ตอน2           

                <<<< Trip to Samedan >>>>

Allegra!!!
Gruezi!!!
Hello!!!
สวัสดี

 

ออกเดินทางออกจาก CHUR

รถไฟเคลื่อนที่ออกจากชานชาลาสถานีChur ตรงเวลาไม่ขาดไม่เกิน 9.54 น. ป้าช่วยลุงลากกระเป๋าเพราะแกเริ่มเป๋ วิ่งใส่ตีนหมาโกยและทัวร์แบบหมาถูกน้ำร้อนลวกแบบนี้ไม่ดีต่อโรคหัวใจอย่างมาก
แกหอบแฮกๆเหมือนหมาตอนโดนแดดเผา   แต่ละตู้ที่เดินผ่านมีแต่คนนั่งหน้าหุบกันเป็นแถวเดินหาที่นั่งจนอ่อนใจมาได้ที่นั่งตรงประตูคนเดินเข้าเดินออก ตอนแรกที่นั่งไม่ได้ดูว่าเป็นตู้ส่งสัญญาณแบบชาวอินเดียนแดงคือพ่นควันได้  มารู้ตอนที่เห็นคนพ่นควันปุ๋ยไปมา ซวยมากจริงๆคิดว่าจะพ้นกรรมจากขบวนที่นั่งมาจาก
Zuerich-Churยิ่งซวยหนักไปกว่าเดิมมาก เพราะแต่ละคนทำตัวเหมือนกับเป็นเจ้าของโรงงานผลิตยาสูบเอง

ตู้รถไฟที่นั่งเพิ่งมาสังเกตดูตอนหลัง เป็นตู้ไม้มีเบาะสีแดงสมกับสีรถข้างนอกที่เป็นสีแดงคนสวิสชอบสีแดงๆกัน ใครเคยมาเที่ยวแถวนี้จะเข้าใจที่ป้าเขียนแต่คนไม่เคยมาถ้าป้าพูดว่ารถไฟสายนี้เป็นสายที่พอๆกับรถไฟพี่ไทยเราเปี๊ยบเลย  สีที่ทาชะแล็กเริ่มกระด่อนกระแด่นเหมือนหนังหมาขี้เรื้อนตอนเกามากๆ การเข้ามานั่งรถไฟตอนนี้เหมือนเทวดาตกสวรรค์จริงๆที่นั่งและสะภาพไม่สวยเหมือนกับของการรถไฟ SBB เลย รถไฟสายนี้เป็นของส่วนตัว ป้านั่งมองไปบ่นไปจนลุงรำคาญ  ถ้าแกดีดป้าได้คงจะดีดแล้ว

เดินทางมาเพิ่งนึกขึ้นได้ว่ายังไม่ได้กินอะไรกันเลย  ตั้งแต่ลุงไปเข้าค่ายมาแกเปลี่ยนไปเป็นคนละคน  แกบ้ายอมากพอมีคนชมว่าผอมลงหล่อลากดินขึ้นเลยไม่ยอมฟาดอะไรคงกลัวว่าความหล่อจะหลุดเซ็งมาก ทุกทีที่ออกเดินทางจะฟาดของจนเกือบหมดเป้  ป้าเริ่มหิวคว้าพวกขนมของกินออกมาจากเป้ เห็นลูกกระเดือกลุงขึ้นๆลงๆรำคาญมากเลยเรียกแกกิน แหมทำเป็นเล่นตัวพออาหารตกถึงปากฟาดเรียบหมด ขณะที่กำลังกินกันเสียงเปิดประตูเข้ามาเป็นหนุ่มมีหนวดโง้งเหนือปากตรงปลายเรียวกระดกหน่อยๆสงสัยคงเอาน้ำลายลูบเลยตั้งเด่ คนสวิสชอบไว้หนวดกัน เสียงตระโกน ตรวจตั๋วๆๆๆๆเตรียมตัวพี่คำหลังป้าพูดเอง

ป้าเอาตั๋วรถไฟกับบัตรลดครึ่งราคาให้ดู เกือบจะไม่ได้ไปถึงSamedanเสียแล้ว เขาบอกให้ป้ากับลุงเซ็นชื่อข้างล่างด้านหลังของบัตรลดครึ่งราคาที่มีรูปติดอยู่ เราไม่เคยเซ็นเลยตั้งแต่ซื้อบัตรลดครึ่งราคามา ตอนแรก ลุงไม่ยอมเซ็น บอกรถไฟสายนี้กระจอกมากรถของSBBขนาดสายไฮโซยังไม่เรื่องมาก  คนตรวจตั๋วเลยบอกงั้นจ่ายค่าปรับมาเพราะถือว่าบัตรลดครึ่งไม่ถูกต้อง  เกือบตีกันป้ารำคาญมากเลยต้องเซ็นชื่อและบังคับให้ลุงเซ็นด้วย รถไฟมันก็โคลงไปเคลงมา   กว่าจะเซ็นชื่อเสร็จตัวอักษรพันกันวุ่นวายไปหมด

ฮี้หมู่สะแตน ไชเซ่ะ Kruไม่เคยต้องทำเลย Mung ให้ Kruทำglpph fuckkkk” ลุงแกเซ็นไปด่าไปจนเซ็นชื่อเสร็จ ดีนะที่แกไม่เจอข้อหาปากน้องตูบไม่งั้นไปไม่ถึงSamedanแน่ๆ  ว่าไปเราผิดกันนะที่ทำอะไรตามใจตัวเองพอเจอกฎระเบียบเข้าหน่อยเลยเหมือนหมาโดนราดน้ำร้อนราดใส่ ลุงนั่งหน้าตูมไม่พูดอะไรคงแค้นหนักแบบหมาแก่โดนดึงขน ป้าแสบจมูกมากเลยบอกลุงขอไปนั่งข้างนอก

มีที่นั่งแบบดึงออกมาถ้าลุกที่นั่งจะพับเข้าที่เดิมโดยอัตโนมัติ ไม่มีคนมานั่งเลยป้าดีใจมากคิดว่าตูพ้นกรรมแล้วไม่มีคนมาแย่งที่นั่งได้ดูทิวทัศน์คนเดียว นั่งไปไม่ถึง 10 นาทีหูชักอื้อตาชักลายเพราะรถไฟแล่นฉึกฉักเอียงไปเอียงมาเสียงรถไฟวิ่งส่งเสียงดังหวิวๆตลอดเวลาเสียงลมพัดและไฟเขียวคอยแต่จะแลบแวบๆๆ ซวยหนักไปกว่าเก่า เลยกระเซอะกระเซิงไปนั่งข้างๆลุงตามเดิม อยากจะอ๊วกมากเพราะเมาบุหรี่และปวดท้องเยี่ยวแต่พอเห็นสภาพของส้วมแล้วเยี่ยวหด ลุงด่าหาว่าเรื่องมากแกบอกทนไปหน่อยแค่ 2 ชมเอง นั่งดูวิวจนเพลินหายปวดท้องเยี่ยว

วิวข้างทางที่รถไฟแล่นผ่านสวยมากลักษณะแตกต่างจาก Berner Oberland มาก สวยคนละแบบ

ดูข้างบนจะเห็นว่าความสูงค่อยๆสูงขึ้นเรื่อยๆ รถไฟจะค่อยๆแล่นไต่สูงขึ้นเรื่อยๆ จากChur แล่นมาจนถึง Reichenau ที่ตั้งอยู่บนความสูง 604,2 เมตร

Reichenau

 

เส้นทางAlbula ที่รถไฟวิ่ง

รถไฟที่แล่นจาก Chur–Filisurรถจะแล่นเป็นทางโค้งแบบวงกลมถ้าคนสังเกตจะเห็นชัดเจนเหมือนเราแล่นอยู่จุดเดิมคือเห็นวิวเดิมเพราะการสร้างทางรถไฟเชื่อมระหว่างเขาสูงหลายลูกต้องใช้วิธีนี้ลักษณะแบบนี้ไม่เช่นนั้นจะใช้รถไฟแล่นข้ามภูเขาสูงไม่ได้ จะเจอในสวิตเซอร์แลนด์หลายๆแห่ง ถ้าใครเดินทางในเขตBerner Oberland ถ้าสังเกตดูจะเห็นได้อย่างชัดเจนแต่เท่าที่ดูมาไม่ค่อยมีคนสนใจหรอกมีแต่ดูวิวกับฝอยกันจนน้ำลายแตกฟอง หรือบางคนไม่รู้ด้วยว่ามันแล่นแบบนี้  ที่ Reichenau จะมีปราสาทสร้างไว้บนหินที่ยื่นออกมาข้างนอกสวยมาก

 

รถไฟแล่นผ่านเข้า Bonaduz ตั้งอยู่บนความสูง 658.8 เมตร

    Bonaduz

Bonaduz ข้างล่างจะเป็นแม่น้ำที่มีสีขุ่นอมน้ำเงินยวงสวยมาก ที่นี่อยู่ในโครงการอนุรักษ์มีพวกเห็ดขึ้นแถวนี้ป้าพูดแค่นี้พวกเก็บเห็ดชักหูผึ่งตามๆกัน ถ้าใครหลงทางขึ้นรถผิดสายหรืออ่านของป้าแล้วหลวมตัวเดินทางมาเที่ยวแล้วมาทำทัวร์ตามป้าเดะแล้วไม่สบอารมณ์โก๋อย่ามาโทษกันนะ ถ้านั่งรถไฟสายนี้พยายามหาที่นั่งติดด้านขวามือการชมวิวด้านนี้สวยมาก และถ้าเป็นไปได้ห้ามฝอยควรตั้งใจดูให้เต็มที่เพราะทิวทัศน์ที่นี่สวยจริงๆ

 

รถแล่นผ่านเข้าสู่Rhaezuens ตั้งอยู่บนความสูง654,3 เมตรที่นี่รู้จักกันดีเพราะที่นี่เป็นที่ผลิตน้ำดื่มเกลือแร่อันมีชื่อของสวิส"Rhaezuenser"ที่มีขายตามท้องตลาดหลายยี่ห้อและใช้ชื่อแตกต่างกันไป

   

 

Rothenbrunnen แปลตรงตัวคือ บ่อน้ำสีแดง ตั้งอยู่บนความสูง 621,7 เมตร

ที่นี่จะเห็น Schloss Ortensteinปราสาทแห่งนี้ตั้งอยู่บนหุบเขาไม่ต้องมาถามป้านะว่าสร้างเมื่อไรขนาดเจ้าของประเทศเขายังไม่รู้แล้วป้าจะรู้ได้อย่างไรล่ะแต่คิดกะประมาณปี1900อยากรู้ไปหาอ่านเอาเองก็แล้วกัน ดูสภาพของปราสาทแล้วยกให้ป้าไปอยู่ฟรีๆไม่เอาหรอกเพราะกลัวอดตายมองไปข้างไหนก็เจอแต่หุบเขาและหุบเหวลึกยิ่งซุ่มซ่ามแบบป้าอายุคงไม่ยืนตกเขาตายไปเสียก่อน รถไฟสายนี้จอดทุกสถานีแต่ละสถานีมีคนขึ้นลงกันมาก

 

Thusis

   

Thusis ตั้งอยู่บนความสูง 697,2 เมตรสถานที่แห่งนี้จัดว่าใหญ่พอสมควรมีประชากรประมาณ 2780 คนเป็นแหล่งดึงดูดจุดรวมของการเดินทางไปยังสถานที่ต่างๆไม่ว่าจะไป  Spluegenpass  San Bernardinopass

   

Spluegenpass Chiavenna                                 Spluegenpass

San Bernardinopass

San Bernardino-Mesocco-Bellinzonaที่มาของรถไฟสายBernhardinobahn และที่นี่เป็นจุดรวมของการเดินทางด้านรถไฟสายใต้ และรถยนต์

Via Malaschlucht

สถานี Thusisมีผู้หญิงชาวญี่ปุ่นวัยเอ๊าะเดินแบกเป้ขึ้นรถไฟมากับแฟนสวิส แกแต่งตัวสายเดี่ยวจ๊าบมาก มีสร้อยเต็มไปหมด เดินไปยิ้มไปและมานั่งที่นั่งว่างตรงข้ามกับสองเรา  พอนั่งเสร็จกอดจูบกับแฟนนัวเนียไปหมดกอดไปลูบมือไปมาตาป้าเริ่มร้อน มองตาลุงแบบกระตุ้นต่อมโรแมนติกให้ทำงานจนแกด่าว่ามองหน้าทำไมมองหาเรื่องเหรอเซ็งมากนี่ขนาดมีตัวอย่างตรงหน้าให้เห็นน่าจะทำตามบ้าง  ไม่ง้อก็ได้มองดูวิวยังจะชื่นใจกว่าว่าไปตั้งแต่นั่งมาวิวสวยมากดีใจที่ได้มาเที่ยวแถวนี้ หุบเขาแถวนี้สวยมากดูเวิ้งว้างเหมือนมีอำนาจพลังดึงดูด ถ้าใครมาเที่ยวอย่าพลาดสายตายิ่งรถไฟวิ่งผ่านเข้ามายัง Thusis หุบเขาแถวนี้เหมือนกับจะโอบอุ้มเราไว้ ที่แห่งนี้มีซอกเขาที่มีน้ำไหลผ่านดังภาพที่เห็นข้างบนที่ชื่อVia-Malaschlucht ที่แห่งนี้รู้จักกันดีสำหรับพวกนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวซึ่งจะพลาดไม่ได้ ทิวทัศน์โรแมนติกมาก

รถไฟแล่นผ่าน Sils i.D. ตั้งอยู่บนความสูง 735,2 เมตร หุบเขาแถวนี้สวยมากดูเวิ้งว้างโดดเดี่ยวเดียวดายเหมือนนกไร้คู่ ที่นี่เราจะเห็นที่ตั้งไฟฟ้าใหญ่โตเป็นศูนย์กลางสำหรับจ่ายกระแสไฟฟ้าจะเห็น Schyn-Schlucht ถ้าใครเป็นโรคกลัวความสูงอย่ามองเดี๋ยวจะใจหว็อยๆหัวใจวายเอาเพราะสูงพอควรประมาณ 400 เมตร มีคนมาเดินเขาและขี่จักรยานพวก Bike กันมาก

Schyn-Schlucht   

รถไฟมาหยุดที่ Solis ตั้งอยู่บนความสูง 850,7 เมตร จะเห็นสถานีตั้งอยู่โดดเดี่ยวท่ามกลางหุบเขาที่เงียบสงบเหมือนโดนปล่อยเกาะ ซอกเขาสูงชันและที่นี่จะเห็นพวกเขากำลังก่อสร้างอุโมงค์ 14 แห่ง สะพานใหญ่ 3 แห่ง  รถไฟแล่นผ่านให้เราชมธรรมชาติข้างทางมาตลอด ที่นี่จะพบพวกหินคริสตัลต่างๆ

 

Tiefencastel

ตั้งอยู่บนความสูง 883,7 เมตร เป็นเขตที่มีประเพณีเก่าแก่มากที่สุดของจังหวัด Graubünden มีประชากรอาศัย 300 คน เขตนี้มีpass ทางขับรถขึ้นเขาลงเขาที่ขึ้นชื่อคือ Julierpass  และ Albulapassอยากเห็นว่าหน้าตามันเป็นอย่างไรแค่ไหนไปดูที่ป้าเขียนเกี่ยวกับInformationขี้เกียจเอามาลงใหม่ถ้าไม่อยากเปิดไปดูก็ตามใจ

ที่นี่จะมีโบสถ์สวยมีชื่อคือ Kirche St. Peter สร้างในสมัยปี800

St. Peter Kirche

ที่นี่มีวิวสวยมากคนจะมาทำการถ่ายรูปกันถ่ายที่ไหนก็สวยทุกมุมเหมือนนางงามตอนได้รับมงกุฎไม่มีผิดเพราะได้เห็นวิวสะพานที่เรียกกันว่า Landwasser–Viadukt.

Travelling over a viadukt

Viadukt(วีอาดุกคฺ) ป้าได้ยินลุงพูดถึงคำนี้บ่อยจนหูชาก็ยังไม่ค่อยเข้าใจความหมายจนแกปล่อยหางป้าแล้วป้าถึงได้รีบเข้าใจเอาใจแก  สะพานไหนก็ตามถ้าเราเห็นเขาสร้างเป็นช่องๆจะสร้างสูงหรือสร้างเตี้ยแบบที่เห็นในรูปคนสวิสจะเรียกว่า Viadukt  ลุงอธิบายไปเอารูปให้ดูว่าเรียกแบบนี้นะ ป้าพยักหน้าหงึกหงักอยู่คิดในใจดุกก้อดุกแกถึงได้ดีใจว่าป้าเริ่มฉลาดขึ้น

ภาพที่เห็นนี่คนอยู่สวิสจะเห็นภาพนี้จนตาดำเพราะจะออกทีวีทุกวันช่องSF1ที่ทีวีเขาจะค่อยๆคลี่ผ้าม่านเขียนคำว่า SF DRS

   

รถที่แล่นผ่านสถานี Surava มีชื่อเสียงทางด้านเดินทางไกลwanderทิวทัศน์สวยงามมาก และมีชื่อเสียงทางด้านขับขี่จักรยานVelotourและคนมาเล่นสกีกันตอนหน้าหนาว Alvaneu  จุดนี้เราเรียกว่า Landwasser Viadukt มีทิวทัศน์สวยมากจุดเดินทางไกล
สะพานที่เราเห็นในรูปสูง 65 เมตร ยาว 130 เมตร เราจะเห็นรถไฟแดงแล่นผ่านเข้าอุโมงค์และแล่นเข้าสู่สถานี Filisur

ช่วงนี้อย่ากระพริบตาอย่างเด็ดขาดวิวสวยมากจากแผนที่ๆเห็นจากข้างบนจะเห็นว่ารถไฟแล่นสูงขึ้นตามลำดับ เครื่องหมายสี่เหลี่ยมสีดำที่เห็นคืออุโมงค์

 

Filisur ที่สถานีแห่งนี้ยังมีระฆังเก่าตีบอกเวลารถไฟ และสถานีนี้สามารถขึ้นรถไฟไปDavos Filisur มีเสน่ห์มากมีบ้านทรงEngadin อันเก่าแก่ น้ำตกสวยงาม ทางเดินสำหรับคนรักการเดินทางไกล

 

Stuls

ตั้งอยู่บนความสูง 1276,5 เมตร ที่นี่มีสิ่งที่น่าสนใจเช่นโบสถ์ สถานีรถไฟอันมีชื่อเสียง การเดินทางไกลโดยใช้เส้นทางที่เราเรียกว่าHEIDI เดินไปที่ Falein เพื่อทำความรู้จักกับบ้านของHeidi สถานที่เขาใช้สร้างหนังมีนักท่องเที่ยวพากันมาก็เพราะอิทธิพลของหนังที่สร้างชื่อ Heidi นักเขียนชื่อJohanna Spyri

หนังเรื่องHeidi หนังเรื่องนี้สร้างมานานแล้วนะตั้งแต่ปี 1937 เป็นหนังที่ชาวอเมริกันสร้างเป็นเรื่องแรก ป้าชอบดูหนังของคนสวิสสร้างมากที่ชื่อHeidi เป็นหนังขาวดำที่สร้างปี 1952ต่อมาเขาทำเป็นหนังสี  ป้าชอบคนที่แสดงเป็นปู่ของไฮดี้มาก นักแสดงคนนี้แสดงเก่งและดังพอๆกับสมบัติ เมทะนีหรือ มิตร ชัยบัญชา ตอนนี้นักแสดงขึ้นสวรรค์กันเกือบหมดแล้ว แต่ตัวแสดงที่แสดงเป็นไฮดี้ยังมีชีวิตอยู่แต่อายุคงจะร่วม70ปีแล้ว เห็นยังแสดงหนังอยู่บางครั้ง ต่อมาก็เป็นไฮดี้นักแสดงเป็นเด็กออสเตรียตอนนี้โตเป็นสาวมีลูกมีผัวไปแล้วเด็กคนนี้มีผมหยิกหยองมากน่ารักดี  สถานที่แห่งนี้เขามาใช้ถ่ายทำหนังเรื่องไฮดี้ คนเลยอยากมาดูสถานที่ถ่ายทำ บ้านทรงเก่าที่นี่สวยงามมาก

Heidiปี 1937 คนสร้างเป็นชาวอเมริกัน Shirley Templeแสดงชื่อหนัง Little poor girl เป็นภาษาอังกฤษ Heidi ปี 1952 เป็นภาษาสวิสเยอรมัน

Little poor girl 1937        Heidi 1955

 

Berguen

Berguen

Engadin House Style

สูงประมาณ 1372,3 เมตร จัดว่าสูงอันดับ6ของทางรถไฟสายนี้เป็นศูนย์กลางของรถไฟสาย Albula จะเห็นรถไฟวิ่งเป็นทางโค้งกลม สถานที่แห่งนี้เป็นจุดสนใจและกระตุ้นให้นักท่องเที่ยวพากันมาเที่ยว อย่างของป้านี่เรียกมาเพราะว่าหาซื้อตั๋วได้ราคาถูกมากไม่เช่นนั้นคงจะยังไม่มาหรอก คงแบบใกล้เกลือกินด่างบ้านทรงเก่าที่นี่สวยงามมาก  ที่นี่หน้าหนาวทุกหนทุกแห่งเป็นน้ำแข็งหมดจะมีนักเล่นล้อเลื่อนจำนวน 1 แสนคน /ปีมาเล่นวิ่งกันตั้งแต่ Preda –Berguen ถนนหนทางเขาจะปิดเพื่อใช้เล่นล้อเลื่อนโดยเฉพาะ

   

Preda ตั้งอยู่บนความสูง 1788,7 เมตร

เส้นทางตั้งแต่ Filisur -Preda-Val Bever เส้นทางสายนี้ สวยมากและจะเข้าอุโมงค์ตลอด เส้นทางสายAlbulatunnel (อุโมงค์Albula) เป็นเส้นทางที่น่าสนใจมากเป็นอุโมงค์ยาวประมาณ 5865 เมตร และเป็นอุโมงค์ที่สร้างบนเทือกเขาสูงระหว่าง Preda ,Val Bever,Spina

สังเกตดูจะเห็นว่าเส้นทางรถไฟสายนี้จะแล่นเป็นวงกลมกลับไปมาและเข้าอุโมงค์ตลอดเวลา เป็นความฉลาดของนักวิศวกรชาวสวิส พวกเราชาวสวิสฉลาดมากเพราะบ้านเมืองเราเต็มไปด้วยเขา เส้นทางรถไฟระหว่างBerguen-Preda

เตรียมตัวได้แล้วนะจะถึง Samedan แล้วมัวแต่นั่งตาเยิ้มน้ำลายไหลยืดอยู่ได้ นี่ชั้นบอกแล้วนะให้นอนแต่หัวค่ำมัวแต่มาจับคอมเสียงลุงด่าป้าถึงได้รู้สึกตัวมัวแต่นั่งมองดูวิวเพลินจนหัวโงกเกือบฟุบหลับ
เวลา11.41 น.ตรงพอรถไฟจอดที่สถานี Samedan พวกนักท่องเที่ยวและนักย่องเบาขึ้นเขาทั้งหลายต่างพากันแล่นถลาลงจากรถไฟกันเป็นแถวๆรวมทั้งเราด้วย

 

Samedan

Samedan  ตั้งอยู่บนความสูง 1705,4 เมตร

หลังจากลงจากรถไฟแล้วหัวหน้ากระเหรี่ยงทัวร์ยืนเซ่อเหมือนไก่หลงหาทางกลับเข้าเล้าไม่ถูก เราต่างมองหาคนท้องถิ่นที่โชคร้ายหลงทางมา ยืนนานมากไม่เห็นใครเลยนอกจากพวกหน้าตาโนะเนะยืนเต็มไปหมด ลุงหายไปนานผิดสังเกตมาก ป้ารู้สึกใจคอไม่ค่อยดีจึงทิ้งกระเป๋าตามหาแกนึกว่าแกนอนน้ำลายฟูมปากหัวใจหยุดเต้นไปแล้ว ทีไหนได้เห็นแกคุยกับสาวจ๊าบน้อยอยู่น้ำลายกระเด็นเป็นฟอง ป้าสงสารสาวคนนี้มากที่โชคร้ายไม่ได้ดูฤกษ์ยามหลงมาเจอลุงเห็นเช็ดน้ำลายที่กระเด็นไปมา อายุแกคงประมาณ 40กว่าได้แต่งตัวชุดพื้นเมืองของ Samedan
สาวสวยคนนี้ชี้มือชี้ไม้บอกสถานที่จนลุงต้องคอยหลบไปมา แกบอกลุงว่าโรงแรม Sport Hotel อยู่ไม่ไกลจากสถานีรถไฟเท่าไรเดินแค่ 5 นาที เหงื่อหยด1หยดก็ถึงแล้ว สองเราบวกลบคูณหารค่ารถเมล์แล้วเห็นด้วยนึกว่าอยู่ไม่ไกลและประหยัดเงินได้ตั้งเยอะร่วม 5  สวิสฟรังก์ บอกแล้วว่าเราไม่ขี้เหนียวแต่เงินเราค่อนข้างจะเป็นตังเมหน่อยกว่าจะควักได้มันติดกระเป๋าหนึบหนับ

เดินกระเซอะกระเซิงขึ้นเนินเขาดูสภาพไม่ต่างกับพวกอพยพตอนหลบหนีเข้าประเทศไม่มีผิด ช่วยกันฉุดกระชากลากกระเป๋าขึ้นเขาเดินกันจนขาขวิด ใครต่อใครที่ขับรถผ่านมาหรือคนที่นั่งรถเมล์ที่แล่นผ่านไปต่างพาจ้องมอง เขาคงคิดว่าเรามาคิดก่อการร้ายที่นี่เป็นแน่
ฮี้หมู่สะแตน ไหนบอกว่าไม่ไกล ไชเซ่ะ ไหนไอ้โรงแรมมันอยู่ไหนเห็นไหม  นี่เธอขนอะไรมามากมายหนักชิบ...เลย  ตอนมะแวดเต้อะ
เออ ไช่เซะ  l;g;;;;j;;;;;;” ช่วยด่าส่งเสียงดังจนลุงแกรีบหยุดบอกใจเย็นๆฉัดสะรี่(ที่รัก)  ขาเป๋ขึ้นทุกทีนี่แหละผลของการประหยัดเงิน
เห็นแล้วอยู่โน่นๆๆๆๆๆๆๆๆๆเดินๆเราต้องพากันเดินๆๆๆๆ ลุงร้องเพลงดีใจสุดขีด งานนี้รอดตายแล้วถ้าขืนให้ลากกระเป๋าเดินต่อสงสัยหัวหน้ากระเหรี่ยงทัวร์ไม่ได้กลับบ้านแน่ๆ ยิ่งอากาศร้อนจัดแบบนี้ทำให้เกิดคดีทำร้ายร่างกายกันขึ้นง่ายๆ
รถพากันเบรกเป็นแถวเพราะกลุ่มกระเหรี่ยงทัวร์เดินเป็นเจ้าถนนๆสายนี้ขับรถได้แค่คันเดียวเพราะแคบมาก
บ๊อบบี้ ระวังรถ!!!!!เธอรอให้รถมันแล่นผ่านไม่ได้เหรอไงเดี๋ยวโดนชนตายหรอกป้าดึงชายเสื้อแกจนเสื้อยืดกลัวรถชนแกตาย แต่แกทำเป็นหยิ่ง
จะบ้าเหรอมาดึงเสื้อชั้นทำไมเดี๋ยวขาดหรอกรู้ไหมตัวนี้ใส่แล้วใครๆก็ว่าชั้นหล่อมีตัวเดียวที่ใส่แล้วหล่อรถลองมาชนจิจะได้รู้ว่าใครแน่กว่าใคร กฎหมายระบุไว้เราใหญ่กว่ารถยนต์นะถ้ามันชนเรา มันจะต้องโทษหนักโดนยึดอำนาจใบขับขี่ โดนปรับหรือโดนขังหรือเอ...จำไม่ได้แล้ว.......
เซ็งมากป้าเลยปล่อยให้แกซ่าจนพอใจแบบนี้ถ้าไม่เห็นโลงศพไม่หลั่งน้ำตา เห็นรถแต่ละคันเบรกรถจนตัวโก่งคนขับทำปากหมุบหมิบไปมาแต่ไม่อยากจะชนแกสงสัยคงเห็นสภาพหัวหน้าทัวร์ป้าแล้วอโหสิกรรมให้

 

Sporthotel Samedan

ดีใจกระโดดจนตัวลอยรอดตาย ถ้าให้เดินต่อไปอีกคงจะไม่ได้เที่ยวกันคงจะเกิดคดีทำร้ายร่างกายตกเขาลงหนังสือพิมพ์หน้าหนึ่ง แน่ๆ  โรงแรมที่เราจะมาพักอยู่ห่างจากสถานีรถไฟพอควร และป้ายรถPost อยู่ตรงหน้าโรงแรมพอดี สภาพของโรงแรมค่อนข้างใหม่ อยู่ห่างจากสนามกอล์ฟพอสมควร  เราเดินเป๋เข้าไปในโรงแรมไม่มีใครอยู่เลยสักคน หาที่กดกริ่งเรียกหาไม่เจอจนลุงต้องร้องตระโกนเรียก

ฮัลโล ซีๆๆ(Sieคุณ)มีใครอยู่ไหม  ยู้ฮูๆสักครู่มีสาวอึ๋มเดินออกมาเป็นสาวเยอรมันแท้ๆไม่มีผสม เราบอกชื่อเขาว่าจองโรงแรมเรียบร้อยแล้ว เสียงกดแท่นจ้องดูจอคอมก๊อกๆแกรกๆสักครู่เขาบอก
“Sie จ่ายแล้วอืม ห้องเต็มไปหมดตอนนี้  ซี(Sieคุณ)จะต้องรอหน่อยนะรอคนทำห้องก่อนแขกเพิ่งจะเช็คเอ๊า นั่งรอตรงนี้ก็ได้นะ

อะไรนี่เที่ยงกว่าแล้วนะ อิค(ICH ฉัน) เดินทางมาเหนื่อยจะเข้าห้องแล้วนะและจะเดินเขากันแล้ว
โรงแรมไรวะอิค ไปเที่ยวมาทั่วโลกไม่เคยเจอ
lkkhp[  ลุงส่งเสียงโวยวายหน้าเป็นมันย่องเพราะเราเดินเป๋ขึ้นเขามาที่โรงแรมจนเหงื่อแตกไทรมไปหมด เสียงแกดังจนสาวอึ๋มรำคาญจนต้องกดกริ่งเรียกคนทำห้องให้รีบมา

“Ja, ich จะรีบทำให้ชั่วคราวก่อนนะ ถ้าซี(Sie) ออกไปจะทำให้เช้งวับเลย ชั้นตัวคนเดียวทำหมดทั้งโรงแรมนะคนทำห้องรีบบอกเอาใจลุงจนแกใจอ่อนหรือจนอ่อนใจป้าก็ไม่รู้เพราะผู้หญิงคนนี้พูดจนลุงอ้าปากเถียงไม่ทัน  ตกลงเรื่องสงบศึกลงได้เราต้องรอ  ลุงแกถามเรื่องทัวร์ถามอะไรไม่รู้เรื่องอะไรกันเลยหน้าแกตูมมาก ธรรมดาหน้าแกก็ตูมอยู่แล้วเรียกว่าตูมจนติดตัวแกไปแล้ว
เพิ่งจะรู้ว่าโรงแรมแห่งนี้อายุ
130 ปี เป็นของชาวเยอรมันที่เพิ่งซื้อกิจการต่อจากเจ้าของเดิมได้ 1 เดือน คนทำงานทุกคน สิ่งของทุกอย่างแม้กระทั่งกระดาษเช็ดตูดก็มาจากเยอรมันทั้งสิ้น เรียกว่าไม่ยอมให้สวิตเซอร์แลนด์ได้งาบเงินออยโรของแกเลย  โรงแรมนี้มีห้อง 49 ห้องมีห้องน้ำ ทีวี โทรศัพท์ทุกอย่างสะดวกสบายมาก ราคาไม่แพงเกินไป

คนทำห้องมาบอกว่าเสร็จแล้วพาเราไปชั้น 2 ข้างนอกมีแต่รองเท้าคนเดินเขาวางเต็มไปหมด เรารีบพากันเดินเข้าห้องเพราะเวลาเหลือน้อยลงทุกที อีกอย่างกินอาหารเย็นที่นี่มื้อนี้ฟรีและห้ามมากินเกิน 21.00 น ห้องอาหารจะปิด หลังจากนั้นเราก็พากันแต่งตัวลากเป้สำหรับเดินเขาขึ้นมาเพื่อเตรียมพร้อมกับการออกทัวร์ครั้งนี้

Copyright © 2003 Pallswiss All Rights Reserved