<<<< Heart >>>>
ตอนหัวหน้ากระเหรี่ยงทัวร์วูบ ลุงจัดว่าเป็นนักเที่ยว แกชอบเที่ยวมากไม่ว่าฝนจะตกฟ้าจะร้อง แบบหมาไม่อยากจะยื่นหน้าออกจากชายคาบ้าน แต่แกต้องออกไปเหยียบรอยตีนหมาให้ได้ ถ้าออกไปได้ถึงจะนอนตาหลับ แกไม่เที่ยวคนเดียวต้องดึงป้าให้ไปร่วมชะตากรรมด้วย และการเที่ยวของแกเป็นการเที่ยวแบบหมาถูกน้ำร้อนลวกใครที่เคยอ่านการไปเที่ยวแต่ละครั้งของป้าจะรู้ดี แกเป็นหัวหน้าทัวร์ที่แย่มากไม่สนใจลูกทัวร์เท่าไร สังเกตจากสมาชิกที่หดหายหน้าไป แต่ละทัวร์ที่แกจัดขึ้นมา สงสารแม่แกมากที่หลงคารมไปเก็บลูกเกาลัดทางภาคใต้กับแกจนลมจะจับตาย ดีนะที่แกพกยาลมไปด้วยจะเหลือแต่ป้าที่ต้องจำใจไปกับแกนี่แหละที่ป้าหลงผิดไปลงชื่อสมัครเป็นสมาชิกตลอดชีวิตกับแกจะลาออกก็ไม่ได้ ไปไหนกับลุงแกแต่ละครั้ง จะต้องไปแบบเอาสำลีอุดหูไปด้วย ถ้าไม่อุดหูซ้ายจะชาไปแถบหนึ่งเลย ป้าเพิ่งจะสังเกตหูตัวเองตอนที่แกทิ้งป้าเข้าโรงพยาบาลนี่เองเพราะอาการหูข้างซ้ายดีขึ้น ไม่มีเสียงอะไรรบกวนอีกต่อไป ทุกอาทิตย์ แกจะพาป้าไปเดินบนภูเขาและเขาแต่ละลูกจะสูงประมาณ 2000กว่าเมตรบางแห่งจะชันประมาณ 10% เดินแต่ละทีน่องโป่งเลย เพราะเดินทั้งวัน ลูกชายป้าสองคนตอนมันเป็นเด็กต้องจำใจเดินไปด้วย พอโตขึ้นมามันไม่ตามแล้ว มันคงเข็ดขี้อ่อนขี้แก่ไอ้คนเล็กของป้ามันบอกเดินแบบพ่อมันนี่สุขภาพทรุดโทรมว่าไปมันก็ถูกของลูกมันนะที่พูดแบบนี้ บางครั้งจะบ้าตาย พาป้าเดิน 3 ชมเต็มๆไปดูดอกไม้แค่ดอกเดียวและเหี่ยวด้วย แกบอกนี่นะประทับใจมาก แทบจะดีดแกจริงๆ เล่าให้แม่แกฟังแกสมน้ำหน้ามากบอกอยากบ้าตามลุงทำไม เหตุการณ์เที่ยวแบบนี้เกิดขึ้นทุกอาทิตย์จนอยู่มาวันหนึ่งเหตุการณ์เพิ่งเกิดเมื่อเดือนที่แล้วเดือน พฤษภาคม 03 ลุงแกนั่งกลางแผนที่...ที่ทางสมาคมการเดินเขาที่แกเป็นสมาชิกจัดนำเที่ยวและพูดจนน้ำลายกระเด็นเต็มแผนที่ไปหมด pall
อาทิตย์นี้น่าสนใจนะรายการเที่ยวทางสมาคมที่เขาจัดมา pall
ชั้นละเซ็งเธอมาก นั่งจนตูดบานแล้วเห็นไหม ไม่ขยับตูดออกกำลังกายเลยไปเดินทางไกลกับกลุ่มของชั้นงานนี้เธอต้องมาเดินด้วยเเล้วนะ ไม่นานแค่30 กม. คนที่เดินล้วนแต่สูงอายุ 70อัพทั้งนั้น เขาเดินกันได้เธอต้องเดินได้ ชั้นจะโทรลงชื่อเธอไปด้วย ลุงแกบังคับ ป้านั่งหน้าตูมทั้งวันแต่ก็ดีใจที่นักเดินล้วนแต่แก่ๆแบบนี้รับรองเดินกันไม่ไวหรอก ตกลงกลุ่มที่ไปกันทั้งหมดรวม 11 คน ตอนแรกที่เดินออกจากThun เพื่อไป Interlakenทางก็ราบเรียบดีต่อมาเริ่มชั้นขึ้นบนเขาป้าเริ่มหอบแต่คนแก่เดินคุยกันกระหนุงกระหนิง นี่ขนาดแก่มากนะป้าแทบจะคลานเลย คนแก่อายุ80 กว่าปีเดินนำหน้าลิ่วไปแล้ว ลุงก็เริ่มหอบผิดสังเกตมาก Bobby เธอเป็นอะไรทำไมหน้าซีดมากเมื่อคืนก็นอนไม่มีคนมากวนใจนี่ป้าต้องรีบพูดเดี๋ยวจะเข้าใจกันผิดๆว่าแกทำงานหนักตอนกลางคืน ลุงแกบอกไม่มีอะไรนอกจากหน้ามืดและเจ็บหน้าอก แต่ไม่นานก็หายไปป้าเข้าประคองแก pall ชั้นไม่ใช่เบบี้ไม่ต้องมาประคองหรอก ป้าแทบจะดีดแก ไม่ประคองก็ได้ไม่ง้อ เราเดินกันจนถึงจุดหมายปลายทางคือ Interlaken เพื่อขึ้นรถไฟกลับบ้าน ป้าเองเดี้ยงคารถไฟเลยหลับนั่งคอพับน้ำลายไหลยืดมาตลอดทาง ลุงนั่งคุยกับคนข้างๆน้ำลายกระจายฟุ้งจนเขาลงจากรถ ป้าแสนจะสงสารผู้โดยสารคนนั้นมากแกคงจะหูอักเสบไปหลายวัน เหตุการณ์ผ่านมาอีกเรื่อยๆยังไม่มีอะไรที่ร้ายแรงเกิดขึ้น pall
นี่เธอควรจะเลิกแชทได้แล้วนะชั้นรู้สึกว่าเธอทำหน้าที่บกพร่องไปมาก
กลางคืนมัวแต่มาแชทไม่กะดู๋กะดี๋กับชั้นเหมือนก่อนเลย
ชั้นขอภาวนา
ให้คอมเธอพังวันละหลานร้อยหนและเธอไม่ฟิดเหมือนสมัยก่อน แหมฟิตที่ชั้นพูดนี่ชั้นหมายถึงการเดินออกกำลังกายเธอ ไม่ใช่อย่างอื่นเพราะเห็นเธอเดินกับคนแก่แค่นี้เธอถึงกับหอบเป็นหมาตอนอากาศร้อนมาก แกพูดเลี่ยงๆๆ ป้าคิดในใจปล่อยให้แกด่า การด่าถือว่าแกบอกรัก แต่ยังเป็นห่วงลุงแกมากที่แกหน้าซีดมากรู้สึกว่าผิดปรกติมาก
Bobby
เธอควรไปหาหมอสักหน่อยนะหน้าเธอเหลืองมาก
ลุงไม่สนใจและแกเที่ยวเต้นแร้งเต้นกาไปตามประสาหนุ่มหลงวัยแบบแก แกซ่าแบบนี้ตลอดมา จนมาถึงวันเกิดเหตุที่ร้ายแรงที่สุด..............ในชีวิต
โรคหัวใจ เมื่อวันที่ 1 มิย.03 ซึ่งเป็นวันอาทิตย์อากาศสดชื่นมาก แต่ลุงแกไม่ได้ไปไหนหรอก เพราะติดภารกิจร้องเพลงกับสมาคมรถไฟซึ่งมานัดเจอกันทุกภาคที่Bern ลุงแกซ่าซ้อมร้องเพลงไม่ได้หลับไม่ได้นอนมาตั้งแต่วันพฤหัส ศุกร์ และวันเสาร์เขามาร้องเพลงกันจัดที่ Kursal ใหญ่โตมาก หน้าตาลุงแกระริกระรื่น แต่งตัวสุดหล่อ แต่พอจะผูกไทต์ แทบจะฆ่ากันตาย อย่าขยับซี กำลังมัดคอให้ ป้าบ่นเซ็งจัด pall ผูกแบบเธอชั้นจะหายใจไม่ออกทำไมเบี้ยวแบบนี้ ชั้นหมดหล่อเลย อ้อๆๆๆๆๆๆๆจะแต่งตัวอวดสาวๆเหรอแก่จะตายอยู่แล้ว แหมนานๆจะเจอกับคนทั่วๆไป ต้องแต่งให้หล่อๆเธอจะได้ดีใจมีผัวหล่อไง ไอ้ผ้าบ้านี่ผูกอย่างไรวุ้ยเคยผูกได้ทำไมลืมนะ. ฝ่านมันรำคาญพ่อมันมาก เพราะเห็นอยู่หน้ากระจกหวีผมจนไม่กระดิกมาเป็นชั่วโมงทั้งๆที่ไม่ค่อยจะมีผมหรอกป้าเพิ่งจะย้อมสีให้แกเสร็จโชคดีที่ออกมาเป็นสีน้ำตาล มีอยู่ครั้งหนึ่งสงสัยทำผิดพลาดผมแกออกมาเป็นสีส้มไปไหนมาไหนแกต้องใส่หมวกตลอดเวลา เรียกว่าป้าโดนแกด่าจนสีผมแกหลุดหมดจนเหลือผมหงอกตามเดิม ฝ่านมันเปิดคอมหาแวบผูกไทต์ให้พ่อเป็นอันว่าผ่านพ้นไปได้ พอตกดึกลุงกลับมาหน้าตาเหมือนปลากระดี่ได้น้ำพร้อมทั้งบอกว่ามีแต่คนชมว่าร้องเพลงเพราะมาก ชั้นอยากให้เธอมาเห็นจัง มีเมียคนอื่นเขาไปกันหมด มีเธอไม่ไปคนเดียวมีสาวๆมาขอเต้นรำกับชั้นด้วยนะ ใครล่ะที่มาขอเธอเต้นรำ ก้อแคธี่ไง ป้าแทบจะดีดแกเพราะเเคธี่อ่อนกว่าแกแค่5ปีเองป้าไม่หึงหรอก ป้าต้องไล่ลุงเข้านอนเพราะหน้าตาแกอิดโรยมากวันรุ่งขึ้นซึ่งเป็นวันอาทิตย์ลุงต้องตื่นนอนตั้งแต่เช้า พากลุ่มที่มาจากต่างจังหวัดเที่ยวชม Bern และต่างพากันร้องเพลงอำลาเป็นครั้งสุดท้าย แกกลับมาบ้านเย็นมาก มาถึงก็มานอนแผ่2สลึงบนโซฟาหน้าตาซีดมาก เหงื่อออกท่วมตัวบ่นออกมาเบาๆ ปวดไหล่มาก และแสบหน้าอกปวดจนถึงฟันกราม ป้าเห็นหน้าแกซีดมาก อยากจะพาแกไปหาหมอแต่แกบอกไม่เป็นไร เห็นแกค่อยดีขึ้นเป็นปรกติดดีเลยหมดห่วง วันจันทร์แกไปทำงาน และแกโทรหาหมอขอนัดแบบฉุกเฉินจากที่ทำงาน เห็นแกบอกเขาจะนัดแกไปอาทิตย์อื่นแต่แกบอกต้องมาด่วน ป้าคุยกับเพื่อนมันบอกทันทีว่า ลุงอาการแบบเป็นโรคหัวใจนะ พอตกเย็นลุงเดินหน้าซีดเข้าบ้านบอกนัดหมอไว้แล้ว ป้าบอกสงสัยโรคหัวใจเกิดกับแกแน่ๆ แหมแกหันมาด่าหาว่าป้าปากหมามาแช่งแก เดินบ่นมุบมิบพร้อมทั้งบอกจะกลับมากินมันผัด หลังจากกลับจากหาหมอแล้ว ป้ากำลังแชทอยู่ตามปรกติและแล้ว วงแชทแทบกระจาย ลุงส่งข่าวมาด่วนว่าหมอตกใจมาก ลุงเป็นโรคหัวใจตายได้กระทันหัน ไม่รู้รอดมาได้อย่างไร ป้าอำลาวงแชทแทบไม่ทันพร้อมทั้งพาลุงนั่งรถแท็กซี่ไปโรงพยาบาลโดยด่วนโรงพยาบาล Insel ที่ใหญ่ที่สุดของBern คนเต็มหมด ที่ไหนก็เต็มหมดเหลือที่ Tiefenau อยู่นอกเมือง ฝ่านมันมาด้วยมันแต่งตัวสุดหล่อ เห็นนัดกับเพื่อนจะไปดูหนังกันมันยกเลิกนัดตามมาด้วย มันฉีดน้ำหอมจนลมจะใส่ พาลุงนั่งรถแท็กซี่ทำเอาหัวใจแทบจะวายเพราะแพงมาก พอมาถึงโรงพยาบาลพาลุงไปรายงานตัวแทบจะบ้าตาย มีปุ่มให้เลือกกดหลายปุ่มมากและต้องเสนอหน้าให้กล้องเห็น ลุงกดและรอนานมากร่วม 10 นาทีจึงมีเสียงตอบมา บอกเดี๋ยวจะมารอนานมากจึงมีคนออกมา บอกวันนี้คนไข้เต็มไปหมด ให้ลุงรอต่อรอให้หมอมาดูอาการ ฝ่านนั่งหน้าตูม ลุงนั่งหน้าบูด ป้าเดินจนเบื่อ หมอถึงมา ลุงต่อว่าหมอใหญ่คงเซ็งมากแต่หมอยิ้มแบบอารมณ์ดีและพาแกเดินเข้าห้อง OPป้ากับฝ่านต้องออกมารอข้างนอกจนหมอให้กลับบ้านเพราะเห็นดึกมากและลุงพูดอะไรไม่ได้หมอทำงานฉุกเฉินมาก ป้าไม่ได้นอนทั้งคืนรอฟังผล จนหมอโทรมาหาบอกลุงโชคดีรอดพ้นความตายมาได้อย่างหวุดหวิดมาก ให้ป้ามาเยี่ยมได้ตอนบ่ายๆ มาเยี่ยมลุง ป้าออกเดินทางจาก Koeniz ตอนเที่ยงกว่าๆมาถึง Bern และมานั่งรอรถไฟจนถึงเวลารถไฟเคลื่อนที่ออกจากสถานี นั่งสงสัยตลอดทางทำไมมันไม่ยอมจอดป้ายหน้า ถามฝรั่งที่นั่งข้างๆ เขาบอกว่านั่งรถไฟผิดสาย ซวยมากเลยป้าต้องลงป้ายหน้าและถามเขาเพื่อไปโรงพยาบาล Tiefenau จะย้อนกลับไปตั้งต้นขึ้นรถใหม่คงเสียเวลาเป็นชั่วโมงอยากเจอลุงมาก ฝรั่งแก่ใจดีบอกถ้าเดินเองจะเสียเวลาแค่ครึ่งชมเอง ป้าหอบหิ้วกระเป๋าเสื้อผ้าเครื่องใช้จำเป็นของลุงหนักมากจะโยนทิ้งหลายหน กัดฟันเดินจนเหงื่อไหลท่วมตัว จนมาถึงโรงพยาบาล เขาย้ายลุงเข้ามานอนอยู่ ห้อง OP 1 ในห้องมีคนนอน 3 คน แต่ละคนมีสายห้อยระโย้ระย้าเต็มไปหมด ลุงนอนหน้าเหลืองซีดรออยู่ ตัวแกมีสายไฟเล็กๆแปะตรงหน้าอกเต็มไปหมด และมีจอให้ดูภาพการทำงานเต้นของหัวใจที่แขนกำลังให้น้ำเกลืออยู่ แกบอกรอป้านานแล้วอยากเยี่ยวมากแกอายไม่อยากให้นางพยาบาลมาจับน้องหนู ป้าต้องควานหาแหมมันคงอายจริงๆหลบหน้าหลบตาไม่ยอมเจอผู้คน ตรงข้อพับหน้าขาหมอเขาแปะพลาสเตอร์หนาปึกใหญ่มากแปะอยู่ ลุงถามว่าทำไมป้ามาช้า ป้าบอกแกว่านั่งรถไฟผิด แกบอกดีแล้วจะได้ออกกำลังกาย ผิดคาดวันนั้นทั้งวันลุงไม่บ่นอะไร ป้ารู้สึกเหมือนขาดอะไรในชีวิต ลุงนอนหลับๆตื่นๆ จนดีขึ้นหน่อยจึงคุยกันแกเอารูปหัวใจมาให้ดูดังภาพที่เห็นพร้อมทั้งอธิบายให้ฟังว่า
ที่หมอเอาปากกาขีดๆนี่คือเส้นใหญ่สำคัญมากที่เป็นเส้นลูกศรที่มีสีหนักๆดำๆคือเส้นที่อุดตันมากเลือดไม่ไหลเดินเลย เพราะอุดตันแข็งจนเลือดไหลไม่ได้ หมอพยายามใช้ลวดแทงให้ทะลุแต่ไม่ได้ผลอะไรทุกวันนี้ที่ลุงยังมีชีวิตเพราะเส้นเลือดฝอยสร้างใหม่ให้เลือดไหลผ่าน เป็นอันว่าการเจาะช่วงหน้าขาครั้งแรกเพื่อใช้ลูกโป่งของลุงไม่ได้ผลอะไร ต้องรออีก 2อาทิตย์หมอจะพยายามทำการใช้ลวดดันแทงใหม่ ลุงบอกหมอใช้ความพยายามชั่วโมงกว่าๆถึงได้ยอมแพ้ และให้ความหวังลุงครั้งที่สองถ้าทำสำเร็จเลือดนิ่มตัวลง และใช้ลวดดันจนสิ่งที่อุดตันในหลอดเลือดโคโรนารี่หลุดออกมาได้จะได้ฝังท่อเล็กๆทำด้วยพลาสติก หุ้มด้วยสารใยพิเศษทำเป็นตาข่ายเอาใส่ไปตรงตำแหน่งที่อุดตัน
ภาพหลอดเลือด หมอให้ลุงอยู่ในความควบคุมอย่างเข้มแข็งต้องทำตามทุกอย่าง และให้กินยาและฉีดยาเพื่อให้เลือดและสิ่งอุดตันในหลอดเลือดโคโรนารี่นิ่มตัวลง ซึ้งต้องใช้เวลาประมาณ 2อาทิตย์ ลุงทนอยู่ที่โรงพยาบาลได้แค่อาทิตย์เดียวแกจะคลั่งตาย ขอออกมาก่อน มาฉีดและกินยาเองที่บ้าน หมอเห็นแกเคยฉีดยาเองมาก่อนตอนช่วงที่แกเคยผ่าตัดสะโพก เลยอนุญาตแบบไม่ค่อยเต็มใจนัก เขียนใบอนุญาตบอกคนไข้สมัครใจกลับเอง ลุงดีใจมากเดินเที่ยวพล่านไปสำรวจทั่วโรงพยาบาลคุยกับใครต่อใครมั่วไปหมด แกเป็นคนช่างคุยมาก
มาวันหนึ่งก่อนออกจากโรงพยาบาลไปเจอคนไข้เคยมาผ่าตัดที่นี่
เขาแหวะอกที่ผ่าตัดให้ลุงดูและให้ดูช่วงข้อเท้าที่หมอใช้เจาะวางท่อลุงฟังคนไข้ที่มีอายุไล่เลี่ยกับแกฟังไปหัวหดไป
เขาบอกว่าแหวะอกเอาลวดดึงยึดไว้
เอาหัวใจมาใส่ถาดหัวใจยังเต้นดุ๊บดิ๊บไปมาลุงแกเลยกลัวมาก
แกตาขาวเรื่องนี้บอกกับป้าว่าจะอ้อนวอนพระเยซูป้าเลยบอกกับแกว่าพระเยซูต้องช่วยแกแน่ๆ
เพราะแกร้องเพลงกล่อมพระเยซูทุกปีลุงแกได้ขึ้นสวรรค์เพราะกลุ่มร้องเพลงของแกที่พาเข้าโบสถ์ปีละครั้ง
พอหมอบอกให้กลับบ้านได้ลุงแกดีใจมากเหมือนได้ขึ้นสวรรค์
รายการยาที่ต้องกิน
สมาชิกใหม่
ระหว่างที่ลุงมาพักฟื้นอยู่ที่บ้าน
คนไข้กับคนดูแลแทบจะตีกันตาย
เพราะช่วงที่แกทั้งกินทั้งฉีดยาที่พุง
บ๊อบบี้ๆๆๆๆๆๆๆๆๆ................
อยู่มาวันหนึ่ง ระหว่างที่ลุงกับป้ากำลังจั่วกันอยู่มีเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น
ในเช้าวันอาทิตย์ ป้าต้องระวังไม่ให้กลิ้งทับลุง นิดน่ารักมาก ปากนิดจมูกหน่อยตรงกับสะเป็คลุงแกเลย บอกยินดีให้นิดแม่ลูกสามสมัครเป็นสมาชิก กระเหรี่ยงทัวร์ได้ ป้าสงสารนิดมากเห็นลูกกระเดือกขยับไปมา นี่คงไปนอนก่ายหน้าผากเรื่องสมัครเข้าเป็นแฟนคลับพาเที่ยวของลุงดีไหม?????? เราสามคนพากันเดินเที่ยวระยะทางสั้นๆ ลุงไม่ค่อยมองอะไรหรอกนอกจากมองสาวนมโตของแก ชี้มือชี้ไม้มั่วไปหมดชี้ให้นิดดูสาวๆของแกนิดเริ่มจะเชื่อแล้วที่ป้าเขียน ตอนเป็นหนุ่มๆเห็นพกแต่หนังสือเพลบอยซึ่งมีแต่สาวๆนมตั้งเต้าชูช่อใหญ่ทั้งนั้น ป้าละเซ็งจริงๆที่แกมองนมป้ากับนมวัว นิดมาอยู่ได้ไม่นานต้องกลับไปดูน้องแฝดป้าซึ้งใจมากจริงๆที่มาเยี่ยมลุง วันที่รอคอย
ใกล้วันที่ลุงจะเข้าโรงพยาบาลเข้ามาทุกทีป้าคุยโทรกับแม่
แกเป็นห่วงมากเข้าๆออกจากวัด เหมือนออกทัวร์ทำบุญ
นั่งสมาธิ ทำบุญ
ทำทุกอย่างแกบอกทำที่ไหนก็บอกส่งให้โรเบิด ชุท ณ ประเทศสวิตฯ เข้าโรงพยาบาล
เพื่อนเอารถมารับลุงตั้งแต่เช้าลุงกระสับกระส่ายมาก
จิตใจแกไม่อยู่กับเนื้อกับตัวเท่าไร ป้าเอารูปปู่โตให้แกกราบ
แกทำตามทุกอย่างคงกลัวมาก
ป้าเดินพล่านไปมามองดูแต่นาฬิกา
แต่ละวินาที..ความรู้สึกเหมือน..เดินอยู่บนก้อนกรวดพื้นทรายที่ร้อนระอุ..เป็นห่วงลุงมาก
เงี่ยฟูฟังแต่เสียงโทรศัพท์....... เจอหน้าคนป่วย
ลุงแกตระโกนเรียกป้าทันทีที่เห็นหน้า
ป้าแล่นถลาไปจูบแกทันที...หน้าตาลุงสดใสมีเลือดฝาดมากแดงระเรื่อ.....แกบอกหมอใช้ลูกโป่งและทำให้แกคนเดียว2
ชั่วโมงครึ่ง แกทำเป็นคนที่3
วันนั้นหมอทำงานหนักมากกับลุงคนเดียวเหงื่อหยดเต็มไปหมด
และลุงรีบกระซิบบอกป้าอยากเยี่ยวมาก
แหมแกเจอหน้าป้าทีไร
ป้าต้องทำหน้าที่คีบลูกชายแกออกจากอู่ลูกเดียว
แกเยี่ยวออกมามากจนเต็มถังพลาสติก
ป้าต้องใช้เวลานานปลอบขู่ลูกชายแกจนยื่นหน้าออกมาเยี่ยวได้
นางพยาบาลบ่นกับป้าว่าลุง
ไม่ยอมให้แกทำ
ต้องรอให้เมียมาก่อน วันรุ่งขึ้น
เขาย้ายลุงเข้ามาห้อง
OP2
มีคนไข้3คน
นอนในห้อง
ลุงได้เล่าให้ป้าฟังถึงการใช้ลูกโป่งแกเล่าถึงวิธีทำน่าสงสารแกมาก
หมอเจาะตรงโคนขาง่ามตรงตรงจุดเดิมที่เจาะมาตั้งแต่คราวที่แล้ว
และหมอใช้ท่อพาสติกยัดเข้าไปและอุดใช้เวลาประมาณครึ่งชมกดเพื่อให้เลือดหยุดและนางพยาบาลจะต้องกดตรงตีนแกเพื่อช่วยหาตำแหน่งเส้นเลือดแกบอกปวดมาก มีหมอ
2
คนและศาตราจารย์ที่ทำหน้าที่ชำนาญโดยเฉพาะมาคุมเองเสียงสั่งงานตลอดเวลาเขาพากันยกร่างแกขึ้นวางบนเตียงที่มีกล้องการทำงานส่งรับภาพ
เตียงใหญ่ขนาดพอตัวพอดีแกเจ็บมากตอนช่วงที่เขายกตัวแกขึ้นเตียง ระหว่างที่ยกต้องระวังอย่างเต็มที่เพราะมีหลอดพลาสติกคาอยู่
และเริ่มทำงานทันที
1ชั่วโมงผ่านไป............
จนจะ2ชั่วโมงครึ่ง............. การทำงานของการใช้ลวด ที่ค่อยๆดันเข้าเส้นเลือด
ลูกโป่งที่จะใช้ขยายดันหลอดเลือดสวมบนแท่งพลาสติก
หมอกำลังใช้น้ำยาดันขยายลูกโป่งขายหลอดเลือดเพื่อให้หลอดเลือดขยายตัว
ท่อเล็กๆอันนี้ราคาแพงมากหมอบอกประมาณ CHF 2000คิดเป็นเมืองไทยตก6หมื่นกว่าๆ คุยกับหมอ
ป้าไปนั่งเฝ้าดูแลลุงทุกวัน กว่าจะกลับบ้านได้ค่ำมืดดึกดื่นทุกคืน
แกคางอ๋อยๆบอกปวดหลังมาก
วันแรกลุงแกปวดท้อง
ปวดหลังมากปวดจนหน้าซีด
หมอมาขยับดูตรงหน้าท้องที่แปะพลาสเตอร์หนาเตอะและตรงง่ามขาที่ยังมีท่อพลาสติกคาอยู่
หมอให้อดทนและเห็นใจมากเฝ้าตรวจดูว่ามีเลือดไหลไหม
ลุงนอนตาลอย
นับนาฬิกาที่หมอบอกอีก 4
ชม.นางพยาบาลจะมาเปิดแกะเอาพลาสเตอร์ออก หมอบอกสาเหตุการเกิดโรคหัวใจเกิดได้หลายสาเหตุ
เช่นเครียด.......สงสัยถ้าจะจริงของหมอ
ลุงด่าป้าจนเป็นโรคเครียดลงหัวใจ
แกชอบพูดว่าคนใกล้ตัวมากๆเป็นสาเหตุ
บอกเป็นกรรมพันธุ์
ป้าหันไปถามลุงว่า
ปู่ย่าเป็นไหม แกหันมาด่าว่าถามทำไม
แกจะไปรู้ได้อย่างไร
แกยังไม่ได้เกิด
พ่อแม่ก็ตายหมดแล้ว เรื่องอ้วน นี่แกชอบกินมาก ขนาดยังนอนกินเลย ตกลงของลุงเลยหาสาเหตุไม่ได้อย่างชัดเจนป้าเลยบอกลุงว่าไม่ตายง่ายๆหรอก หมอดูบอกลุงจะอยู่จนอายุครบ90ปี...ป้าไม่อยู่จนถึงอายุเท่าแกหรอกขอไปก่อน........... ความดันสูง ลุงไม่เป็น ไม่ค่อยออกกำลังกาย ป้าชักเริ่มคิดว่าออกกำลังแบบไหน ถ้าซ่าออกกำลังกายนอกเตียงแกซ่ามากถ้าซ่าออกกำลังกายอย่างอื่นอาจจะจริง หมอฟังแล้วคงรำคาญ 2 คนผัวเมียมาก บอกแล้วจะมาใหม่วันพรุ่งนี้ และอนุญาตให้ลุงกลับบ้านได้วันพฤหัส ลุงบอกไม่อยากกลับอยากอยู่ต่อ หมอบอกต้องกลับ ป้าเซ็งลุงมากถามว่าอยากจะอยู่ต่อจริงเหรอ ส่วนที่เขาให้อยู่ต่อรั้นจะกลับ พอจะให้กลับอยากอยู่ต่ออีก แกบอกพูดเล่น ตกลงลุงนอนพักอยู่โรงพยาบาลคราวนี้แค่3คืนดีใจมาก........เพราะเหนื่อยมาก ป้าบอกลุงว่าไม่มารับแกนะ ให้แกกลับกับเพื่อน บทส่งท้าย ป้าจัดบ้านต้อนรับแกแบบไม่ยอมลงทุนอะไรมาก คว้ามีดไปตัดดอกไม้ข้างถนน ที่มันเพยอหน้ามาลืมตามองโลก อยู่ 3ช่อ ขนาดแทรกออกมาจากเสาคอนกรีตนะ ลำต้นผอมโซสภาพแบบเด็กขาดอาหารแถวเอธิโอเปีย และป้าไปตัดดอกไม้ที่เหี่ยวแห้งเพราะสดๆมันตายหมดแล้วตรงสนามหญ้าเอามาปักเเจกัน นี่ทุ่มทุนสุดขีดต้อนรับลุงกลับบ้านอย่างมโหฬาร
ปิ๊นๆๆๆๆๆๆๆๆลุงมาแล้ว...เดินระริกระรี้...กลับมาบ้าน.........พอเปิดประตูเข้ามา
โอ๊ยแกยิ้มแก้มปริบอกเพื่อนว่าเมียจัดดอกไม้ต้อนรับแก..........ธรรมดาป้าไม่เคยจัดหรอกแกทำคนเดียวเพื่อนไปแล้ว
ลุงบอกอยากไปดูดอกไม้ข้างล่าง
ป้าพาไป.. ลุงกับป้ารอมันจนเย็น มันถึงโทรมาบอกว่าตกเครื่องบิน ลุงเลยได้โอกาสด่า นี่แกระรานคนเขาไปทั่วเลย เราคอยมันจน4ทุ่ม ฝ่านมันโทรมาบอกว่าลงจากเครื่องบินแล้ว ไม่มีรถไฟมา พ่อมันบอกไม่มีรถไฟกลับบ้านจริงๆให้ไปนอนที่สถานีรถไฟ ป้าถามมันว่าดูตารางรถดีแล้วเหรอมันบอกดีแล้ว ลุงแล่นถลาไปดูคู่มือแก บอกว่ามีอีกขบวนจะออกภายใน3นาที เซ็งไอ้ลูกชายจริงๆ ตกลงมันมาถึงBERN ร่วมตี1 ด้วยความรักลูก ลุงแกขับรถไปรับหมอยังห้ามอยู่ไม่ให้ขับรถยนต์ 1 เดือนเต็ม
พอมาถึงบ้านไอ้ลูกฝ่านมันเอาใจพ่อแม่
เอาของฝากมากองให้
บอกของกินสำหรับพ่อแม่
ลุงบอกที่มันซื้อมาเราไม่ค่อยชอบกินหรอก ของชอบของไอ้ลูกฝ่านทั้งนั้นเห็นไหมมันเลี้ยงต้อย.....พ่อแม่...... 26
มิถุนายน 03 http://www.bangkokhealth.com/heart_htdoc/heart_health_detail.asp?Number=9021
|
Copyright © 2003 Pallswiss All Rights Reserved |
![]() |
![]() |