<<< Neujahrstag >>>

[pall]

<<<   Neujahrstag - 1. Januar >>>
<<< New Year's Day - 1 January >>>
 
ทั่วโลก มีการเฉลิมฉลองปีใหม่ตามวันที่ปรากฏอยู่ในปฏิทิน
วันนี้จะถือให้เป็นวันหยุด ถ้าสังเกตดูแต่ละประเทศจะจัดงานวันนี้ ขึ้นอยู่กับเศรษฐกิจและประเพณี  
แต่ทั่วๆไปแล้วเราคาดหวังกับ การเปลี่ยนแปลงใหม่ๆในวันที่ย่างขึ้นปีใหม่ ให้มีสุขภาพดี
มีความร่ำรวยและเจริญก้าวหน้า  มีอายุยืนยาว

ในอดีตประเทศบางแห่งจะมีขนบธรรมเนียมประเพณีวันปีใหม่
เวลาการจัดแตกต่างกันไปซึ่งในปัจจุบันยังเห็นอยู่อย่างชัดเจน
จากหลายๆประเทศที่มีการนับและเรียกเฉลิมฉลองต้อนรับปีใหม่
จะไม่ใช่วันที่ 1 มกราคมซึ่งเป็นวันปีใหม่สากล
 
**อย่างชาวโรมันยุคแรก** จะจัดต้อนรับวันปีใหม่ในเดือนมีนาคม
 
**ชาวอียิปต์โบราณ** จะสังเกตดูจากการท่วมของแม่น้ำไนล์(Nile)
ซึ่งเกิดในเดือนมิถุนายน  ถ้าน้ำท่วมเมื่อไรจะจัดการเฉลิมฉลอง เต้นรำ
และจัดงานเลี้ยงต้อนรับแหล่งน้ำที่จะมาช่วยหล่อเลี้ยง พวกพืชธัญญาหาร
และช่วยชุบชีวิตสิ่งมีชีวิตทั้งหลาย ที่ตกอยู่ในความแห้งแล้ง
 
**จูเลียสซีซาร์**
ก่อนคริสต์ศักราชของศตวรรษที่1ปฏิทินที่ก่อตั้งขึ้น โดยจูเลียสซีซาร์
ปีหนึ่งมี365วันปีหนึ่งมี12เดือนได้ถูกนำมาเสนอ ให้เดือนมกราคมเรียกชื่อว่า Janus
เพื่อเป็นการแสดงถึงเกียรติยศ ของพระเจ้าJanus ที่เป็นที่นับถือของชาวโรมัน  
พระเจ้าJanus เป็นพระเจ้าที่มีสองหน้า
คือหน้าหนึ่งจะมองไปสู่ข้างหน้าซึ่งเป็นอนาคต หมายถึง new year
และอีกหน้าหนึ่งจะมองอยู่ข้างหลังคืออดีต old year
ชาวโรมันเลยจัดเป็นประเพณีจัดงานถวายแก่พระเจ้าJanus ทุกปี
และแลกเปลี่ยนของขวัญและตั้งความปารถนาให้มีโชคดี
 
**Constantine**
Constantineจักรพรรดิโรมองค์แรกที่ปกป้องคริสต์ศาสนา
ได้จัดให้วันปีใหม่ไม่มีการเลี้ยงเฉลิมฉลองกินอาหารอะไร วันนี้ทุกคนจะต้องพากันอดอาหาร
คริสต์ศาสนิกชนสมัยนั้น ต่างพากันเชื่อกันว่า
จัดวันนี้ให้เป็นวันแห่งการใช้จ่ายที่ดีที่สุด
และเป็นการแสดงการเสียใจต่อการกระทำที่ไม่ดีมาก่อน
หลายๆปีเป็นคติที่สร้างให้เพื่อความเป็นอยู่ในปีที่จะมาถึง
ปัจจุบันมีชาวโรมันคาทอลิกจำนวน1,000,000,000คน
ถือว่าวันที่1มกราคมเป็นวันสำคัญฉลองถวายเทิดทูน
พระเกียรติ์พระแม่มารีแม่ของพระเจ้านับให้เป็นวันสำคัญทางศาสนา
 
ผู้เคร่งครัดในศาสนาคริสต์ของประเทศนี้แสดงความไม่เห็นด้วย
ไม่ยอมรับการนับถึงวันใดๆแม้กระทั่งวันปีใหม่ ต่างเชื่อกันว่าเป็นความคิดนอกรีตที่ทำแบบนั้น
ปฏิเสธที่จะเรียกคำว่ามกราคม จะพากันใช้คำว่าเดือนแรกแทน
 
**1 มกราคม วันขึ้นปีใหม่ **
ตั้งแต่คนมีปฏิทินใช้ต่างกันในโลกต่างกันและต่างมีงานฉลองปีใหม่
เฉลิมฉลองไม่พร้อมกันหรือเหมือนกัน เพราะวัฒนธรรมต่างกัน
การสร้างปฏิทินของพวกเขาก่อนหน้านี้ใช้เวลานาน
และหลายๆอย่างตั้งอยู่บนพื้นฐานบนการเคลื่อนไหว
ของดวงจันทร์สิ่งเหล่านั้นขณะที่อื่นๆอยู่บนพื้นฐานบนตำแหน่ง ของดวงอาทิตย์สิ่งเหล่านั้น
วัฒนธรรมหลายๆอันอยู่บนพื้นฐานบนคุณภาพของดวงอาทิตย์
และดวงจันทร์ปฏิทินของพวกเขา  ในฐานะผลปีใหม่ ถูกเฉลิมฉลองแบบใหม่
รอบๆโลกและผู้คนโดยจำเป็นไม่มีความเชื่อที่แบบดั้งเดิมที่เหมือนกัน


**กระทู้นี้เป็นกระทู้เดิมหมายเลข 0114 ห้อง pallswiss (เผื่อใช้ในการค้นหา)**

[pall]

 
 
 **การเริ่มต้นปีใหม่ของแต่ละแห่งจะเฉลิมฉลองไม่เหมือนกัน**
 
 การเริ่มต้นของคริสต์สาสนาทำกันมานานแล้ว
 ตั้งแต่สมัยของ Papst Innozenz XII (12)
 ที่ได้เริ่มต้นทำเป็นครั้งแรกปี1691
 ซึ่งได้เริ่มเอาวันที่ 1 เดือนมกราคมเป็นวันเริ่มต้นขึ้นปีใหม่
 สำหรับศาสนาคริสต์ ,โรมันคาทอลิกบางแห่ง
 จะถือว่าวันที่ 25 ธ.ค. ถือว่าเป็นวันปีใหม่
 ศาสนาอื่นๆต่างมีการนับวันปีใหม่แตกต่างกันไปแล้วแต่ประเทศ
 
 **ความเชื่อถือต่างๆต้อนรับปีใหม่**
 
 ตามหลักทั่วๆไปเราจะคิดเหมือนกันว่า
 ถ้าปีใหม่เริ่มต้นดีแล้วเราจะดีตลอด
 ดังนั้นทุกๆคนต่างพากันระมัดระวังและพยายาม
 ทำอะไรที่เราเชื่อและเหมือนกับเป็นโชคลางของขวัญ
 เพื่อการเริ่มต้นที่ดีและดีตลอดปี ประเทศบางแห่ง
 มีความเชื่อต่างๆกันไปเช่น
 
 บางแห่งพวกแม่บ้านเชื่อถึงขนาดไม่ยอมซักผ้าวันปีใหม่
 เพราะกลัวเภทภัยที่จะเกิดขึ้นกับตนเอง  
 และเพื่อต้อนรับโชคดีที่จะเข้ามา
 ถ้าซักผ้าวันเริ่มต้นปีใหม่เหมือนขับไล่โชคดีไป
 และตลอดทั้งปีจะต้องทำงานหนักทั้งปี
 
 บางแห่งจะบอกว่าถ้าวันปีใหม่ได้กินอาหารเลิศรสดี
 เป็นเครื่องหมายที่ชี้ให้รู้ว่าตลอดทั้งปีจะไม่อดอยาก
 
 บางแห่งจะเชื่อในโชคลางอย่างมาก
 ถ้าเริ่มต้นวันเข้าปีใหม่แม่บ้านจะเอาเกล็ดปลาตะเพียน
 ไปวางใต้จานอาหารของพ่อบ้านและพ่อบ้านจะเก็บ
 เอาเกล็ดปลาตะเพียนไว้ในกระเป๋า
 ตลอดทั้งปีเงินจะไม่ขาดมือจะเต็มกระเป๋าตลอด
 
 บางแห่งจะเชื่อในโชคลางมากบอกว่า
 ถ้ากินอาหารพวกซุบถั่วสีแดงในวันเริ่มปีใหม่
 จะเป็นเครื่องนำโชคดีมาให้ตลอดทั้งปีจะมีเงินใช้ไม่ขาดมือ
 หรือถ้ากินกระกล่ำปีดองตอ้นรับปีใหม่จะมีความหมายเหมือนกัน
 
 และเชื่อกันว่าถ้ากินอาหารหลายๆอย่างหมุนเวียนกันและเครื่องดื่ม
 เพื่อเป็นการไล่ปีเก่าและต้อนรับปีใหม่ซึ่งเป็นการเชื่อทางไสยศาสตร์
 
 **ทวีปยุโรป**
 ถือว่าอาหารที่ทำมาจากหมูหรือกินหัวหมูหรือลำตัวหมูตัวเมีย
 แล้วจะนำโชคดีใหญ่มาให้
 
 อย่ากินเนื้อไก่ในวันปีใหม่เพราะไก่จะนำโชคดีบินหนีไป
 ประเทศทางแถบลุ่มแม่น้ำไรน์เลยแก้เคล็ดโดยการเลี่ยงมากิน*น
 ในวันปีใหม่แทน
 
 ยังมีอีกมากมายเกี่ยวกับความเชื่อถือในโชคลาง
 และบางแห่งยังทำกันอยู่อย่างเคร่งครัด
 
 
 การได้รู้อะไรถึงแม้เราไม่ทำตามเพราะคิดว่าเ
 ป็นความงมงายเหลวไหลไร้สาระ
 แต่ก็ไม่ใช่เรื่องเสียหายทำให้เราได้รับรู้กับความเชื่อถือ
 ในเรื่องโชคลางของฝรั่งที่เราต่างคิดกันว่า
 เขาเชื่อแต่ทางด้านวิทยาศาสตร์
 มากกว่าเรื่องเหลวไหลเหล่านี้
 
 ** รู้ไว้ใช่ว่าใส่บ่าแบกหาม **
 

[นิด]

สวัสดีจ้า ป้าจ๋า หมูนิดตัวกลม กลับมาแล้ว เจ้าค่ะ กลับมา ก็ได้เห็นความขยันของป้าจ๋าอีกแล้ว  
 **เดี๋ยวนิดจะซักผ้าวันเริ่มต้นปีใหม่ ( ถ้าเพื่อนบ้านไม่มากดอ๊อดว่านะค่ะว่าเครื่องซักผ้าส่งเสียดังวันหยุด )  
 **กินอาหารเลิศรสดี เป็นเครื่องหมายที่ชี้ให้รู้ว่าตลอดทั้งปี จะไม่อดอยาก ( กินเลิศอยู่วันปีใหม่วันเดียว ที่เหลือ ต้มเส้นสปาเกตตี้คลุกเกลือกิน )เอาเกล็ดปลาตะเพียนไว้ในกระเป๋า ( อันนี้หายากค่ะป้า ที่ร้านไทย ปลาโดนถอดเกล็ดหมดแย้วงะ)
 ** ซุบถั่วสีแดง กินกระกล่ำปีดอง, ถ้ากินอาหารหลายๆอย่างหมุนเวียนกันและเครื่องดื่ม ( อันนี้จะกินให้ท้องอืดไปเลย พอไหว )
 **กินหัวหมูหรือลำตัวหมูตัวเมีย แล้วจะนำโชคดีใหญ่มาให้ ( อย่ากินหนูเลย สงสารหนูเถะ ลูกๆยังเล็กค่ะป้าจ๋า )
 **อย่ากินเนื้อไก่ในวันปีใหม่เพราะไก่จะนำโชคดีบินหนีไป ( ทำไงหล่ะหว่า ตอนที่มิกโกลดราคา นิดตุนไก่ไว้ตรึมเลย หาเนื้อสัตว์อย่างอื่นไม่เจอเลยงะป้าในตู้แช่แข็งงะ )อิอิอิอิ  
     @   หนูหยอกเย้านะ ป้าจ๋า อย่างอนหนูแล้วตัดออกนอกบัญชีนะป้า อิอิอิ@
 
 
 
 
 
 

[black tea]

สวัสดีปีใหม่ค่ะ
 ป้าจ๋า......ป้าพร.....คุณนิด.......คุณมินตรามารศรี.....นี่นะ.....คุณอูน......คุณแม่น้องติ๊ดตี่......คุณแจง......และทุกๆ คนในเวปนี้นะคะ
 
 หายไปซะหลายวัน ลืมชาดำกันยังคะ....รู้นะว่าต้องมีแอบคิดถึงกันบ้างแหละ  
 
 นึกว่าจะไม่ได้เข้ามาคุยกันอีกแล้ว เพราะเกือบต้องไปเก็บถ่านขายซะแล้ว
 คืองี้ค่ะ ชาดำปวดหัวมากๆๆ เริ่มตั้งแต่วันที่ 23 แล้ว หลังจากทานอาหารกลางวันเสร็จก็เริ่มมีอาการ
 กินยาแก้ปวดก็ดีขึ้น เป็นเรื่อยมาจนถึงเช้ามืดวันเสาร์  แต่คราวนี้กินยาเท่าไหร่ๆ ก็ไม่รู้สึกดีขึ้น
 มีดีบ้างก็เพราะกินยาแล้วนอนหลับไปได้นิดหน่อย พอตื่นมาก็เริ่มมีคนหลายๆ คนถือฆ้อนมาช่วยกันทุบกระบาลชาดำ
 จนทนไม่ได้   ต้องไปโรงพยาบาลกลางดึก หมอให้ยาอย่างแรงกินกันตายที่โรงพยาบาล
 พอมาถึงบ้านก็รู้สึกว่าดีขึ้น  แต่ก็เป็นเหมือนเดิมในตอนเช้าเวลาตื่นนอน ก็ยังทนอยู่อีกค่ะ เพราะคิดว่า
 เพิ่งเริ่มกินยาครั้งเดียว  หมอคงเสกให้หายทันทีไม่ได้มั้ง  ก็กินยาเรื่อยมาจนถึงตอนนี้แหละค่ะ
 แต่ใช่ว่าจะหายดีแล้ว.....เพราะยังมีคนคอยทุบกะบาลชาดำอยู่เลย แต่ดีหน่อยตรงที่แรกๆ มีหลายๆ คน
 ตอนนี้คงเหลืออยู่คนเดียว ที่ยังคอยทุบกะบาลอยู่  บางครั้งเขาก็คงเหนื่อยเลยพัก ทำให้ชาดำได้พักอาการปวดบ้าง
 
 ยังคิดถึงทุกคนเสมอค่ะ  แต่เพราะเหนื่อยเกินไปจะมานั่งหน้าคอมพ์เหมือนที่เคยทำ
 
 ปีใหม่แล้วนะคะ ชาดำขอพระเจ้าอวยพรให้ทุกๆ คน มีความสุข มีเงินทองเหลือใช้ เหลือเก็บ  
 มีสุขภาพแข็งแรง  อย่าได้เจ็บ  อย่าได้ไข้  สวยขึ้น หล่อขึ้นทุกคนเลยค่ะ
 
 ปล. หายไปหลายวัน กระทู้ใหม่ๆ เพียบ  จะพยายามตามอ่านให้หมดค่ะ
 

[pall]

**นิด **
 ใช่ซักผ้าวันปีใหม่เขาเพ่นกะบาลแน่ๆ
 ป้าจะซักเหมือนกันขนาดอยุ่คนเดียวนะลุงยังด่าเลย
 อย่าดูถูกสะปาเก๊ตตี้นา อย่าโรยเกลือเลยเกลือสวิสแพง
 โรยน้ำปลาเราดีกว่า
 เกล็ดปลาอย่าเก็บดีกว่าเดี๋ยวเขาไล่ลงรถเหม็นคาว
 เราเก็บเหรียญดีกว่า
 ชอบกระหล่ำปีดองมากไม่ตอ้งรอกินวันปีใหม่หรอกเนอะ
 นี่สงสัยลุงแกคงชอบเเก้เคล็ดซื้อไก่มาตุนเต็มเลย
 ป้าก็ขี้เกียจทำซะด้วย
 เราเหมือนกันมาก

[pall]

 
 ได้ฟังข่าวแล้วเป็นห่วงชาดำมากเลย
 ถึงว่าเห็นหายหน้าไปผิดสังเกตุนึกว่าไปเที่ยวฉลองที่ไหนมา
 คิดถึงมากจ้า ขอให้หายเร็วๆนะจ๊ะ
 ดูแลรักษาตัวให้หายไวๆนะจ๊ะ
 

[Jenny]

Happy new year to everyone na ka
   May be it's little bit late to say that but hope everyone has good luck and happy happy in this year.
 
 Hello to Paa Pall,wish you have good health and lucky and happy in your new home na ka. ))

[ป้าพร Stockholm]

ป้าพร อ่านที่น้องชาดำ เขียนแล้ว ก็ต้องรีบ เขียนตอบมาเลย เพราะมีอาการ เป็นห่วง    
 
 ก่อนอื่น ก็สวัสดีปีใหม่ น้องชาดำ และ ทุกคนอีกครั้งนะจ๊ะ   น้องชาดำ
 อาการ ปวดหัวแบบนี้ น้องชาดำต้องหาสาเหตุ ให้เจอให้ได้ อย่าได้ปล่อยปละละเลย ทิ้งไว้นานทีเดียว           อันดับแรกที่อยากจะแนะนำและ ถามหนะ ไปหาหมอ  แล้วหมอ วัดความดัน หรือเปล่า ว่าความดัน
 ขณะที่เราปวดหัว ในขณะนั้นหนะ ความดัน มันพุ่งสูงเท่าไหร่  จากอาการ ที่น้องชาดำ บอกอาการปวดหัวมา  ถ้าความดันอยู่ในระดับ ปกติ  เนีย นับว่าโชตดี  ปีใหม่เลยหนะจ๊ะ         แต่ถ้าวัดมาแล้ว  สูงสัก 140 -  180  เนีย  นิ่งนอนใจไม่ได้แล้วหนะจ๊ะ
 
 ป้าพรพรเคยผ่าน อาการ แบบนี้มาแล้ว  หมอวัดความดัน ได้ 180  ส่งตัว เข้า ร.พ. วันนั้น เลย  และ ต้องนอนคุยกับหมอ เสีย เกือบหนึ่งอาทิตย์   ตอนนี้หมอสรุปผลออกมาแล้ว  ว่า ความดันป้าพร สูง  ขณะนี้ทุกวัน ต้องกินยา วันละสองเม็ดทุกวัน  เม็ดหนึ่ง สรรคุณ ขยายหลอดเลือด  อีกเม็ดหนึ่ง สรรพคุณ ช่วยไม่ให้ หัวใจ ดวงน้อยๆ ของป้าพร
 ต้องทำงานหนัก   จนเกิดพิกัด  จนเกิดอาการ  เดี้ยง กระทันหันหนะจ๊ะ
 และยาเนียจะหยุดไม่ได้   กินกันไป จนกว่า ชีวิตจะหาไม่จ๊ะ
 
 ทีนี้ น้องชาดำ  มีอาการ ปวดหัวแบบนี้ ต้องหาให้เจอว่า มาจากอะไร แล ะรีบแก้ไข เสียก่อนที่ มันจะ มาก แล้วแก้ไขได้ ลำบาก ต้องใช้เวลานาน มากขึ้นหนะซิ
 
 ถ้ามีอาการ ปวดหัว ประจำ ปวดหัว แบบ ข้างเดียว ปวดหัว แบบหนักหัว มึนหัว ปวดหัวแบบ เหมือนมีใคร เอาฆ้อน เอาคีม มาหนีบหัว
 ฯลฯ  หรืออาการ ต่างๆที่บ่งบอกออกมา  เตือนให้เรารู้ จะต้องมีต้น
 เหตุ ทีมาที่ไป  ของอาการ ปวดหัวนั้นๆ        
 
 ป้าพรเองหมอวินิฉัย อาการปวดหัวของป้าพร ผิด ไปเสียเป็นปี  เพราะหมอคนแรกไม่วัดความดันให้เลย ตอนแรกที่เราไปหาหมอ ตรวจ
 วินิฉัยไปว่า ป้าพรเป็นพวกต่างชาติ ที่ย้ายถิ่นฐานมาใหม่ แล้วทำให้เรามีอาการ เครียด แล ะซึมเศร้า  แล ะเราไม่มีเพื่อนฝูงมากนัก  หรือไม่งั้นก็เครียดกับ ชีวิตครอบครัว ที่ต้องเปลี่ยนแปลง  ฯลฯ หมอวินิฉัย
 ประเต็นเรา ผิดทาง ไป ทางอื่น      ทำให้ เราเสียเวลา ในการรักษาไปผิดทางที่ ควรจะเป็น
 
 หมอ หลายคนที่ป้าพร ไปพบ จะพยาม บีบบังคับให้ป้าพร ยอมรับให้ได้ว่า การที่เรามีอาการปวดหัวเนีย มาจาก ปัญหาครอบครัว  และวัฒนธรรม ของประเทศ ที่เรา ปรับสภาพ ตัวเราเองไม่ได้  ทำให้เรา
 เกิดอาการ เครียด แบบ อัตโนมัติ  โดยที่เราไม่รู้ตัว
 
 ตอนนี้เวลาป้าพร ไปหาหมอ หนะจะต้องยกประเด็นนี้ ขึ้นมาคุยกันก่อนที่หมอ จะวินิฉัย  กันเลย   ป้าพรเองจะต้องพูดออกมาก่อนเลยว่า   ทุกวันนี้ เรา แฮีปปี้ กับชีวิตที่ สวีเดน มาก มีเงินมีทองมีลูกมีผัวที่ดีมีโอกาสไปเที่ยว พักร้อนของทุกๆปี ปัญหาใดใด ไม่มีทั้งสิ้น   ทั้งสิ้น  
 นั่นแหละ หมอมันถึง จะไม่พูดประเด็น ปัญหาครอบครัว มามองที่ปัญหาสุขภาพเรา         ตอนนี้ เจอหมอเวียตินาม กำลังจับประเด็นวัยทอง  ของป้าพรมา เป็นหลัก  อิ อิ             อ้าวคงต้อง รบกับหมอกันไปอีกหลายปี              
 
 ที่สำคัญหนะมาอยู่เมืองนอก  ถ้าภาษาไม่ แข็งพอ  เวลาไปหาหมอเนีย
 เราจะไม่เข้าใจ  ร้อยเปอร์เซนต์ ทำให้เรา ไม่สามารถ ทำความเข้าใจที่ถูกต้องมา ดูแล  รักษาตัวเราเองได้อย่างถูกต้อง        
 
 อย่างไร  ขอให้นอ้งชาดำ และ เพื่อนๆ ท่านอื่น ดูแลรักษาสุขภาพตัวเองด้วยนะจ๊ะ   และ ขอให้ทุกคนมีสุขภาพ พลานามัย แข็งแรงจ๊ะ

[นิด]

@**@ สวัสดีปีใหม่ทุกท่านค่ะ ขอให้สุขภาพแข็ง มีความสุข สมปราถนาทุกประการ @**@
 อ่านเรื่องของคุณชาดำ รู้สุกห่วงมากค่ะ น่าจะลองไปเช็คให้ระเอียดอีกครั้งนะค่ะ อาการปวดหัวนี่น่าห่วงค่ะ มีทั้งจากสภาพอารมณ์ จิตใจ และจากการเจ็บป่วยของร่างกาย อย่าชะล่าใจดีกว่า ไปเช็ค ให้รู้แน่ว่าเป็นจากอะไร ขอให้คุณชาดำหายเร็วๆ นะค่ะ จะได้มาเมาท์ กันให้สนั่น

[black tea]

สวัสดีค่ะป้าพร.....ชาดำคิดถึงป้าพรจังเลยค่ะ ป้าก็หายไปพักนึงนะคะ
 ชาดำคิดว่าป้าคงกำลังฉลองความสุขกับครอบครัวอยู่ เลยไม่ได้เรียกหาป้าค่ะ
 
 ขอบคุณป้ามากนะคะ  สำหรับความห่วงใย และคำแนะนำดีๆ ค่ะป้า
 คุณหมอไม่ได้ตรวจ ความดันเลยค่ะป้า เพราะวันนั้นค่อนข้างฉุกเฉินจริงๆ
 คือมันดึกมากๆ ปกติชาดำมีคุณหมอประจำตัวค่ะ  
 แต่วันนั้นเป็นช่วงคริสมาสต์ ครอบครัวคุณหมอไปเที่ยวต่างประเทศกันทั้งบ้าน
 
 วันนั้นเลยต้องตรวจกับคุณหมออีกคน ซึ่งคุณหมอก็ตรวจสายตาชาดำไปด้วย
 แต่ไม่มีอะไรผิดปกติเกี่ยวกับสายตาค่ะ ส่วนความดันนี่ไม่ได้วัดจริงๆ  
 คุณหมอลืมหรือเปล่าไม่ทราบนะคะ หรือคุณหมอเห็นว่าชาดำยังดูภายนอกปกติก็ไม่รู้
 
 คุณหมอวินิจฉัยว่า ชาดำเครียดมากไป  (เป็นการวินิจฉัยเบื้องต้นของคุณหมอทุกคน)
 ชาดำก็บอกจริงๆ แล้วไม่มีอะไรให้เครียดหรือคิดมากจนถึงขนาดต้องปวดหัวมากขนาดนี้
 แต่ในเมื่อเราเป็นคนไข้ เลยทำตัวเป็นคนไข้ที่ดีเข้าไว้ วันนั้นกลับบ้านพร้อมยากระปุกยักษ์
 
 แต่ในใจยังเถียงนะคะว่าเราไม่ได้เครียดอะไรเลย  แต่ก็มีบ้างปัญหาคนอื่น
 ที่ชาดำเอามาคิดเพราะเป็นห่วงเขา  ซึ่งส่วนตัวแล้วไม่มีปัญหาอะไรเลย
 
 ตอนนี้อาการดีขึ้นมากๆ แล้วค่ะ จะมีบ้างเป็นบางครั้งที่ปวดตึบๆ เป็นครั้งคราว
 แต่แค่ช่วงสั้นๆ ก็หายไปค่ะ  แต่ยังคงกินยาที่คุณหมอให้มาอยู่เลยค่ะ
 แต่ชาดำก็คิดว่า จะไปตรวจละเอียดอีกที เร็วๆ นี้แหละค่ะ จะได้ตรวจสุขภาพประจำปีไปด้วยเลย
 
 ใจจริงๆ คิดว่าอยากจะตรวจสมองไปด้วยเลยค่ะ  เพราะตอนที่มันปวดครั้งนั้นน่ะ
 ชาดำคิดไปว่ามีอะไรไต่ในกะโหลกชาดำหรือเปล่าโน่นแน่ะค่ะ ประมาณตาขาวค่ะ
 
 คุณนิดคะ......ขอบคุณมากๆ นะคะที่เป็นห่วง และขอบคุณสำหรับดอกไม่สวยๆ
 ชาดำจะเป็นไปตรวจให้ละเอียดอีกทีค่ะ  คิดว่ายังไงก็คงจะก่อนไปสวิสค่ะ
 กลัวว่าไปสวิสแล้วจะเป็นขึ้นมาอีกล่ะแย่เลย เพราะคุณผู้ชายก็ต้องทำงาน
 ปล. คุณนิดหายไปไหนมาคะหลายวัน  คิดถึงนะคะ สวัสดีปีใหม่นะคะ
 ขอให้สุขภาพแข็งแรง
 มีความสุข และสมหวัง รวยขึ้นกว่าปีที่แล้ว แล้วก็เด็กๆ น่ารักกับคุณแม่ค่ะ