News:

ยินดีต้อนรับ สู่ Pall Swiss เว็บบอร์ดตัวใหม่

Main Menu

ทัวร์ DAVOS แบบ ไฮโล

Started by blacktea, February 21, 2005, 12:14:46 AM

Previous topic - Next topic

ชาดำ




วันนี้จะไปขึ้นเขาชื่อ พีชา Pischa
 ก่อนไปก็ไปหาซื้อที่ใส่รองเท้ากันลื่น
 เพราะเข็ดจากที่เดินลงจากเขาเมื่อวาน
 น่องก็ระบม ตาปลาก็อักเสบ เอาเข้าไปซิ่
 
 คุณผู้ชายของแจ๋วเดินเข้าร้าน BALLY ค่ะ
 ชาดำก็นึกอยู่แล้วว่าร้านหรูๆ แพงๆ แบบนี้มีขายด้วยเหรอ(วะ)
 คนขายบอกให้ไปถามที่ มิโกร เหอๆ แจ๋วนึกไว้แล้วเชียว
 แต่หนุ่มลูกทุ่งอย่างคุณผู้ชายของเราไม่มีอายค่ะ
 เป็นแจ๋วนะ ไม่แม้แต่จะคิดเดินเข้าไปถาม หุหุ

ชาดำ




ได้เจ้าตัวนี้ใส่ไว้ที่รองเท้าแล้วเดินบนหิมะหรือน้ำแข็งไม่กลัวหกล้มค่ะ
 เพราะเขาจะมีปุ่มๆ ที่เห็นสีน้ำเงินข้างบนในรูป ช่วยยึดเกาะไว้อย่างดี
 
 ก็เมื่อวานโรลันด์เพิ่งจะลื่นหงายหลัง แหงแก๋ ไปน๊อกกับพื้น
 ดีนะที่หัวล้านไม่แตกน่ะ
 
 

ชาดำ


ชาดำ

เราต้องนั่งรถเมล์จากโรงแรมไปพิชา ซึ่งค่อนข้างไกลพอควร
 แต่วิวข้างทางสวยบาดใจ พอขึ้นกระเช้าไปถึงยอดเขา
 กลับมองไม่เห็นอะไร เพราะเริ่มมีลมแรง หิมะก็ยังคงตกอยู่เลย
 เรากินข้าวกลางวันข้างบนโน้นแหละ คนเยอะมากๆ  
 
 วันนี้โรลันด์กับซิบิลสกีกันสองคน  
 คุณผู้ชายกับแจ๋วแล้วก็มายา กับเพื่อนที่มาใหม่อีกสองคนแค่ไปสมทบบนภูเขา
 ขากลับในเคบินอากาศเย็นมากๆ ลมก็แรง คุณผู้ชายของเราเลยต้องให้ความอบอุ่นทั้งแจ๋วทั้งมายา อิอิ
 
 เรานั่งรถเมล์กลับมาถึงโรงแรมก็แยกย้ายกับมายา  
 มายาต้องเข้าร้านทำผม มิน่าล่ะ ถึงแก่แล้วก็ยังดูดีกว่าแม่เราอีก หุหุ
 
 นักท่องเที่ยวที่มา DAVOS จะได้ตั๋วรถเมล์ด้วย
 ใช้ได้ทั้งที่ DAVOS และ Klosters
 
 จากนั้นเราก็มาพักดื่มชาในโรงแรม ทางโรงแรมจัดรายการชาให้เลือกได้ตามใจชอบ
 อันนี้เป็นนันทนาการจากโรงแรม ประมาณ อาฟเตอร์นูนทีค่ะ
 
 ชาดำแทบสลบ เพราะเจ็บตาปลาอักเสบ ทำไมต้องมาเจ็บเอาตอนนี้ด้วย
 อยากจะตัดทิ้งซะให้รู้แล้วรู้รอด แต่กลัวเดินไม่ได้ เลยต้องทนเจ็บแบบนี้แหละ

ชาดำ




ยังคงมีเพื่อนมาสมทบเรื่อยๆ ทีไม่เอ่ยนามเพราะแจ๋วอย่างเราไม่สนิทสนม
 แต่พอเวลากินข้าวเย็น ก็จะผลัดกันเลี้ยงไวน์ และเครื่องดื่มที่เปียโนบาร์
 
 พรุ่งนี้ปีเตอร์กับเกลินจะมาถึง เรานึกภาวนาให้เดินทางปลอดภัย
 เพราะดูจากข่าวแล้วที่เยอรมันอากาศแย่มากๆ  
 กว่าสองเฒ่าจะขับรถจากทางเหนือของเยอรมันมาถึงที่นี่ได้คงลำบากน่าดู
 
 ดูรูปจากระเบียงห้องพักโรงแรมไปก่อนนะคะ
 
 
 

ชาดำ

อาการเบลอๆ พิกล รายการทัวร์เริ่มสับสนค่ะ
 วันนี้คงเป็นวันที่5
 
 วันนี้ไม่ชาดำไม่ออกไปไหนเพราะอากาศไม่ดีเช่นเคย
 นอนดูทีวีในห้องพัก เดินช้อปปิ้งแถวกระจกร้านบุคเคอเลอร์ก็อิ่มแล้ว
 ร้านบุคเคอเลอร์จะอยู่ตรงข้ามกับโรมแรมที่เราพัก
 แค่ได้ช้อปแถวกระจกก็เป็นบุญของแจ๋วอย่างเรา เหอ เหอ
 
 เย็นนี้ได้เจอปีเตอร์กับเกลิน คนแก่ที่น่ารักมากๆ  
 ชาดำค่อนข้างคุ้นเคยกับตายายคู่นี้พอสมควร
 เคยนั่งเครื่องไปเยี่ยมคฤหาสถ์ถึงเยอรมันนี  
 ตายายขับรถมาเยี่ยมเราที่บ้านเก่าๆ ของเราที่ซูริคก็เคย
 โทรศัพท์คุยกันก็บ่อยไป
 
 ปีเตอร์อายุมากกว่า 65 แล้วแหละ(เรียกตาได้แล้วโน๊ะ)
 เกลินก็อายุพอๆ กัน แต่ทั้งคู่ยังดูดีมาก
 ฝรั่งเขาไม่มีชั้นวรรณะ แต่ชาดำก็ยังคุ้นเคยกับธรรมเนียมไทยๆ
 พออยู่ใกล้พวกมีกะตังค์เยอะๆ ทีไร รู้สึกตัวลีบเล็กทุกที
 
 วันนี้มายา แนะนำให้เรารู้จักกับมาริโอ้ หนุ่มใหญ่เจ้าของอู่รถแถวๆ นั้น
 พวกเราสงสัยกันว่าคงเป็นคู่รักของมายา เพราะสามีของมายาเสียไปหลายปีแล้ว
 แต่ดูแล้วมายาดูงามสง่า มาริโอ้ดูไม่เหมาะสมในสายตาของแจ๋วเลย
 แต่อย่างว่าแหละ ความรักไม่มีชนชั้นวรรณะนี่นา
 
 ปีเตอร์กับมายาเป็นเพื่อนสมัยเป็นหนุ่มสาว
 จำเป็นที่ต้องมาอุดหนุนกิจการของเพื่อนเป็นประจำ
 แต่ปีเตอร์กับเกลินก็อยากไปพักโรงแรมที่สวยๆ แพงๆ  
 ตามประสาคนมีกะตังค์เยอะๆ เราคงตามไปพักไม่ได้หรอก
 ลูกชาวนาอย่างเราสองคนต้องเจียมตัว ฮือๆ
 
 
 

ชาดำ




ปีเตอร์กับเกลิน จากเยอรมันนี

ชาดำ




วันนี้อากาศดีมากๆ แดดแจ่ม ท้องฟ้าโปร่ง
 คุณผู้ชายทิ้งแจ๋วไปสกีกับเพื่อนๆ  
 มีเพื่อนอีกคน เป็นกัปตันจากครอสแอร์มาสมทบด้วย
 
 แจ๋วเลยต้องตามสองตายายไปเดินเล่น  
 วันนี้ไม่ได้ขึ้นเขาลงเขา เดินทางเรียบๆ  
 ขาไป 1 ชั่วโมง ก็ถึง อิสเลน กินข้าวกลางวันที่นี่แหละ
 เสร็จแล้วเราก็เดินกลับโรงแรม ช้อปปิ้งตามหน้าต่างอย่างเคย
 
 ก่อนกลับห้องพัก เรา 3 คน กะไปนั่งซดกาแฟ รับแดดที่ ไอซ์สเตเดียม
 แต่อากาศหนาวเกินไป เราเปลี่ยนใจกลับโรงแรม
 
 รูปนี้ถ่ายจากไอซ์สเตเดียม

ชาดำ


ชาดำ


ชาดำ


ชาดำ




คนสกีเป็นก็คงจะสนุกตื่นเต้นกัน  ส่วนเราเอาบรรยากาศเป็นพอ

ชาดำ

ถึงโรงแรมก็ขอตัวไปนอนเหยียดตัวในห้องพักก่อนล่ะ
 ปวดเมื่อยตัวไปหมดแล้วจ้า
 นัดกับตายายที่ห้องน้ำชาตอน 4 โมงเย็น
 จากนั้นมักซ์กับมากาเร็ตก็เช็คอินเข้าพัก
 เย็นนี้เพื่อนร่วมโต๊ะเพิ่มขึ้นอีก2
 
 แจ๋วนั่งฟังรู้เรื่องบ้างไม่รู้เรื่องบ้าง
 วันนี้ดื่มไวน์ไปหลายแก้วแถมหลังอาหารตบด้วยไกปิรินยาแบบแรงอีก2แก้ว
 ที่เปียโนบาร์คนคึกคัก ไม่มีใครสนใจเปียโนแล้ว เมาน้ำลายแล้วฝอยกระจาย
 
 มากาเร็ตเป็นผู้หญิงแก่ที่ดูทัฟมากๆ คุยเรื่องการเมืองเป็นฟุ้ง
 ส่วนมักซ์ก็คุยสนุก มาเจอมุขตลกของคุณผู้ชายจนติดใจ สงสัยตามไปฟังถึงแบงค์เลยมั้งเนี่ย
 
 ชาดำมาเจออากาศแห้งมากๆ เข้าอาการชักไม่ดี
 ตอนกลางคืนต้องใช้ผ้าเช็ดตัวสองผืนชุบน้ำแบบโชกไว้ในห้องพัก
 เปิดน้ำทิ้งไว้ในอ่างอาบน้ำ หายใจดีขึ้น แต่ว่าหอแห้งจนแสบคอไปหมด
 คงเจอกลิ่นเหม็นๆแรงๆ ของซิการ์ของหนุ่มๆ ทั้งหลายมาหลายวันด้วยมั้ง
 พรุ่งนี้นัดกับคุณยายเกลินไปช้อปปิ้ง เพราะปีเตอร์จะไปสกีกับคนอื่นๆ  
 เหลือเรากับเกลินสองคน จะไหวไหมเนี่ย
 
 

ชาดำ

วันนี้อาการไม่ดีขึ้นเลย  อากาศข้างนอกแจ่มมากๆ แต่หนาวมากๆ เช่นกัน
 บนภูเขา - 18 ดีกรีแน่ะ
 ที่ในดอร์ฟก็ภูเขาเหมือนกันแหละ
 ความสูงที่ เกือบๆ 1600 เมตรจากระดับน้ำทะเล
 แต่ไม่หนาวเท่าบนยอดเขาที่หนุ่มๆ ไปสกีกัน
 
 ชาดำแสบคอ ไอจนปวดกล้ามเนื้อหน้าอก อยากกลับบ้านอย่างเดียว
 เกลินโทรมาตาม แต่ไปไหนไม่ไหวหรอกจ้า
 ขอนอนเอาแรงดีกว่า
 
 คุณผู้ชายกลับมาจากสกีเราก็ยังหลับอยู่เลย  
 เย็นนี้ไม่ไปกินข้าวเย็นด้วย  
 วันเกิดเกรกโก้ ลูกชายมายา ครบ 30 ปี
 คนเยอะแยะไปหมด หลบในห้องพักนี่แหละ
 ต้มน้ำร้อนกินมาม่ารสต้มยำกุ้ง แซ่บสะใจกว่า
 
 อ้อ...ลืมเล่าว่า ที่นี่มีร้านอาหารไทยด้วยนะคะ
 ที่ชาดำได้ไปกินก็คือ ร้านทับทิบสยามอยู่ใกล้เชอราตัน
 อีกร้านอยู่ร้านอาหารไทย อยู่ในโรงแรมอะไรจำไม่ได้แล้ว
 
 วันนั้นสั่งแกงเขียวหวานเนื้อกับแกงเผ็ดเป็ดย่างและก็ยำวุ้นเส้น
 กินซะพุงกาง อร่อยสะใจกะเหรี่ยงหน้าเหลืองอย่างเราซะนี่
 
 และวันไหนไม่ไปกินอาหารเช้าก็ต้มโจ๊กคัพรสหมูสับซะเลย
 เตรียมกาน้ำร้อนไปเองด้วย สเบียงยังเหลือกลับมาบ้านอีกเพียบ
 
 คืนนี้นอนไม่หลับ เพราะไอมากๆ ร้องไห้อยากกลับบ้านแล้วจ้า
 อากาศในห้องพักแห้งมากๆ ลาวอพยพอย่างเราคงอยู่บ่ได้แล้ว
 
 

ชาดำ

วันนี้เราเช็คเอาท์แต่เช้า เพราะทนไม่ไหวกลับบ้านดีกว่า
 เจออากาศแห้งๆ เล่นเอาแจ๋วอาการหนัก
 ส่วนคุณผู้ชายเจอบิลค่าห้องพักก็กระเป๋าแห้ง หน้าแห้งหนักไปอีก
 วันนี้ขับรถกวนteenชาวบ้านเขามาก
 
 ถึงบ้านเราก็ต้องไดอดกันไปอีกนานหลายเดือน
 
 ไปหลายวัน คิดถึงป้าจ๋า ป้าตุ้ม
 และพี่ๆ น้องๆ ทุกคนนะคะ
 เที่ยวแบบไฮโลไม่ค่อยสนุกเพราะไกด์บ่มีกึ๋น
 ทนอ่านกันหน่อยนะคะ