News:

ยินดีต้อนรับ สู่ Pall Swiss เว็บบอร์ดตัวใหม่

Main Menu

*-*-*-*- ทบทวนชีวิตกับ 1 ปี ที่ผ่านมา -*-*-*-*

Started by นี่นะ , January 03, 2004, 09:21:24 PM

Previous topic - Next topic

นี่นะ

วันนี้ขณะกำลังทำกับข้าวอยู่ ก็เกิดคิดทบทวนเรื่องราวชีวิตที่ผ่านมาในรอบ 1 ปีที่ผ่านไป ว่ามันเกิดความเปลี่ยนแปลงมากมายในชีวิต ไม่ว่าจะเรื่องสุข ทุกข์ เศร้า  
 
 เมื่อปีที่แล้ว นี่นะเริ่มต้นปีด้วยงานใหม่ เอาชีวิตจากฟรีแลนซ์เข้ากรอบสู่ระบบงานประจำ ทั้งที่ตัวเองคิดว่าอารมณ์ศิลปินอย่างฉันจะเข้ากรอบ เข้าสังคมกับเขาได้หรือ แต่ก็โชคดีเพื่อนร่วมงานดีมาก  
 
 พอเริ่มงานได้เกือบครึ่งปีก็มาโดนข้อกล่าวหาว่ามีสัมพันธ์พิเศษกับเพื่อนร่วมงาน ขาเมาท์ก็ไม่ใช่ใคร ก็เจ้าของบริษัทนั่นเอง แต่ดีที่ว่าทุกคนเชื่อและรู้ว่านี่นะมีใครอยู่ ปัญหาก็เลยจบไป  
 
 ในขณะที่เรื่องงานกำลังเดินทางไปได้ด้วยดี ก็ปรากฎว่าต้องหยุดทุกอย่างเพื่อเดินทางมายังต่างประเทศ ตอนก่อนที่ยังไม่มาก็อยากจะมานัก เพราะจะได้อยู่ใกล้กับคนที่เรารัก แต่พอใกล้จะเดินทางจริงๆ รู้สึกใจหายและหวาดกลัวกับอนาคตอย่างบอกไม่ถูก  
 
 แต่เมื่อตัดสินใจมาแล้วจะให้กล้บไปเดินถอยหลังคงไม่ได้ เริ่มต้นชีวิตใหม่ที่ต่างแดน ดินแดนที่เราไม่รู้จัก ..... ชีวิตคงไม่ได้สวยหรูที่เมืองไทย แต่นี่ก็คืออนาคตที่เราเลือกแล้ว
 
 พอมาถึงได้ไม่เท่าไหร่ แม่ก็ป่วยเป็นความดันสูง หัวใจโต พอปลายๆปี อากงที่เรารักและดูแลมาตลอดก็มาจากไป ตามด้วยพี่ชายบุญธรรมของริค และการแตกสลายของกลุ่มเพื่อนที่เมืองไทย ... ที่ต่างคนต้องต่างแยกย้ายไปเดินตามทางชีวิตของเราเอง  
 
 นี่คือเรื่องราวชีวิตในรอบปีที่ผ่านมา ซึ่งอาจกล่าวได้ว่าเป็นปีแห่งการสูญเสียและการเริ่มต้นไปพร้อมๆกัน นี่ยังไม่นับรวมกับคราวที่ได้เจอแด๋น (หมาที่จากพรากกันไปนาน) แล้วก็มาตายจากไป  
 
 ไม่รู้ว่าปีนี้ชีวิตจะเป็นอย่างไร ..... เริ่มต้นใหม่ในช่วงวัย 27 ย่างเข้า 28 ปี คงจะเห็นแสงทองผ่องอำไพที่ปลายฟ้าไกลกับเขาบ้าง ....
 
 ขอให้ทุกคนในเว็บป้าจ๋ามีกำลังขับเคลื่อนกงล้อของชีวิตต่อไป อย่าถอย อย่ายอมแพ้ ..... เพราะเวลาไม่เคยเดินถอยหลัง ชีวิตของเราก็อย่าเดินทวนเข็มนาฬิกา  
 
 ขอให้ทุกท่านโชคดี

**กระทู้นี้เป็นกระทู้เดิมหมายเลข 0123 ห้อง pallswiss (เผื่อใช้ในการค้นหา)**

pall

 
 ป้ามานั่งทบทวนแล้วต้องถอนใจ  
 ชีวิตของป้าถึงแม้จะผ่านร้อนผ่านหนาว,ปัญหา
 อุปสรรคและความขมขื่นมามากจนความรู้สึกเหมือน
 ตายด้านและเย็นชา  
 
 แต่ปีที่แล้วเป็นช่วงที่มีความสะเทือนใจหลายๆอย่าง
 จนรู้สึกตัวเองแย่ไปกว่าเดิมมาก และรู้สึกว่าตัวเอง
 เหมือนปิดกั้นทุกๆอย่าง อยากอยู่คนเดียว  ไม่ออกไปไหน
 ไม่อยากรับรู้อะไรทั้งสิ้น ไม่อยากพูดอยากคุยกับใคร เก็บตัวมาก
 ตอนนี้ไม่อยากเปลี่ยนแปลงตัวเองเพราะคิดว่า
 บังคับใจตัวเองมามากแล้ว  อยากเป็นตัวของตัวเองมาก
 ปี2003 เป็นปีที่ป้าได้รับอะไรหลายอย่าง
 ที่เรียกว่าทำให้ความรู้สึกอิ่มตัวมาก
 และรู้สึกว่าอยากทำอะไรให้ตัวเอง
 และให้ความสุขตัวเองบ้างซึ่งอาจจะเป็นครั้งสุดท้ายก็ได้
 
 ทบทวนกับเหตุการณ์ที่ผ่านมา
 
 **เรื่องเงิน**
 ไม่มีปัญหา
 
 **ครอบครัว**
 อย่างอื่นๆไม่ขอกล่าวถึง
 ขอกล่าวถึงครอบครัวตัวเอง
 ยอมรับว่าต้องทำใจนานมากถึงแม้ตอนนี้ยังทำใจไม่ค่อยได้
 เพราะลูกย้ายออกไปหมดแล้ว
 ป้ากับลุงต้องใช้ชีวิตช่วงสุดท้ายด้วยกัน
 และเราอยู่กันตามลำพังเหมือนตอนมาอยู่ใหม่ๆ
 ยังไม่รู้เลยว่าอีกไม่นานข้างหน้าจะเป็นอย่างไรบ้าง
 
 **สุขภาพ**
 ลุงผ่านความตายมาได้หวุดหวิด
 และป้าก็เช่นกัน เราสองคนผ่านความตายมาแล้ว2ครั้ง
 และไม่รู้ว่าเราสองคนจะอยู่กันนานแค่ไหน
 ลุงอีกไม่กี่เดือนจะปลดเกษียรอายุครบ 65 ปี
 และกล้ามเนื่อหัวใจตายไปแล้ว25%
 แกมีโอกาสที่จะตายทุกวินาทีถ้าไม่ระวังรักษาตัว
 
 ป้าเองช่วงนี้สุขภาพทรุดโทรมมากผิดสังเกตุ
 และรู้สึกว่าตัวเองเริ่มเป็นโรค Depression  อีก
 คิดว่าปีใหม่คงจะดีขึ้น
 
 มีอีกมากมายแต่ป้าคิดว่ามันน้อยมาก
 เพราะผ่านเหตุการณ์ร้ายแรงมามากกว่านี้
 ป้าถือว่าเป็นเรื่องธรรมดาที่เราทุกคน
 ต้องได้รับและเราเกิดมาเพื่อแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นทุกอย่าง
 
 ปัญหาทุกอย่างมีทางแก้และทางออกอยู่แล้ว
 แต่เราจะสามรถค้นหาปมแก้ปัญหาอันนั้นหรือไม่  
 อยู่ที่ตัวเราเอง............................ไม่มีใครช่วยได้....
 ขอให้ทุกคนสร้างกำลังใจ...อย่ายอมแพ้.....
 คนที่เราแย่และหนักกว่าเรายังมีอีกมากมาย........
 
 ขอให้ทุกคนจงเข้มแข็งและคิดว่าอะไรจะเกิด...
 ขอให้มันเกิดไป........ทุกสิ่งทุกอย่างอยู่ที่ตัวเราเอง
 อะไรก็ช่วยไม่ได้....ก่อนจะตัดสินใจอะไรทบบวนให้ดีก่อน
 แต่ถ้าผลลัพธ์เป็นด้านลบก็อย่าท้อแท้....เราล้มไม่นาน...
 แล้วเราจะลุกขึ้นมาใหม่........สู้ๆๆๆๆๆๆ.....
 อย่ายอมแพ้..........สร้างกำลังใจให้เราอีกครั้ง....
 กำลังใจเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดที่สารถต่อสู้กับอุปสรรค.....
 กับทุกสิ่งทุกอย่างได้...อย่ามัวอ้อนวอน..หรือยืมจมูกคนอื่นหายใจ..
 
 ด้วนความรักและปารถนาดี
 และขอให้ทุกๆคนโชคดีกับปีใหม่
 
 

black tea

ใช่ค่ะ ชีวิตก็งี้แหละนะคะ มีสุข ทุกข์ คละเคล้ากันไป
 ชาดำเองก็เหมือนคนอื่นๆ แหละค่ะ อยากได้อยากเป็น
 ในสิ่งที่ยังไม่เคยได้ ไม่เคยเป็น แต่พอได้มาแล้วก็เท่านั้น
 
 แต่ชาดำจะพยายามทำตัวเองให้มีความสุขอยู่เสมอค่ะ
 หมายถึง อะไรที่ได้ทำ ได้ตัดสินใจด้วยตัวเองแล้ว  
 จะไม่มานั่งเสียใจในการตัดสินใจ ที่ถึงแม้จะผิดพลาด
 
 ปีที่แล้ว เรียกว่าชีวิตค่อนข้างสบายตลอดทั้งปี ได้รับอะไรมากมาย
 ทั้งจากเพื่อนฝูง คนรัก ครอบครัว ในที่นี่ไม่ได้หมายถึงข้าวของเงินทอง
 แต่หมายถึง ได้รับรู้ น้ำใจจากมิตรแท้ จากคนที่รักเรา  
 ทุกคนช่างดีกับเราเหลือเกิน เพราะบางครั้ง เรามีปัญหา  
 เพื่อนก็จะเข้าใจเราตลอด ไม่เคยว่าให้เราเจ็บช้ำ หรือเสียใจ
 
 คอยส่งเสริมให้กำลังใจ ให้เราก้าวต่อไป ถึงแม้คนเหล่านี้
 จะอยู่ไกลแสนไกลจากเราแค่ไหน แต่น้ำใจก็ไหลหลั่งมาเสมอ
 
 แต่ก็มีบ้างที่รู้สึกว่าเสียเพื่อนไป เพราะอย่างว่านะคะ  
 กาลเวลา นำเขามาพบเรา  กาลเวลาก็นำเขาจากไปเช่นกัน
 เป็นวัฏจักรของชีวิตมนุษย์ที่ต้องก้าวเดินในทางของตัวเอง
 
 พอปลายปี รู้สึกว่าตัวเองดาวน์มากๆ จนถึงขนาดล้มป่วย
 ทั้งปัญหาจากทางบ้าน ซึ่งกระทบใจเรามากมาย
 เราเห็นคนที่เรารักเป็นทุกข์ เราก็พลอยเป็นทุกข์ไปด้วย
 ทำไม่ได้ที่จะนิ่งดูดาย หรือเมินเฉยกับสิ่งที่ได้รู้ได้เห็น
 
 เพื่อนฝูงก็*งหาย เพราะแต่ละคนก็ต้องมีทางชีวิตของเขาเอง
 เรียกว่าอยู่คนเดียว คิดคนเดียว  ชาดำค่อนข้างติดเพื่อน
 พอเพื่อน*งหายไปมีชีวิตของเขาก็เลยทำให้เศร้า  โดยลืม
 คิดไปว่า เราเองก็*งหายจากเพื่อนๆ ไปเหมือนกัน
 
 สุขภาพก็ไม่แข็งแรงเหมือนเมื่อก่อน ป่วยหนักที่สวิส 2 ครั้ง
 ครั้งแรกเมื่อเดือนมีนาคม  ครั้งที่ 2 เมื่อเดือนตุลาคม
 คำว่าหนักหมายถึงต้องนอนซม ทำอะไรไม่ได้เลย
 ซึ่งในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ไม่เคยเจ็บป่วยแบบนี้เลย
 และตอนนี้ก็ยังรู้สึกว่าเราป่วยอยู่เลยค่ะ อาจจะมากหน่อยทางใจ
 
 แต่ถึงยังไง ชีวิตก็ต้องดำเนินต่อไปนะคะ  
 ใบไม้ยังต้องผลัดใบ เปลี่ยนสี ชีวิตเราเองก็ต้องมีขึ้นลง
 มีสุขมีทุกข์เช่นกัน  ขอให้ยิ้มรับกับการเปลี่ยนแปลง
 ถึงแม้บางครั้งจะเสียดาย เสียใจกับสิ่งเหล่านั้น
 
 ขอให้ทุกๆ คนมีความสุขนะคะ ทีสำคัญ รักษาสุขภาพด้วยค่ะ
 
 
 
 
 
 
 

ป้าพร Stockholm

ป้าพรเอง ไม่ค่อยอยากนึกถึง เรื่องที่ผ่านมาแล้ว เท่าไหร่ เพราะอยากจะฝึก ความรู้สึก แล ะความคิดของตัวเองให้ชินว่า จงมีความสุข กับทุกๆวัน  แค่นั้น
 
 ป้าจ๋า สำหรับเรื่องลูกที่แยกออกไป น้องพร เข้าใจ  และ เห็นใจป้าจ๋าในความรู้สึกขณะนี้     แต่ป้าจ๋า ต้องคิดตัดใจหนะจ๊ะ  ไม่งั้น สุขภาพจิต
 เราจะไม่ แข็งแรงป้า       ปล่อยให้เวลา ผ่านไปสักระยะ คงปรับสภาพจิตใจ กันได้ เข้าที่ เข้าทาง มากหน่อยหละป้า

เต่า บอสตัน

My god!
 ว่าจะอ่านผ่านแล้วนา ท่านทั้งหลายเด้อ
 สิ่งต่างๆที่ผ่านมานะ ให้คิดว่าเป็นบุญกรรมของเราเลยล่ะนะ  
 เชื่อว่าทุกท่านมีทุกข์และโศกเคร้ากันไป อย่าบอกนะว่ามีคนไม่เคยมีทุกข์  เฮือก (ถอนใจ)
 
 ่ทุกคนต้องเข้าใจว่าถ้ามีทุกข์ เราเข้าใจทุกข์นั้น เราปลดปล่อยวาง
 แล้วทุกข์นั้นจะไม่มีอิทธิพลต่อเรามากถ้าเข้าใจทุกข์
 
 เช่น ในกรณีป้า ถ้าทุกข์นะเรื่องลูกย้ายออก (คิดว่าป้าไม่ได้ทุกข์เรื่องนี้มากกว่า ) ป้าอยู่ในวัยทอง depression เป็นจุดหนึ่งของโรคนี้
 ป้าเข้าใจว่ามันเกิด มันทำให้ไม่สบาย(ทุกข์) ป้าปลดปล่อย ทำไงล่ะ
 คือ หาเรื่องทำในระหว่างที่ทุกข์ (ปวดหัว ซึมๆๆ) เมื่อจิตใจเราไม่ได้
 concentrate ตรงจุดนั้นเพราะไปตั้งใจทำอีกสิ่งหนึ่ง(เช่น
 ป้าทำเวพไซด์) ป้าจะไม่มีอิทธิพลทางด้าน depression (ปวดหัวซึมเศร้า) ใช่ป่ะ  
 
 สังเกตุ อย่างดิฉัน(เต่า บอสตัน) ท้องไส้กินไม่ค่อยย่อยปกติ (โรคประจำตัว) ถ้าเอาเวลาไปทำอาหาร ทำสบู่ วันนั้นจะไม่มีปัญหาเรื่องท้องมากเหมือนวันที่นั่งเฉยๆๆ ดูทีวี ใจเรามันจะคิดถึงเรื่องท้องซะ
 
 สิ่งที่ยกตัวอย่างนี้สอนให้เรารู้ว่า ถ้าเรารับทราบ แล้วเราปลดวาง
 เราจะไม่ค่อยมีทุกข์มาก  
 
 ให้ทุกท่านหาทางออกกำลังกาย จะด้วยวิธีไหนก็ตาม ร่างกายเราจะปรับตัวให้อยู่ทางด้านบวก เพราะฮอร์โมนที่หลั่ง คือ ฮอร์โมนดีๆๆ
 ถ้าคนเราทุกข์ ร่างกายจะสั่งฮอร์โมนแบท ออกมาเลยคะ
 พวกฮอร์โมนนี้ ทำให้เกิดโรคภัยไข้เจ็บ แน่นอน ในระยะไกล
 
 ตั้งแต่เล่นโยคะ สิ่งหนึ่งที่ปฎิบัตมานานแล้ว ช่วยได้มาก
 ทางด้านการหายใจ การรับรู้ การปลดวาง ทำให้เข้าใจ
 ชีวิตมากยิ่งขึ้น การปฎิบัตโยคะเหมือนสมาธิ ทำให้เรา
 จิตว่างพอจิตว่าง เราสามารถสั่งร่างกายเราได้ให้มีปฎิกริยาต่อ
 สิ่งที่เกิดขึ้น เช่น ได้ข่าวร้ายบ้าง หรือ มีคนมาเริ่มหาเรือ่งทะเลาะ
 อะไรแบบนี้ มันจะให้เราปลด ไม่สนใจ หรือ ทำใจให้อยู่ในท่าสงบ
 
 ฮืมม์ เรื่องนี้เรื่องจริงที่ประสพแด่ตัวเอง แต่ละวันก็มีแต่เรื่องดี ไม่ดี
 เข้ามาเป็นระยะๆ ยิ่งเราเป็นมนุษย์ด้วย กิเลศมันยังเยอะ ต้องพยายามกันหน่อย ขนาดนี้เราก็ยังแย่เลย บางครั้งหาเวลานั่งหลับตาแล้ว
 คิดให้เข้าใจกับสิ่งที่กำลังเกิดขึ้น
 
 อ้าว feed back ได้คะ ฮิฮิ บ่นมาให้ฟังได้เลย
 
 ป้าจะส่งภาพสบู่ให้นะ ไปโพสด้วย
 เวพป้าแย่มาก ส่งภาพไม่เข้าเลยล่ะคะ
 
 http://www.members.aol.com/turtle1ds/td.jpg

นิด




##  The River never Return  ##  
 ***** อดีตคือ สิ่งที่เราย้อนหวนคิด เพื่อนำมาเป็นบทเรียน *****
 

pall

 
 **เด็กล้มเพราะสะดุดก้อนหินเราบอกว่าเซ่อซ่าไม่ดูให้ดี.....
 พอเราล้มบ้าง.....เราด่าว่า AI บ้าคนไหนมักง่ายเอาก้อนหิน
 มาเกะกะขวางทาง.......**
 
 **เราด่าใครเราบอกว่าเรารักเขา.....ด่าเพราะรัก.....
 แต่พอใครมาด่าเราบ้าง.......เรากลับแค้นเคืองเขา.....**
 
 **สิ่งไหนผ่านมา.....แล้วมันไม่ดี....เราบอกจะแก้ไขให้ดีขึ้น
 แต่พอวันเวลา....ล่วงเลย....ไปเราลืมคำพูดหมด**
 
 **ปัญหาคนอื่นเราช่วยเขาแก้ไขได้แต่เวลาเรามีปัญหา
 ของตัวเองเรากลับช่วยตัวเองแก้ไขไม่ได้**
 
 **คนแก่ตายไปเราบอกดีแล้ว....อายุมาก....สมควรตายได้
 แต่ถ้าอายุยังน้อย.....เราบอกว่า....โถ๋......อายุสั้นจัง.....
 ไม่น่าตายไว.....**
 
 ** ตัวละครชีวิต**
 แม่กำเงินจำนวน100 บาทจนเงินเปียกชุ่ม....
 หน้าซูบจนเห็นแก้มตอบ.....ผมสีขาวกระเซิง...รุ่นร่ายเกลี่ยเต็มหน้า..
 ตาแดงช้ำปราศจากน้ำตา...ครุ่นคิดไปมา....
 พรุ่งนี้......จะทำอย่างไรดีกับลูก4คน.............
 พรุ่งนี้ขีดเส้นตายถ้าไม่จ่ายค่าเทอมลูกต้องออกจากรร.......
 แต่เงินจำนวน100บาทพอเพียงกับการขีดเส้นตายให้กับชีวิต....
 ที่เหลืออยู่.........
 
 **พ่อ**
 เงิน100บาทที่อยู่ในมือเมีย......
 อืมคงพอเพียงกับค่าเหล้า.....หรือเราจะแทงซื้อหวยดี.......
 เผื่อฟลุกได้โชคลาภมาคงได้ค่าเหล้าหลายมื้อ.......
 
 **ไฮโซ**
 ทอดสายตามองไปที่สระว่ายน้ำใหญ่....หน้าตาสวยงามที่ตบแต่ง
 ไว้อย่างสวยงามด้วยเครื่องสำอางค์เท่าที่จะพึงหามาได้จากโลกนี้....
 เครื่องเพชรห้อยระย้าส่งแสงประกายวูบวาบ...ไปมา.ยามเคลื่อนไหว..
 เธอทอดถอนหายใจอย่างเป็นทุกข์...............
 พรุ่งนี้จะเอาเงินซื้ออะไรดี................
 
 
 
 
 
 
 
 

black tea

อ่านแล้วต้องถอนหายใจเฮือกใหญ่ค่ะป้า...........
 สังคมสัตว์มนุษย์ช่างไม่มีความพอดีเลยนะคะ
 
 บางคน จ๊น จน....จนไม่มีจะกิน อย่าว่าแต่คิดถึงพรุ่งนี้เลย
 วันนี้ยังไม่รู้ว่าจะเอาอะไรมากินเพื่อให้ทุกคนในบ้านท้องอิ่ม
 
 บางคนรวย จนไม่รู้อีกนั่นแหละว่าจะเอาเงินทองไปไว้ตรงไหน
 เอาไปฝากแบงค์ที่สวิสดีไหมนา  เผื่อว่าจะปลอดภัยกับเงินเรา
 
 เศรษฐีบางคน ไม่เคยรู้จำนวนตัวเลขทรัพย์สินที่ตัวเองมีอยู่จริง เพราะมากเกินไป
 ส่วนคนจน ไม่เคยรู้ด้วยซ้ำว่าบัญชีเงินฝากคืออะไร หน้าตาเป็นอย่างไร
 
 เศรษฐีขับรถตระเวน 2 ชั่วโมง เพื่อหาที่ดื่มกาแฟ เคล้ากับเค็กแสนอร่อย  
 ชาดำเห็นแล้วปลงค่ะ  หิวแทบตาย หาที่กินไม่ได้ซักที เฮ้อ นี่นะชีวิต

นิด

โลกนี้ไม่มีอะไรที่พอดีหรอกค่ะ คุณชาดำค่ะ

black tea

จริงค่ะคุณนิด ไม่มีอะไรพอดีจริงๆ เลย  
 แต่ถ้าคนที่เกินให้คนที่ขาดก็น่าจะช่วยได้นะคะ
 

นิด

ถึงโลกนี้ไม่มีอะไรที่พอดี แต่ก็สู้ความไม่พอ ละโมบของคนไม่ได้ ถึงมีมากมายล้นฟ้า ก็ไม่คิดแบ่งปั่นให้ใคร คนที่มีก็อยากจะมีให้มากขึ้นกว่าเก่า *คนที่ไม่มีเลยก็อยากจะไขว้ขว้าหาให้มี

นี่นะ

ชอบใจคำพูดทุกคนเลยค่ะ กระทุ้งให้คิดอะไรได้ไวดี

นิด




นี่นะ ชอบจริงป่าว ให้แม่มาขอดิ แฮะๆๆๆ
 ชีวิตคนเรามันก็แค่นี้ จะเอาอะไรมากมายนักหนา คิดทำวันนี้ให้ดีและมีความสุข วันพรุ่งนี้ยังไม่รู้จะตื่นมาเจออะไร สิ่งที่สำคัญอย่าดำรงชีวิตอยู่บนความประมาท ละโมภ หลงมัวเมา แล้งน้ำใจ

pall

ไม่ขออะไรจะเอา2ล้าน
 ลอตโต้มีคนได้2ล้านน้ำลายลุงหยดแหมะๆ
 
 **นิ้วมือคนเรายังไม่เท่ากันแล้วเราจะไปหาความพอดีจากที่ไหน**
 
 

black tea

เข้ามาสนับสนุนความเห็นคุณนิดค่ะ ทำวันนี้ให้ดีที่สุด มีความสุขกับทุกวัน
 เพราะว่าเราไม่รู้หรอกว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับเรา เมื่อไหร่
 อย่างตอนที่ปวดหัวมากๆ คิดว่าตัวเองจะต้องไปเก็บถ่านแล้วตอนนั้น
 ในใจไม่ได้นึกห่วงสมบัติเลยนะคะ ใครอยากได้ก็เอาไปเหอะ
 ชาดำคิดถึงพ่อแม่ พี่น้อง แล้วก็คนรักที่อยู่*งไกล  
 ยังไม่ได้อยู่ด้วยกันจริงๆ จังๆ เลยจะต้องมาลาไปเก็บถ่านซะแล้ว
 
 ถ้าคุณรักใคร หรือรู้สึกดีๆ กับใคร อย่าเก็บไว้ในใจนะคะ
 บอกเขาไปว่าคุณรักเขา และเขามีค่าแค่ไหนสำหรับคุณ