<<<< วันคริสต์มาส (Weihnachten) >>>>
วันนี้จะเป็นวันที่เจิดจ้าไปด้วยแสงไฟจากเทียนไขที่ปักบนต้นสนและห้อยด้วยเครื่องประดับนาชนิดเพื่อก่อให้เกิดความสวยงาม และใต้ต้นสนจะเต็มไปด้วยของขวัญจำนวนมากมายที่ต่างจะมอบให้แก่กันและกัน วันนี้ทั้งบ้านจะอบอวลไปด้วยความรักความอบอุ่น เหตุการณ์ผ่านมาเช่นนี้ทุกๆปีจนกลายเป็นประเพณีที่จะต้องจัดกันขึ้นมาเพราะหมายถึงเป็นการรวมญาติพี่น้อง พ่อแม่ลูก ที่อยู่ห่างไกลกันให้มาเห็นหน้ากัน ประเพณีแบบนี้คนไทยเราไม่ค่อยรู้จักความหมายและความเป็นมาของมันท่าไร ไม่รู้ว่าที่ทำกันนั้นเพื่อจุดประสงค์อะไร
Advent (อัดเว้นท์)
ก่อนคริสต์มาส 4 อาทิตย์จะเริ่ม เราจะเรียกกันว่า Advent ในหลายๆบ้านและในโบสถ์จะมีพวงหรีดวางหรือห้อยอยู่ บนหรีดมีเทียนปักอยู่ 4 แท่ง
ในอาทิตย์แรกเขาจะจุดเทียน 1 แท่ง
ประวัติความเป็นมาของหรีด (Advent ) ประเพณีนี้เพิ่งมีมาไม่นานเท่าไรนักสมัยนั้น ได้มีนักบวชศาสนาโปรเตสแตสท์ ที่ชื่อ Johann Hinrich Wichern(โยฮัน ไฮนริค วิคแคร์น) เป็นคนแรกที่คิดทำพวงหรีดขึ้น ที่ Hamburg (เมือง ฮัมบูร์ก) พวงหรีด “การมา” Advent แรกที่ทำขึ้นมา เป็นหรีดไม้ รูปร่างคล้ายล้อรถ มีเทียนปัก 23 แท่ง (เทียนใหญ่สำหรับวันอาทิตย์ 4 วัน และเทียนเล็กสีแดง 19 แท่ง สำหรับวันธรรมดาก่อนที่จะถึงวัน Heiligen คือวันที่ 24 ธันวาคม) อีก 21 ปีต่อมาถึงได้มีหรีดทำด้วยกิ่งสนเป็นครั้งแรก บ้านโบราณเมื่อสมัย 150 ปีที่ผ่านมาใหญ่และมีอาณาเขตกว้างขวางกว่าจึงทำใหญ่โตได้แต่บ้านสมัยใหม่มีขนาดเล็กกว่าเลยต้องคิดปรับปรุงให้สมกับสภาพ ดังนั้นหรีด Advent ในปัจจุบันจึงปักเทียนเพียง 4 แท่งเท่านั้น Advent เป็นคำลาตินมีความหมายแปลว่า”การมา” ทุกคนที่ได้ยินแล้วจะรู้สึกงงไม่เข้าใจความหมายว่าเราพากันฉลอง “การมา” ของใคร “การมา” ในที่นี้คือการเสด็จมาในโลกนี้ของพระเยซูคริสต์ พระบุตรของพระเจ้าผู้ทรงพระชนม์อยู่ ด้วยเหตุอันนี้ Advent จึงเป็นการตระเตรียมสำหรับวันคริสต์มาส
Advent ปีนี้เริ่ม วันอาทิตย์ที่ 30 พฤศจิกายน 03 วันนิโคเล้าส์(Nikolaustag) วันซันตาคลอส
นิโคเล้าส์ (Nikolaus) หรือ ซามิเคล้าส์ (แล้วแต่การเรียกแต่ละถิ่น) มีชีวิตอยู่ในศตวรรษที่4 ท่านเป็นบิชอบแห่งไมร่าในเอเชียไมน่อร์ (ปัจจุบันคือประเทศตุรกี) มีตำนานเล่ากันว่า นิโคเล้าส์ (Nikolaus) เป็นคนดีและชอบช่วยเหลือคน ครั้งหนึ่งได้ช่วยเหลือครอบครัวที่ยากจนมากครอบครัวหนึ่ง ครอบครัวนี้จะแต่งงานลูกสาวและไม่มีเงินสินสอดสำหรับลูกสาว 3 คน (สมัยนั้นถ้าไม่มีเงินสินสอดผู้หญิงจะแต่งงานไม่ได้) เด็กสาวทั้ง 3 คนจึงเอาถุงเท้าที่ซักแล้วตากไว้ที่เตาผิง เช้าวันรุ่งขึ้นแต่ละคนพบก้อนทองคำในถุงเท้าของตนเองเพียงพอที่จะใช้เป็นสินสอดได้ ตอนหลังรู้ว่าเป็นการกระทำของท่านบิชอบ เพื่อเป็นการรำลึกถึงบิชอบแห่งไมร่า พวกเด็กๆจะเอารองเท้าไปวางไว้ตรงหน้าประตูบ้านตอนกลางคืน ก่อนวันที่ 6 ธันวาคม (วันนิโคเล้าส์ วันซันตาคลอส) เพื่อที่จะได้รับขนมหวาน ถั่วลิสง บางครั้ง ซันตาคลอสจะเข้ามาในบ้าน หรือตามร้านค้า เพื่อเอาถุงของขวัญมาแจกเด็กๆ (ว่าไปถุงของขวัญพวกนี้พ่อแม่เตรียมไว้ให้) หรือบางครั้ง ซันตาคลอส จะนำไม้เรียวมาหวดเด็กที่ดื้อเกเร นิโคเล้าส์ ( ซันตาคลอส) เป็นที่รู้จักกันดีในหลายประเทศ แม้แต่ในประเทศไทยเรา ในหลายๆครอบครัวจะมีปฏิทิน Advent ห้อยแขวนอยู่ เพื่อช่วยให้เด็กรอวันสำคัญ วันคริสมาสต์ ทุกๆวันจะเริ่มต้นด้วยวันอาทิตย์แรกของ Advent เด็กจะพากันเปิดหน้าต่างบน ปฏิทิน Advent 1 บาน ข้างในภาพจะมีรูป ข้อพระคัมภีร์ หรือของขวัญเล็กๆน้อยๆ และหน้าต่างจะเปิดจนถึงวันสุดท้าย.............
วันคริสต์มาส คริสต์มาสไม่ใช่เทศกาลที่คนคิดขึ้นมา เราฉลองวันนี้ก็เพราะพระเจ้าทรงมาปรากฏในโลกนี้ในร่างของพระบุตรองค์เดียวของพระองค์ คือ พระเยซูคริสต์ ท่านทรงมาช่วยให้เราให้รอด มันเป็นงานฉลองวันประสูติของพระบุตรของพระเจ้า (เราไม่ทราบแน่ชัดว่าพระองค์ประสูติวันใดแน่) แต่เชื่อกันว่าความรักของพระเจ้าที่มีต่อมนุษย์จะมอบให้แก่คนที่เชื่อมั่นเคารพในพระองค์ วันคริสต์มาสเป็นงานฉลองแห่งความรักที่ทุกปีเตือนให้เราได้รำลึกถึงเหตุการณ์อันน่ายินดีที่เกิดขึ้นเมื่อ 2000 ปีที่แล้ว
ต้นคริสต์มาส ประเพณีดั้งเดิมนี้มีมาก่อนที่จะมีคริสต์ศาสนาอีก ความจริงแล้วไม่เกี่ยวกับวันคริสต์มาสเลย เราพบประเพณีนี้ที่แคว้น เอลซาส (Elsass ปัจจุบันคือฝรั่งเศส)และในป่าดำ ประมาณ ปี 1509 สมัยนี้ถือกันว่าต้นคริสต์มาสเป็นส่วนหนึ่งของวันคริสต์มาส ทุกๆปีในหลายบ้านและในโบสถ์ และตามที่สาธารณะต่างๆ จะมีการประดับต้นคริสต์มาสอย่า งสวยงาม จนกลายเป็นสัญลักษณ์ของวันคริสต์มาสไป
ของขวัญวันคริสต์มาส ดั้งเดิมจริงๆของขวัญวันคริสต์มาสเป็นแค่ความรักที่พระเยซูได้มอบให้แก่เราและเราได้มอบความรักนี้ให้แก่กันเท่านั้น แต่ในปัจจุบันนี้ของขวัญพวกนี้กลับกลายเป็นการค้าเสียแล้ว ซึ่งนำรายได้แก่ร้านค้าต่างๆทำให้คนขายของเหน็ดเหนื่อยมาก และเป็นการบีบบังคับให้เราหาของขวัญให้แก่กันก่อให้เกิดความเดือดร้อนไม่มีความสุข ซึ่งจัดว่าเป็นภาระที่บางคนรู้สึกเบื่อหน่ายมากแต่จำใจต้องทำ น่าเสียดายที่คนสมัยนี้มีแต่เปลือกนอกของการฉลองคริสต์มาสเหลืออยู่คือต้นสนคริสต์มาสและของขวัญที่ต่างรอคอย แก่นแท้ของการฉลองวันนี้ได้ถูกลืมเลือนไปโดยสิ้นเชิง ขออวยพรให้ทุกๆท่านที่เข้ามาอ่านโฮมเพจ pallswiss มีความสุขความเจริญและฉลองวันคริสต์มาสดัวยความรักและความยินดี อย่างแท้จริง
|
Copyright © 2003 Pallswiss All Rights Reserved |
||