฟแห่งนี้ลุงมาร้องเพลงกับกลุ่มรถไฟแกก่อนจะเข้าโรงพยาบาล  การก่อสร้างแพงมากใช้เงินประมาณ 80ล้านสวิสฟรังก์(อยากรู้ว่าเท่าไรไปคูณกันเอาเอง) ขนพวกชาวBern ล่วงกันเกรียวกราวไปหมดขนลุงกับป้าไม่มีให้ล่วงแล้วเพราะเริ่มจะล้านกันสุดๆ ว่าไปน่าจะโยนเงินสักครึ่งล้านมาให้น้องผู้หิวโหยแบบลุงกับป้าบ้าง

รถไฟเข้ามาจอดที่สถานีรางที่8เพื่อไปZuerich มาตรงตามเวลาและออกเวลา  7.17น.

   

รถไฟมีหัวจักรเป็นสีเหลืองเขียนคำว่าชื่อ Aroma การรถไฟจะมีสปอนเซอร์หลายยี่ห้อสายนี้มี2ชั้นลุงพาขึ้นไปข้างบนเพื่อชมวิวทิวทัศน์ต้องตามใจแกหน่อยแกเป็นหัวหน้าทัวร์ กว่าจะหาที่นั่งได้เหงื่อย้อยไปหมด  เราได้ที่นั่งติดกับหน้าต่างพอดี มีคนนั่งเต็มไปหมดแต่ละคนนั่งหน้าตูมตามๆกัน คนสวิสหาน้อยคนที่จะหน้าบานเห็นแล้วเซ็งมาก โบกี้ที่นั่งเงียบมากเงียบเหมือนเป่าสาก ลุงแกจัดทัวร์คราวนี้เงียบผิดปรกติไม่พูดไม่จาไม่ด่าไม่บ่นรู้สึกเหงาหูชอบกลเลยอยากเอาใจแก
บ๊อบบี้จะเล่นไพ่ไหมเท่านั้นแหละหูป้าชาเหมือนเดิมถูกใจมาก
“=yho;jk,m,;;;k;kใครเขาเล่นไพ่ตอนขี้ตามัวเหรออย่าบ้า  เธอนั่งเฉยๆได้ไหมนี่ทำลายความสงบสุข ไม่ต้องชวนคุย
รถไฟวิ่งนิ่มมากความเร็วประมาณ 160/กม ในอนาคตข้างหน้าได้ยินข่าวว่าจะวิ่งเกือบถึง300/กม นี่เป็นแค่โครงการนะ
การเดินทางไป
Zuerich แล้วแต่รถไฟเส้นทางที่เราเลือกนั่งหรือขึ้นได้ แต่จุดหมายปลายทางไปถึงเหมือนกัน

   

ระหว่าทางที่รถไฟแล่นผ่านตามเมืองต่างๆจะเห็นพวกวัวที่เราเรียกว่าMuttertier(แม่)
อายุประมาณ
3-6 ปี พวกวัวพวกนี้จะมีน้ำนมไว้เลี้ยงลูกวัว คนห้ามไปแย่ง พระอาทิตย์เพิ่งจะตื่นนอนเลยรีบส่องแสงข่มขวัญใหญ่ สองข้างทางเต็มไปด้วยน้องวัวและป่าหนาทึบทั้งสองข้างทาง กำลังดูวิวเพลินต้องมาสะดุ้งตกใจจากเสียงหนุ่มวัยจ๊าบหนวดเฟิ้ม แกตะโกนร้องบอกตรวจตั๋วๆๆดังลั่นไปหมด คนรีบหาตั๋วกันวุ่นวายไปหมด
รถไฟวิ่งผ่านเข้า
Burgdof สวยและเก่าแก่มากที่รู้จักและขึ้นชื่อกันดีคือปราสาท Burgdof

Castle Burgdorf    Burgdorf

ว่าไปเส้นทางนี้ใช้จนจำได้และเคยชินมากแหมใช้มาตลอดไม่ว่าจะไปไหนมาไหน แต่ดูไม่เบื่อเลยชอบมาก
ป้าชอบดูสวนเล็กๆที่คนสวิสตกแต่งดูแลสวยงามมาก คนสวิสรักพวกสายลม แสงแดด ดอกไม้มาก ทุกบ้านถ้ามีเนื้อที่จะรีบปลูกดอกไม้แข่งกันเลย บางบ้านรวยหน่อยก็จ้างคนสวนมาดูแลตบแต่งอย่าไปดูถูกคนทำสวนแต่งตัวมอซอนะขอบอก พวกนี้ถ้าทำงานส่วนตัวค่าตัวคิดเป็นชั่วโมงแพงแล้วแต่เขาจะคิดตั้งราคากันเองและข้อสำคัญรับเงินมืดได้ไม่ต้องฟอก คนทำงานสวนรายได้ดีกว่าพวกแต่งตัวโก้ผูกคออีก คนไหนที่ใส่กางเกงทำงานตูดขาดยิ่งรวยเละไม่มีเวลาปะตูดกางเกงมัวแต่ทำงานลูกเดียว แตะถ้าตูดขาดแล้วกระเป๋าขาดเป็นรูก็ว่ากันไปอีกเรื่องหนึ่งแบบนี้ตัวใครตัวมัน

รถไฟวิ่งผ่าน Langenthal เมืองนี้มีชื่อมากเรื่องถ้วยชามดังมากมีอายุ100กว่าปี ถ้าแฟนซื้อถ้วยชามจาก Langenthal แล้วยิ้มแป้นเลย ป้าไม่ยิ้มหรอกถ้าได้แบงก์1000แล้วจะยิ้ม เห็นฝรั่งยิ้มกันพอได้ของขวัญแบบนี้

น่าเสียดายมากที่ต้องปิดกิจการลงเพราะมีปัญหาเรื่องเงิน เจ้าของพยายามหาเงินมาประคองโรงงานหลายหนแต่ผลสุดท้ายอะไรจะเกิดก็ต้องให้เกิดเราหลีกเลี่ยงไม่พ้นนี่คือสัจธรรมที่เห็นได้อย่างชัดเจน

   

Castle Aarburg                                          Aarburg

ก่อนที่รถไฟจะแล่นเข้าสู่ Olten เราจะเห็นปราสาทอยู่หลังหนึ่งปราสาทหลังนี้อยู่ในเขต Aarburg ประวัติของ Aarburg นี่น่าสนใจมาก และที่นี่คนมาเดินทางไกลกันมากบรรยากาศโรแมนติกเดินเลาะริมน้ำนี่สวยที่สุด

รถไฟแล่นผ่าน Olten ที่นี่รู้จักกันเป็นจุดรวมรถไฟที่ใหญ่ที่สุดของสวิตเซอร์แลนด์

มีคนรอรถไฟเป็นจำนวนมากที่สถานีแห่งนี้ แต่รถไฟสายที่ป้านั่งจาก Bern – Zuerich จะไม่มีการจอดจะวิ่งตรงไปจุดหมายปลายทาง  ระหว่างมองข้างทางเพลินเสียงลุงแกเรียกให้ดูวัดไทยขณะที่รถไฟวิ่งเข้าเขต Aarau

http://www.wat-thai.ch/Thai/Temple/temple.html

วัดนี้ป้าเคยไปสมัยตั้งแต่ยังเพิ่งจะเริ่มใหม่ๆตอนนั้นยังต้องเช่าตู้ให้พระจำวัดและให้ญาติโยมไปเยี่ยมเป็นคล้ายๆห้องแถว กว่าจะหาทางเข้าวัดได้ปวดหัวมากคอยจะหลงทาง เลยต้องจำ Atomkraftwek ตัวที่เห็นด้านขวามือนี้ไว้

   

Aarau เป็นเมืองหนึ่งซึ่งขึ้นอยู่กับจังหวัด Aargau จังหวัดนี้ขึ้นชื่อเรื่องหมูป่ามาก  ปีที่แล้วมีหมูป่ามากจำนวน 1000 กว่าตัวออกมาเดินเพ่นพ่านส่ายตูดไปมาไม่ส่ายเปล่ายกพวกมากินข้าวโพด มากินของที่เขาปลูกไว้  จนเขาต้องมาส่องส่งมันขึ้นสวรรค์ นี่แหละมักง่ายไม่ไปขอเขาก่อน  รนหาเรื่องแบบนี้เขาเรียกว่าหมูพวกนี้ไม่รักดีรนหาที่ตาย ปีที่แล้วเขายิงหมูป่าพวกนี้ทั่วประเทศร่วม 3000 ตัว นี่ถ้ามาเดินแถวเมืองไทยบ้านเราสงสัยสุราไทยเราขายดีมากเพราะพี่ไทยชอบกับแกล้มเนื้อพวกนี้มาก
ใครที่มาเที่ยวสวิตเซอร์แลนด์การนั่งรถไฟนี่ดีที่สุดเราได้เห็นเยอะและวิวบางแห่งสวยมากขอบอกนะ แต่ถ้าคนชอบขับรถยนต์ก็สวยไปอีกแบบหนึ่งแต่วิวบางวิวเราจะพลาดเพราะเส้นทางรถยนต์จะใช้อีกด้านหนึ่งและอีกอย่างไม่มีเวลามามองดูเหมือนนั่งรถไฟ

รถไฟวิ่งเข้าสู่ Lenzburg เมืองนี้ยังอยู่ในจังหวัด Aargau เป็นที่รู้จักกันดีเกี่ยวกับพวกอาหารกระป๋องและพวกแยมยี่ห้อ Hero และที่นี่มีปราสาทเก่าแก่ที่สวยมากSchloss Lenzburg

Hero    Lenzburg

Castel Lenzburg

พูดถึงเส้นทางที่จะไป Zuerich บางแห่งน่าสนใจแต่สรุปแล้วความสวยของทิวทัศน์ทางเขตที่จะมายังBerner Oberland สวยกว่ามากตามความเห็นของป้านะแหมป้าอยู่เขตนี้ต้องเชียร์ของตัวเอง

รถไฟแล่นเข้าสู่ Brugg น่าเสียดายที่คนมองข้ามเมืองนี้ไป Brugg น่าสนใจมากและนักท่องเที่ยวมองข้ามไป  Brugg  ยังอยู่ในเขตจังหวัด Aargau

       

Watercastle Brugg              Brugg                                        IBM

ก่อนที่รถไฟจะเข้าสู่Zuerich ได้วิ่งผ่าน Altstetten จะเห็นสิ่งก่อสร้างอันนี้อาคาร IBM ทุกคนต้องรู้จักกันดีเพราะเกี่ยวกับพวกคอมพิวเตอร์ ได้เริ่มสร้างเมื่อเดือนมิถุนายน ปี2002เงินช่วงแรกที่ใช้ในการก่อสร้าง ประมาณ 200ล้านสวิสฟรังก์น้ำลายป้าหยดแหมะเลยเขียนถึงตอนนี้  สถานที่แห่งนี้จะมีคนทำงานประมาณ 2100 คน มีเนื้อที่ประมาณคร่าวๆ16300 ตารางเมตร สูงประมาณ 44 เมตร
เสียงประกาศทางไมโครโฟนเสียงดังบอกให้ทุกคนเตรียมตัวเตรียมข้าวเตรียมของตรวจดูทุกอย่างห้ามลืม ไม่มีใครฟังหรอกและถึงไม่บอกคนก็เตรียมตัวกันแล้ว ลุงรีบนำหน้าเลยไปยืนรอตรงหน้าประตูทั้งเป้ทั้งไม้เท้าแกว่งไปมาเพราะแกยืนไม่อยู่สุข จนคนที่รอทำปากหมุบหมิบถอยห่างออกมาเพราะกลัวลูกหลง

 รถจอดเธอรีบวิ่งลงเลยนะห้ามรอเธอเดินตัวเปล่ารีบวิ่งไปจองที่นั่งเลยนะรางรถไฟอยู่ติดๆกันหมายเลข16 จำไว้นะแกสั่งก่อนที่ขบวนรถจะจอด

 

ถึงZUERICH

รถไฟเข้าจอดเทียบชานชาลาZuerichเวลาประมาณ 8.26

คนรีบวิ่งกันสลอนเหมือนวิ่งตามควายกันไปหมด การขึ้นรถไฟที่นี่ต้องเป็นนักวิ่งเก่าทำลายสถิติ การขึ้นรถไฟแต่ละคันเราต้องสำรวจเวลาและรางรถที่จะขึ้นให้ดี เวลาห่างกันแค่ไม่กี่นาทีเอง เราต้องวิ่งใส่ตีนหมาโกยจริงๆ ลุงวิ่งนำหน้าพร้อมทั้งตะโกนบอกให้วิ่งไปรางรถไฟหมายเลข16   ป้าวิ่งตามแก   ต่างคนต่างหารางรถไฟหมายเลข 16 เราลงรถไฟรางที่5 ต่างพากันวิ่งนับรางกันใหญ่ รางที่5 รางที่ 6 รางที่7 รางที่ 8 รางที่ 9 ลมเริ่มเสียหาไม่เจอ ไม่รู้ว่าอยู่ตรงไหน เสียงลุงด่ากับลมกับแล้งหารางรถไฟไม่เจอ
เธอแน่ใจนะว่ามีรางรถไฟหมายเลข16ป้าถาม
มีซีประเทศชั้นเป็นประเทศรอบคอบคิดก่อนทำ จะต้องมีแต่ ตอนมะแวดเต้อ...........(คำด่า)มันอยู่ตรงไหน
โชคดีสายตาป้าเหลือบมองไปเห็นหมายเลข16 แต่อยู่ไกลมากเราเพิ่งจะอยู่รางรถไฟสายที่10 ลุงบอกมีเวลาขึ้นรถแค่4นาที เท่านี้แหละสองเรารีบใช้ตีนหมาโกยเลย
“Pall เธอทำอะไร ฮี้หมู่สะแตน(คำด่า)เดี่ยวตกรถไฟกันหรอกเหลือแค่ไม่กี่นาที ไม่มีคนสนใจอ่านที่เธอเขียนหรอกน่ะ เขาไม่บ้าบอหรอกถึงอ่านไปเขาก็ไม่รู้ยิ่งพวกต่างด้าวยิ่งไม่รู้ใหญ่ เสียงลุงด่าที่เห็นป้าจดชื่อของหัวจักร รถไฟสายที่จะขึ้น เซ็งจริงๆจะหาความรู้ใส่ตัวไม่มีเวลาจดเลย
เราวิ่งมาถึงขบวนที่จะไปจาก Zuerich–Chur เป็นรถตู้ 2 ชั้น หัวรถจักรเขียนว่า  Reka Rail ยี่ห้อนี้เกี่ยวกับเช็คReka เป็นสปอนเซอร์ของการรถไฟยี่ห้อหนึ่ง ปัจจุบันนี้มีคนหันมาใช้ Reka Schecks ถึง 1,9 ล้านคน

Reka Cheque   

Reka Checks สำหรับนักท่องเที่ยวชาวสวิสหรือคนอื่นๆใช้แทนเงินสดจ่ายค่าตั๋วรถ(สถานีรถไฟ),โรงแรม,ร้านหาอาหารบางแห่ง,และสำนักท่องเที่ยว(บางแห่งไม่รับ)  ที่สวิตเซอร์แลนด์มีสถานที่ทำงานใหญ่หลายแห่งที่จัดขายตั๋วแบบนี้ให้แก่คนที่ทำงานในราคาถูก มีเจ้าของหน่วยงานที่ได้จัดขายตั๋วReka ถึง 2700 ที่ใหญ่ๆเช่นPost,Coop,UBS Bank,Credit Suisse Bank,ประกันเจ็บป่วย Novartis,Manor,Swatch Group

 

เวลาประมาณ 8.33 น.รถไฟเริ่มเคลื่อนที่ออกจากสถานี Zuerich

Zuerich

ป้าตะกายขึ้นรถไฟเกือบไม่ทันเพียงเสี้ยวยาแดงที่ขึ้นมา ลุงด่าทันทีที่เห็นหน้าเพราะเกือบตกรถไฟ รถไฟขบวนนี้มีคนขึ้นมากไปตู้ไหนๆก็เต็มไปหมด จนมาได้ตู้หนึ่งเป็นตู้ให้สูบบุหรี่ได้จึงจำใจต้องหย่อนตูดนั่งลง  รถไฟที่นี่เขาจะมีแยกตู้แบบให้สูบจะมีเครื่องหมายเป็นสีน้ำเงินรูปบุหรี่พ่นควันแต่ถ้าไม่ให้สูบจะเป็นบุหรี่พ่นควันมีเครื่องหมายกากบาทแดงห้ามไว้ ซวยมากตู้นี้นอกจากจะให้สูบบุหรี่แล้วตู้ยังร้อนนอบอ้าวด้วย หญิงสาววัยเอ๊าะนั่งตรงข้ามเราหน้าตาสวยมากป้ามองเพลินเลย น่าเสียดายที่สูบบุหรี่มวนต่อมวน เห็นนั่งกดNatel มือถือดังก๊อกแกรก  สักพักมีหนุ่มหน้าดำตาดำฟันขาวมากเพราะแกเป็นนิโกร 2 คนเดินมา ที่นี่ห้ามใช้คำนี้เรียกคนพวกนี้ว่านิโกรใช้เรียกว่าคนดำถ้าใครไปเรียกจะโดนปรับข้อหาทำร้ายจิตใจ เดินมานั่งข้างๆ พอนั่งเสร็จควักมือถือมาส่งภาษาโละเละไปตลอดทาง เสียงพี่แกดังมาก

ha...chi..hoykpmm  kgkkl;;;;kkk ยิ่งคุยพี่แกยิ่งเสียงดังมากจนเจ้าของประเทศเลิกกดมือถือหันมาดูดบุหรี่ใหญ่ สักพักพี่ดำแกเลิกคุยเอามือถือใส่กระเป๋ามองหน้าคนไปมา คราวนี้พี่แกล้วงหาของในถุงกระดาษใบโตดังมาก เซ็งจริงๆที่ป้านั่งตู้นี้ ลุงแกนั่งหน้าตูมไม่พูดไม่จา ค้อนพี่ดำไปมา

เส้นทางรถไฟสายนี้

รถไฟวิ่งออกจากสถานี Zuerich  ผ่าน สถานี Thalwilและผ่านเข้าสู่ Pfaeffikonเขตจังหวัด Schwyz(SZ) ชื่อเหมือนกันกับPfaeffikon อยู่ที่ซูริค ทิวทัศน์ข้างทางมีไร่ข้าวโพดออกฝักเต็มไปหมด ลุงแกคงจะเซ็งมากเรียกป้าจั่วไพ่ตกลงขณะที่รถไฟวิ่งป้าเลยไม่ค่อยได้ดูวิวเท่าไร ร้อนจนตับแลบ รถวิ่งนิ่มมากเบาะที่นั่งเป็นสีฟ้าค่อนข้างใหม่  ระหว่างทางที่รถไฟวิ่งผ่านจะเห็นแนวทะเลสาบ Walensee

Walensee

Walensee มีความยาวประมาณ 15 กม.สูง 425 เมตรกว่าระดับน้ำทะเล สถานที่แห่งนี้ขึ้นชื่อมากสำหรับพวกนักนักนิยมเดินเขา ,ไต่เขามีความสูงประมาณ 2300 เมตร
การเดินทางโดยรถไฟเส้นทางนี้ยอมรับว่าเป็นครั้งที่ 3 นอกนั้นจะเดินทางโดยรถยนต์ตลอดเวลา ยอมรับว่าไม่ค่อยคุ้นเคยเท่าเส้นทางเท่าไร  ป้าก็จัดว่าเป็นนักท่องเที่ยวเหมือนกันนะตอนนี้ และยิ่งมานั่งจั่วกับลุงเลยไปกันใหญ่ ที่จั่วเพราะเซ็งหนุ่มหน้าดำสุดขีด  สักพักเอาอีกแล้วเสียงโทรศัพท์พี่ดำดังขึ้นเป็นเสียงดังดี๊ดดู๋ๆๆๆๆๆๆๆไม่รู้ว่าแกไปเอาเสียงเมโลดี้มาจากไหน

“haaaa  hiiii fp[h jk   yes..... ” เสียงหัวเราะลั่นแบบสบอารมณ์โก๋ยื่นมือถือส่งให้เพื่อน  พี่ดำอีกคนที่นั่งจ๋องไม่ได้ส่งเสียงอะไรเลยคราวนี้พี่แกได้โอกาสเลยส่งเสียงดังลั่นสงสัยคงเก็บกดมานาน โชคดีที่ปลายทางวางหูไป ทั้งคู่นั่งเงียบกันไม่คุยแล้วสงสัยหมดแรงเห็นนั่งมองอะไรไปมา

รถไฟวิ่งผ่าน Walenstadt สวยมากตั้งอยู่ริมทะเลสาบ Walensee เป็นทะเลสาบแห่งเดียวในสวิตเซอร์แลนด์ที่มีความแคบแบบนี้ น้ำในทะเลสาบเป็นสีขุ่นๆบอกไม่ถูกเหมือนน้ำที่ตักออกจากบ่อบาดาน Walenstadt มีประชากรอาศัยอยู่ประมาณ 4800 คน

   

รถไฟมาหยุดส่งและรับผู้โดยสารขึ้นลงที่ Landquart สถานที่นี้มีคนขึ้นลงเป็นจำนวนมาก ใช้เวลาประมาณ 12 นาทีจะไปถึง Chur.

Landquart

Landquart เป็นสถานที่มีความสำคัญและคนใช้การบริการรถไฟมาก สถานที่แห่งนี้เป็นจุดที่เริ่มต้นการสร้างทางรถไฟสาย Albura ซึ่งใช้ในการเดินทางไป St.Moritz 

รถไฟเริ่มเคลื่อนตัวออกจากสถานีป้าดีใจมากที่พี่ดำทั้งสองลงรถไปพร้อมทั้งสาวสวยสวิส ดีใจมากนึกว่าจะหมดกรรมไม่ต้องนั่งดูดควันบุหรี่  นั่งยิ้มจนลุงด่านึกว่าป้าเริ่มบ้าไปแล้ว ที่นั่งข้างๆป้ากับที่นั่งอื่นๆเต็มไปหมด สักพักยิ้มของป้าต้องหุบลงจนปากเริ่มห้อยเหี่ยว คราวนี้คนดูดบุหรี่ ควันลอยปุ๋ยไปหมดเหมือนปล่องโรงสีตอนสีข้าวพ่นควันโขมงไปหมด ป้าชักตาลายมากไอคอกแครกไปหมด เย้ๆๆๆดีใจมากที่ลุงบอกถึงสถานี Chur แล้วคงหมดกรรมเสียที

 

ถึงCHUR เพื่อไป  SAMEDAN

รถไฟเข้าเทียบชานชลาเวลาประมาณ 9.51 น.เรารีบตาลีตาลานลงจากสวรรค์ข้างบนก็นั่งรถไฟชั้นบนนี่ ป้าชักเป๋แล้วเพราะเมาบุหรี่ลุงบอกให้รีบวิ่งไปขึ้นรถที่เป็นตู้แดงๆอยู่ฝั่งตรงกันข้าม  มีเวลาแค่ 3 นาทีสำหรับวิ่งไปขึ้นรถไฟสายที่จะไป St.Moritz พอรถไฟจอดปั๊บทุกคนต่างทำสถิติใส่ตีนหมาโกยตามๆกัน นี่ขนาดนักวิ่งเก่งๆยังทำสถิติเวลาได้ไม่เท่าเราเลย

  CHUR

เสียงนกหวีดดังปรี๊นๆๆๆๆๆส่งสัญญาณให้รถไฟออกจากสถานี ตรงเวลาไม่ขาดไม่เกิน 9.54 น  เป็นการเริ่มต้นไปสู่จุดหมายปลายทาง CHUR-SAMEDAN

Copyright © 2003 Pallswiss All Rights Reserved