News:

ยินดีต้อนรับ สู่ Pall Swiss เว็บบอร์ดตัวใหม่

Main Menu

**S HUDILUMPER-GRYTLI**

Started by pall, October 26, 2004, 08:55:18 AM

Previous topic - Next topic

pall




 
 S HUDILUMPER
 
 **ซ..ฮูดิลุ๊มเพ่อ-กรี๊ทลี่**
 
 S HUDILUMPER
 
 เป็นอาชีพที่คนดูถูกเหยียดหยาม
 ว่าเป็นงานที่ต่ำต้อยในสมัยช่วงสงครามโลก
 เป็นงานที่ทำทุกอย่างเพื่อหาเงินมาเลี้ยงชีพ
 ไม่ว่าจะให้ทำอะไรที่ใช้แรงงาน....ซ่อมแซม..
 ขัดถู...ขายพวกครีมสบู่ไม้ขีด....
 
 GRYTLI  เป็นชื่อตัวละคร(นางเอก)
 
 เหตุการ ณ์ที่แต่งเกิดแถบEmmental
 ภาษาที่ใช้ในการแสดงเป็นภาษาท้องถิ่นเขตเมืองBern
 ที่เรียกว่าBerndeutsches(แบรนด๊อยซ์)
 

**กระทู้นี้เป็นกระทู้เดิมหมายเลข 0463 ห้อง pallswiss (เผื่อใช้ในการค้นหา)**

pall




 
 
 ** Gasthof Kreuz Wichtrach**
 สถานที่ใช้จัดการแสดงการเต้นรำและละคร
 
 เมื่อวันเสาว์23.ตุลาคม 04
 ไปดูละครและการขับร้องเต้นรำของ
 กลุ่มTrachtengruppe Kiessen-Wichtrach
 
 **Trachtengruppe(ทรั๊คเท่นกรุฟเป่ะ)**
 
 เป็นชื่อเรียกของกลุ่มสมาคมคนร้องเพลง
 และเต้นรำแต่งกายชุดประจำเขตของรัฐต่างๆของสวิตฯ
 
 **Kiessen-Wichtrach**
 
 เป็นชื่อของตำบล2ตำบลที่รวมกันจัดงานขึ้นมา
 เขต Wichtrach เป็นตำบลที่มีประชากรแค่3958คน
 เขต Kiessenเป็นตำบลที่มีประชากรแค่744คน
 มีต่างด้าวแค่21คน
 
 ตอนป้ามาอยู่สวิตฯใหม่ๆเมื่อร่วม30ปีที่ผ่านมา
 และบ้านยังอยู่ที่ Ruefenacht
 ซึ่งอยู่*งจากWorbไม่เท่าไร.ตอนนั้นลุงยังหนุ่มอยู่
 แกเข้าร่วมกับกลุ่มสมาคมเต้นรำพื้นเมืองของคนสวิส
 กลุ่ม Wichtrach ที่ไปดูการเต้นรำและเล่นละคร
 ตามที่เขียนมาวันนี้
 
  ป้าอยู่ที่ Ruefenachtแค่3เดือน
 ก็ย้ายที่อยู่มาอยู่ใกล้เขตGurten
 ซึ่งเป็นเนินเขาสูงที่มีชื่อของBernและหลังจากนั้น
 ก็ย้ายมาเรื่อยๆจนมาอยู่แถบWorb ซึ่งอยู่*งจากบ้านเก่า
 แทบไม่น่าเชื่อเลยว่าบั้นปลายชีวิตมาอยู่ในจุดเริ่มต้นใหม่
 

pall




 
 ประเพณีจัดงานเต้นรำและร้องเพลงรวมทั้งการเล่นละคร
 เป็นประเพณีเก่าแก่ของคนสวิสที่นิยมกันมาก
 สำหรับคนสูงอายุน่าเสียดายมาก
 สำหรับคนรุ่นหลังที่สนไม่ใจเข้าร่วมกิจกรรม
 ประเพณีเก่าแก่แบบนี้
 เท่าที่เห็นในกลุ่มจะมีแต่พวกสูงอายุแบบลุงทั้งนั้น
 เช่นกลุ่มที่Koenizก็มีแต่คนสูงอายุไม่มีหนุ่มสาวเลย
 หรือกลุ่มเก่าที่ลุงเคยร่วมมาเพื่อนแต่ละคนก็หน้าเดิมทั้งนั้น
 
 การจัดงานนี้ก็เหมือนกันทุกๆงานในเขตBern
 คนภายในกลุ่มจะเข้าร่วมกิจกรรมซ้อมร้องเพลงทุกอาทิตย์
 และซ้อมเต้นรำ.การเข้ากลุ่มสมาคมแบบนี้ไม่ฟรีนะ
 จะต้องเสียเงินเป็นสมาชิก.และต้องบริจาค
 เป็นสิ่งของ(ของใหม่ซื้อตามร้านค้า)
 เป็นรางวัลลำหรับการจับฉลากซื้อหมายเลย(Tombola)
 จากผู้เข้าชม.ซึ่งการจำหน่ายอาจจะบรรจุเป็นซองมี10อัน)
 ภายในนั้นจะมีหมายเลขรางวัลอย่างน้อย1รางวัลรออยู่
 แต่บางคนอาจจะเสี่ยงดวงเลือกข้างนอก
 ซึ่งอาจจะมีสิทธิ์ได้รับรางวัลมากกว่าถ้าดวงดี
 หรือถ้าดวงจู๋ก็ไม่ได้รางวัลเลย(เช่นลุงเป็นต้น)
 หลังจากนั้นทางสมาคมจะจัดงานช่วงใบไม้ล่วง
 ทุกคนในกลุ่มก็จะแสดงผลงานที่ซ้อมมาทั้งปี
 
 
 
 
 **การจัดงานHEIMATABE**
 
 งานที่ไปชมเมื่อคืนนี้งานเริ่มเวลา20.00น.
 หลังจากเปิดม่านจะมีเวทีข้างบน
 และข้างๆเวทีจะเป็นกลุ่มนักเล่นดนตรี
 ที่เล่นให้พวกกลุ่มเต้นรำจังหวะพื้นเมือง
 กลุ่มดนตรีที่มาเล่นนอกจากใจรักแล้ว
 ยังมีค่าน้ำร้อนน้ำชาที่ทางสมาคมจ่ายให้
 ซึ่งราคาก็สูงพอสมควร.
 
 คนดูจะนั่งตามหมายเลขที่จองไว้
 มีโต๊ะและคนบริการขายน้ำดื่ม
 และอาหารหลังจบงานตามสั่งราคากินไม่ลงเลย
 ป้าไม่กินหรอกเสียดายเงินมากและไม่ยอมดื่ม
 รอจนงานจบถึงจะสั่งโอวัลตินร้อนมาดื่มแค่ถ้วยเดียว
 ป้าไม่ใช่คนขี้เหนียวหรอกนอกจากเป็นตังเมนิดหน่อย
 
 พอเริ่มงานก็จะเป็น...
 กลุ่มเด็กๆจะเริ่มออกแสดงเป็นงานแรก
 มีแต่คนหัวเราะเพราะเด็กที่นำมาแสดง
 บางคนอายุแค่ไม่กี่ขวบ.ซุกซนและไม่ค่อยทำตามครู
 บางครั้งครูต้องลากให้เต้น.บางคนก็แก้เชือกผูกเอวออก
 ครูต้องผูกให้ใหม่.บางคนเต้นไปหาวไป.
 งานนี้เหมือนจับปูใส่กระด้งจริงๆ.
 แต่พวกเด็กๆน่ารักดี.พูดถึงการนำเด็กมาแสดง
 เป็นการปลูกฝังมากจริงๆแต่การนำเด็ก
 มาเต้นเป็นชั่วโมงๆนับว่ามากเกินไป
 สำหรับพวกเด็กๆที่ยังอายุน้อยมาก.
 

pall




 
 
 หลังจากนั้นก็เป็นการแสดงของผู้ใหญ่
 การจัดงานเขาจะแจกใบให้เราดูชื่อเพลง
 การเต้นรำซึ่งมีประวัติต่างๆ
 และคนแต่งเพลงหรือเขียนจังหวะเต้นรำ
 การจัดของแต่ละสมาคมจะคล้ายๆกัน
 คือร้องเพลงก่อนหลังจากนั้นก็เต้นรำสลับกันไป
 บางกลุ่มจะร้องเพลงเต้นรำนานมาก
 บางกลุ่มไวมาก.เพลงที่นำมาร้องถ้าคนฟังและ
 เข้าใจความหมายจะรู้สึกว่าเพราะมาก
 แต่บางคนอาจจะเบื่อมากๆถ้าไม่เข้าใจ
 หรือไม่ชอบงานแสดงแบบนี้
 ลูกชายป้ามันเกลียดมากไม่เคยไปดูเลย
 

pall




 
 
 หลังจากการแสดงของกลุ่ม Trachtengruppe
 Kiessen-Wichtrach เสร็จสิ้นแล้วก็จะเป็นการแนะนำ
 คนที่เป็นครูสอนเต้นรำในกลุ่ม
 ว่าไปถ้าคนสนใจและเข้าไปสัมผัสเกี่ยวกับ
 Trachtengruppe จะรู่ดีว่าเขาจะเลือกคนในกลุ่ม
 ช่วยกันเลือกเพลงหรือบทเต้นรำกัน
 พูดถึงการเข้าเป็นสมาชิกของกลุ่มมีทั้งส่วนดีและส่วนเสีย
 ส่วนดีคือเขาจะมีนิทัศน์การพักผ่อนคลายเครียด
 พาไปเที่ยวหรือไปเดินเขากันสนุกสนานมาก
 คนในกลุ่มจะพาเมียพาผัวตามไปได้
 หรือคนที่สมัครเป็นสมาชิกที่ไม่ได้เต้น
 
 ก็มีสิทธิ์ตามไปได้..ส่วนเสียคือบางครั้ง
 ไม่มีวันเป็นของตัวเองเช่นวันอาทิตย์ต้องตามกลุ่ม
 ไปร้องเพลงให้คนแก่...ให้พระเยซูในโบสถ์ฟัง
 
 หลังจากนั้นคนในกลุ่มก็จะขายTombola
 จะเป็นกระดาษม้วนกลมเล็กๆข้างในจะเป็นหมายเลขรางวัล
 หรือถ้าไม่ได้ก็จะเป็นคำขอบคุณ
 รางวัลที่ได้แล้วแต่โชคของคนถูก
 รางวัลส่วนมากจะเป็นพวกขนมเค็ก
 ขนมปัง...น้ำผึ้ง,เหล้าไวน์,กระเช้าผลไม้
 ของใช้ในครัว,......ฯลฯเป็นต้น
 รางวัลเหล่านี้ได้มาจากคนในกลุ่มบริจาค
 อย่างกลุ่มลุงต้องบริจาคคนละ6ชิ้นและชิ้นหนึ่ง
 ไม่ต่ำกว่า5ฟรังก์
 

pall




 
 
 บนเวทีการแสดง
 
 หลังจากนั้นก็จะเริ่มการแสดงละครบนเวที
 การแสดงคล้ายๆละครสมัยก่อนของบ้านเรา
 ป้ายังจำได้ตอนเป็นเด็ก..ละครร้องดังมาก
 คนแสดงล้วนเป็นผู้หญิง
 คนที่แสดงเป็นผู้ชายหล่อมากๆๆ
 และหน้าตาเหมือนผู้ชายมากเขาใช้ผ้ารัดหน้าอก
 โอ๊ยยุคนั้นแม่ยกเยอะมาก...
 ป้าชอบดูมากตอนเขาเปิดวิกแสดง
 ไปยืนข้างหน้าเกาะขอบเวทีเลย
 ละครที่ดังมากคือสาวเครือฟ้า
 เขามีการแจกลายเซ็นหลังรูปด้วยนะ
 พระเอกนี้สาวกรี๊ดตรึมเอาใส่ใต้หมอนนอนฝันถึงเลย
 มีการตบตีแย่งพระเอกกันด้วย
 
 ****S HUDILUMPER-GRYTLI**
 
 การแสดงจะมีอยู่ 3 ตอน
 ใช้คนแสดงประมาณ9คน
 การแสดงละครแบบนี้ต้องซุ่มซ้อมและใช้เวลามาก
 
 การเริ่มเรื่องจะเป็นช่วงปี 1930-1940
 การแต่งเรื่องก็คล้ายๆหนังน้ำเน่าเมืองไทยมาก
 เขาจะแต่งให้นางเอกต้องทำงานหนัก
 และคนจะดูถูกเหยียดหยามมาก
 ผู้ชายแถบนั้นหวังจะฟาดเงินและนอนด้วย
 ทำเหมือนเป็นโสเภณี
 
 แถบที่เขาแต่งเป็นแถบ Emmental
 เขตนี้จะเป็นเขตกสิกรที่ใหญ่ที่สุดของสวิตฯ
 ช่วงนั้นจะเป็นแบ่งเป็นชาวนายากจนและชาวนาที่รวยมากๆ
 สามารถชี้ชะตากรรมต่างๆได้
 ช่วงที่แต่งมีแต่คนยากจนและอดอยากมาก
 อาหารก็ง่ายๆจะเป็นพวกนมและขนมปัง
 พวกเนื้อคนรวยๆถึงจะได้กินกัน
 
 นางเอกทำงานเลี้ยงดูแม่ที่พิการเดินต้องใช้ไม้เท้า
 เพราะไม่มีเงินจ่ายหมอ..
 พ่อของนางเอกก็ขี้เหล้าเมายา
 นางเอกต้องตกทุกข์ได้ยากละบากมาก
 จนได้ไปพบกับพระเอกซึ่งเป็นลูกชาวนาคนรวย
 แต่ชอบช่วยเหลือชาวนาที่ยากจน
 จนถึงกับตั้งขบวนการและจะสมัครเป็นผู้แทน
 กลุ่มชาวนากลุ่มย่อย
 
 ช่วงนั้นรัฐบาลจะสนับสนุนให้ความช่วยเหลือ
 ชาวนาที่มีที่ดินมากมายและร่ำรวยพระเอกเลยคิดจะช่วย
 ทำให้แม่พระเอกด่าว่าและขัดขวางในการกระทำของลูกชาย
 
 ต่อมานางเอกผ่านเอาของมาขาย
 และเจอแม่พระเอก...ตอนแรกแม่พระเอกไม่รู้ก็ให้กินอาหารอย่างดี
 ทำตัวเหมือนใจบุญ..แต่มาเห็นพระเอกกับนางเอกกอดกัน
 เลยแค้นและด่าว่าไล่ออกจากบ้าน
 
 นางเอกระทมทุกข์มากกดดันต่างๆ
 และอยากเลิกอาชีพที่คนเหยียดหยาม
 เหมือนโชคช่วยที่บ้านเศรษฐีต้องการแม่บ้าน
 พระเอกจึงได้พานางเอกไปสมัครเป็นคนดูแลบ้านของมหาเศรษฐี
 ซึ่งเป็นคนที่ทุกคนช่วงจะเลือกผู้แทนเคารพและเกรงใจมาก
 
 มหาเศรษฐีคนนี้เป็นโสด
 และรู้สึกพอใจนางเอกมากที่ทำงานเรียบร้อยและดีมาก
 เลยคิดอยากจะให้แม่นางเอกมาเห็นว่าลูกสาวอยู่ดีมีสุข
 และอยากรู้จักกับแม่นางเอกด้วย
 เหมือนโดนกลั่นแกล้ง
 มหาเศรษฐี ได้รับจดหมายจากคนแถบนั้นว่า
 นางเอกเคยมีอาชีพที่คนดูถูกเหยียดหยาม
 และนึกว่านางเอกหลอกลวงเลยไล่ออกจากบ้าน
 
 เป็นช่วงที่แม่นางเอกมาพอดี
 ทั้งสองคนพอเจอกันถึงกับตะลึง
 แม่นางเอกคือเมียที่พลัดพรากจากกัน
 และลูกที่ไล่ออกจากบ้านคือลูกตัวเอง
 มหาเศรษฐี นำเมียมาพยาบาลรักษาและพระเอกนางเอก
 ก็แต่งงานกัน
 ลืมบอกไปว่าคนที่นางเอกคิดว่าพ่อนั้นคือ
 คนที่เป็นแค่พ่อในนามที่ช่วยรักษาหน้าให้นางเอก
 เกิดมามีพ่อช่วงนั้นถ้าใครมีลูกไม่มีผัวถือว่าโดนดูถูกสุดๆ
 
 
 ละครจบลงแล้วก็เป็นการกล่าวขอบคุณคนแต่งบทแต่งหน้า
 และคนต่างพาไปเดินรับรางวัล
 และหลังจากนั้นเขาก็จะทำเวทีให้พวกเท้าไฟ
 ไปเต้นรำกันบนเวที
 แต่เท้าไฟกลุ่มป้าพากันไปดื่มกาแฟกันข้างนอก
 หลังจากนั้นก็กลับบ้าน
 น้องเขยได้ขนมเค้กชอกโกแลตใหญ่มาก
 กลับมาบ้านกินกันซะพุงกางเลย