News:

ยินดีต้อนรับ สู่ Pall Swiss เว็บบอร์ดตัวใหม่

Main Menu

สิ่งที่ควรรู้สำหรับเพื่อนหญิงทุกคน

Started by Frauenhaus, March 20, 2005, 05:19:33 PM

Previous topic - Next topic

pall

สวัสดีจ๊ะFrauenhaus
 ขอบคุณมากสำหรับข้อมูลดีๆแบบนี้
 ป้าคิดว่าเป็นข้อมูลที่ดีมากที่สุดทำให้รู้ถึงระเบียบภายใน
 และประสบการณ์ที่Frauenhaus
 ที่นำมาถ่ายทอดเล่าสู่กัน...
 ทำให้คนไทยที่กำลังประสบปัญหา...
 ไม่กล้าบอกหรือเล่าให้ใครฟัง...เพราะความอาย
 กลัวคนนินทาลับหลัง...
 ทำให้เขาเกิดความกล้าและรู้ถึงข้อมูล...ว่าจะทำอย่างไรบ้าง
 ป้าดีใจมากถ้าใครเคยประสบปัญหา..
 หรือพบเหตุการณ์ต่างๆ..มาเล่าสู่กัน
 เหมือนพี่น้อง..ทำให้เราฉลาดขึ้น.
 คนเราที่มาอยู่ที่นี่ล้วนแต่อยู่*งไกลบ้านเมือง
 เราควรจะรักและช่วยเหลือกัน...แค่ถ่ายทอดความรู้สึก
 เห็นอกเห็นใจเขาแค่นี้ก็มีค่ามหาศาลยิ่งนัก.
 คนเราถ้าอะไรไม่เกิดกับตัวเองไม่รู้หรอก.
 ว่าแค่น้ำใจที่เขายื่นมาให้เรา..นี้ยิ่งกว่าน้ำอมฤต
 คนที่กำลังจะจมน้ำตาย
 ฟางแค่เส้นเดียว...ก็ยึดเหนี่ยวเพื่อให้ชีวิตรอด.
 น้ำใจอย่ายืมหยิบยื่นให้แก่กัน....
 วันใดที่เราได้รับควาททุกข์เราจะรู้รสชาติของควาทุกข์
 ความทรมารเจ็บปวดได้ดี...
 วันนั้นเราจะรู้ค่าถึงน้ำใจคน....
 
 
 

pall

สวัสดีจ๊ะเห็นใจ
 ขอบคุณมากจริงๆที่ทำให้เราหลายคนได้รับรู้ถึงปัญหาต่างๆ.
 และป้าเห็นใจกับพี่สาวต่างสายเลือดของเห็นใจมาก
 อยากฟังมากจ๊ะเห็นใจมาเล่าให้ฟังต่อนะจ๊ะ
 ป้าดีใจมากเลยที่เห็นใจนำเรื่องมาเล่าสู่กันฟัง
 และจะดีใจมากถ้าเห็นใจรู้อะไรดีๆเกี่ยวกับกฎหมาย
 หรือประสบการณ์อะไรมาเล่าให้ความรู้กัน

ขอฟัง

ฟังดูแล้ว พอจะมองออกค่ะ ว่ามันลำบากแค่ไหน กับการตามผู้ชายสวิสคนหนึ่งมาอยู่กับเขา คนสวิสไม่ใช่ว่าจะอยู่ด้วยง่ายๆ นะค่ะ เราทราบดี ว่าต้องอดทนแค่ไหน  
 
 เรามีเพือนทำงานอยู่โซเชียล ที่คันโตนซูริค เขาบอกเราว่า ชาติที่มีปัญหา มากที่สุดคือ ศรีลังกา คุณทราบไหมค่ะ ว่ารองลงมาคือ ชาติอะไร ฟังแล้วตกใจ ค่ะ คนไทย ของเรานี้เอง เพือนคนนี้รับผิดชอบ อยู่ มากกว่า สามสิบคน เขาบอกว่า มีคนไทย (ผู้หญิงส่วนใหญ่) มากกว่า สิบคน เราสงสัยว่า คนไทยเรา มีปัญหาแบบไหนกับสามีกัน ทำไมชีวิตต้องมาจบที่ การช่วยเหลือจากโซเซียล

Frauenhaus

*** มาต่อค่ะ ***
 
 คุณคนขอฟังค่ะ ถ้าได้เห็นคนที่เข้ามาอยู่ที่ Frauenhaus แล้วจะยิ่ง
 ตกใจมากกว่าค่ะ ยิ่งคนลี้ภัยนี้เยอะมาก มีคนหนึ่งลี้ภัยมาอยู่สวิสฯ 13  
 ปี พูดภาษาเก่ง คนลี้ภัยนี้เขาเลี้ยงดูดีมากๆ ทั้งส่งเรียนภาษา เรียน
 อาชีพ สารพัดจากที่ฟังเขาเล่าให้ฟังนะคะ 13 ปี เขาไม่เคยคิดจะทำ
 งานเลย ขนาดวันที่เขานั่งคุยกับดิฉันเขาก็บอกเลยว่าเขาไม่ทำงาน ยัง
 ไงเขาก็ไม่ทำ  
 
 ถ้าเราเจอปัญหาและต้องตกสภาพในแบบเดียวกันเราจะเข้าใจว่า
 ทำไม เพราะอะไร ดิฉันไม่ขอออกความเห็นแล้วกันนะคะ
 
 ส่วนเงินค่าเลี้ยงดูศาลก็จะคำนวณให้เสร็จสรรพทั้งของเราและของลูก  
 แต่อย่างคุณเห็นใจบอกว่าไม่ใช่ว่าศาลจะสั่งให้สามีจ่ายค่าเลี้ยงดูให้
 กับทุกคนไป ก็แล้วแต่ความเห็นของศาล ถ้าสามีไม่มีจะจ่ายโซเชี่ยวก็
 ต้องเข้ามาช่วย ส่วนตัวของดิฉันก็ได้ค่าเลี้ยงดูกับลูกมาพอประมาณ  
 และโซเชี่ยวช่วยเพิ่มประมาณ 20% ปีหน้าโซเชี่ยวก็คงช่วย 1%  
 เพราะศาลสั่งมาว่าถ้าเงินเดือนสามีเพิ่มจากปัจจุบันแค่ 1 ฟรัง สามี
 ดิฉันก็ต้องจ่ายค่าเลี้ยงดูเพิ่มขึ้นเท่านี้ และดิฉันก็ได้ส่วนแบ่งจากเงิน
 ประกันบางอย่างจากเขาครึ่งหนึ่ง
 
 เล่าแบบไม่ปะติดปะต่อเลยนะคะ เอาอันนี้ดีกว่าที่ว่าถ้าหย่าแล้ว
 ต้องกลับเมืองไทย ถ้าไม่มีลูก หรือไม่มีใบเซ อันนี้อยากให้เพื่อนหญิง
 สู้ค่ะ สู้ให้ถึงที่สุด ถ้าสู้แล้วต้องกลับเมืองไทยก็ถือว่าเราได้สู้แล้ว  
 (สำหรับเำืพื่อนหญิงที่โดนทำร้ายร่างกาย โดนข่มขืนจากสามี โดนด่า
 หรือประจานต่อหน้าสาธารณะอันนี้ให้รีบโทรเรียกตำรวจมาเลยค่ะจะดี
 มาก) เพราะตอนที่ดิฉันอยู่ที่ Frauenhaus มีผู้หญิงคนหนึ่งเป็นคน
 โมร็อคโค มีลูกติดมา 1 คน อายุ 5 ขวบ เพิ่งแต่งงานกับฝ่ายชายคน
 สวิสฯ ได้เพียง 3 เดือน สามีข่มขืนเขาทั้งๆที่เขาไม่ยอม ห้ามเขาออก
 ไปไหนทั้งนั้น นอกจากซื้อกับข้าว รับลูกจากโรงเรียน และมีอยู่วัน
 หนึ่งฝ่ายหญิงพาลูกไปหาหมอฟัน ฝ่ายชายตามไปด่าทอเขาที่ป้ายรถ
 ประจำทาง ครูที่โรงเรียนลูกเลยช่วยเหลือเขาในการติดต่อ และเขาได้
 เข้ามาอยู่ที่ Frauenhaus พร้อมทั้งก่อนหน้านี้เขาได้ไปตรวจร่องรอย
 การข่มขืน และมีคนเห็นว่าสามีเขาด่าทอตรงป้ายรถประจำทาง
 
 ตัวเขาไม่ต้องการกลับประเทศ นั่นก็คือเขาต้องไม่หย่าแต่เขาใช้วิธี
 แยกกันอยู่ ตามกฎหมายสวิสฯ ต้องแยกกันอยู่ 2 ปี แยกกันอยู่
 สถานะก็ยังสมรส แต่ตัวสามีเขานั้นต้องการจะหย่า อันนี้คือแล้วแต่
 กรณีนะคะไม่ใช่ศาลจะสั่งให้แยกทุกคู่ไป แต่ตัวสามีของผู้หญิงคนนี้
 เขาไปโกหกศาลว่าผู้หญิงเช่าอพาร์ทเม้นท์ให้เขาที่โมร็อคโค เช่า
 โรงแรมให้เขาอยู่ ทั้งๆที่ชื่อที่เช่าเป็นของฝ่ายชาย และฝ่ายชายเป็น
 คนรูดบัตรจ่าย แล้วฝ่ายชายก็ไปแจ้งตำรวจว่าฝ่ายหญิงหนีตามผู้ชาย
 ไปไม่ยอมกลับบ้าน แต่จริงๆฝ่ายหญิงอยู่ที่ Frauenhaus นั่นก็ถือว่าดี
 ไปของฝ่ายหญิงค่ะ อันนี้ก็แล้วแต่กรณีไปแต่แค่อยากเล่าให้ฟัง เพื่อ
 เพื่อนหญิงไทยจะได้สู้บ้างนะคะ ตัวผู้หญิงคนนี้ศาลสั่งให้เขาแยกกัน
 อยู่กับสามี 2 ปี ถึงตอนนี้เขาก็สบายดีค่ะ หาบ้านได้แล้ว โซเชี่ยวจ่าย
 เงินทั้งหมดให้เขา เพราะสามีไม่จ่ายค่าเลี้ยงดู  
 
 แต่อยากให้ระวังนิดหนึ่ง ถ้าศาลสั่งให้เพื่อนหญิงไทยแยกกันอยู่กับ
 สามี อย่าเพิ่งสบายใจว่าฉันได้อยู่สวิสฯแน่นอนแล้ว เปล่านะคะยัง
 สบายใจไม่ได้ เพราะวันดีคืนดีตำรวจมาบอกให้คุณเก็บกระเป๋ากลับ
 เมืองไทยเลยก็มีมาแล้ว พอเสร็จเรื่องทุกอย่างแล้วอันดับแรกให้คิด
 เลยค่ะ หางาน หรือหาแฟนใหม่ (อันนี้ใครจะว่ายังไงก็อย่าไปฟังมาก
 นะคะ ในเมื่ออยากอยู่สวิสฯ ก็ต้องทำแบบนี้ล่ะค่ะแนะนำได้แค่นี้ ดูท่า
 หาแฟนใหม่จะง่ายกว่าหางานมากๆ) เพราะเมื่อศาลสั่งให้แยกกันอยู่  
 ทางอำเภอที่อยู่เขาจะส่งเรื่องไปที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง และตอน
 นั้นล่ะค่ะตำรวจตรวจคนเข้าเมืองเขาจะมาหาคุณที่บ้าน สอบปากคำว่า
 ทำไมถึงต้องแยกกันอยู่กับสามี เพราะอะไร จะมาช้าหรือเร็วก็แล้วแต่
 วาสนานะคะ ตัวดิฉันเองก็คงจะมีมาเหมือนกันถึงลูกจะเป็นสวิสฯ แต่
 ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองก็คงมาสอบถามเหมือนกัน แต่ไม่ต้องกังวลว่า
 ต้องกลับเมืองไทยแค่นั้นเอง  
 

Frauenhaus

เฮ้อ...เอาแค่นั้นไปก่อนแล้วกันนะ พิมพ์ไปตั้งเยอะกดผิดหายหมด  
 แล้วจะมาต่อวันหลัง

เห็นใจ

การที่หญิงและชายจะร่วมหัวจมท้ายดว้ยการเป็นสามีภรรยากันนั้นมัน
 
 ง่ายมาก..........แต่การวางตัวที่จะอยู่รว่มกันมันยากมากเพราะมีหลาย
 
 อย่างต้องเปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่อกันและกัน.......จากประสพการณ์ของ
 
 ตัวเองและพี่สาวและญาติอีกหลายคนที่มาใช้ชีวิตอยู่ที่นี่ทำให้ตัวเอง
 
 ได้รู้จักปัญหาที่คิดไม่ถึง.....พี่สาวจะเป็นคนเตี้ยอุ้มค่อม.....ถ้าใครไม่รู้
 
 จะว่าเธอใจกว้างกับเพื่อนฝูง......แต่ไม่ใช่เช่นนั้นหรอกฉันรู้ดี.....อยากมี
 
 บ้านให้แม่อยู่แต่ตัวเองก็ไม่เคยขวานขวาย..เครดิตสิอ้ายเผือก...ไม่ได้
 
 รับรู้ว่าเดือนๆหนึ่งสามีต้องจ่ายบิลอะไรบ้าง.......ไม่เคยรู้ว่าชีวิตกินเงิน
 
 เดือนของผัวตัวเองมันลำบากแค่ใหน......คือใช้เงินเป็นอย่างเดียว.....
 
 ภาษาก็ไม่สนใจและไม่เคยเรียน......พูดรู้เรื่องแค่กับผัวตัวเองสว่นคน
 
 อื่นจับต้นชนปลายไม่ถูก........ผัวข้าสั่งได้เหมือนสั่งอาหารมากิน......มัน
 
 กลัวข้า......แต่หารู้ไม่ว่าลูกโป่งลูกนี้กำลังจะระเบิดเพราะเป่าลมเข้ามาก
 
 เกินไป......และมันก็ระเบิดจริงๆ.....สุดท้ายเป็นยังไงมาแต่ตัวไปแต่
 
 ตัว....เอาเป็นว่าศาลที่ตัดสินให้พวกเขายุติธรรมที่สุด.......คุณเจ้า
 
 ของกระทู้อาจจะมีปัญหาคนละอย่างฉะนั้น......ฉันจึงจะบอกได้ว่าศาล
 
 ทำถูกที่สุด......แม้แต่ตัดสินในปัญหาของฉันดว้ยฉันจึงเอามาเล่าได้.....
 
 เพราะฉันก็เคยขึ้นศาลมาแล้วในการหย่าร้างที่นี่...ฉะนั้นการหย่าร้างจึง
 
 ง่ายและยากคนละแบบ.....
 
 ชีวิตหลังจากหย่าร้างของพี่สาวเธอก็ระหกระเหินไปเรื่อยๆ.....ไม่มีอาชีพเป็นหลัก.....อดีตสามีเขาก็ไม่ได้มาสนใจอีกแล้ว.....ลูกๆก็ไม่ค่อยโหยหา......ใหม่ๆเธอก็มารับลูกไปบ้านเธอตามที่ศาลสั่งคือเดือนละหนึ่งครั้งตอนสิ้นเดือน....แต่หลังจากนั้นเธอก็มารับบ้างไม่มารับบ้าง...บางทีนัดแล้วก็ไม่มา......ทำให้เด็กๆผิดหวัง......และอีกอย่างเธอมีเพื่อนชายลูกๆก็คงไม่ชอบ....

เห็นใจ

และหลังจากนั้นไม่นานเธอก็ได้แต่งงานใหม่เป็นครั้งที่สามในสวิส....
 
 ในการหย่าครั้งแรกของเธอฉันไม่รู้จึงไม่สามารถบอกได้ว่าทำไม....
 
 และแปลกมากกับการแต่งงานครั้งที่สามของเธอคือเธอแต่งกับคนเอ
 
 เซียผิวดำ.....และฉันจึงไปถามเขาว่าทำไมแต่งงานทั้งทีทำไมไม่หาคน
 
 ที่จะช่วยเราได้ในอนาคต.....เพราะฉันเป็นหว่งเขาฉันจึงถามแบบนั้น.....
 
 เพราะฉันได้ยินมาว่าเธอรับจ้างแต่งงานกับชายผิวดำเพื่อเงินสองถึง
 
 สามหมื่นฟรังค์.......โอเป็นไปได้ไง......และฉันก็รีบวิ่งแจ้นไปถามเธอ
 
 ตามที่ได้ยินมาว่าจริงใหมที่เขาว่าเธอรับจ้างแต่งงานเพื่อพาสสวิส......
 
 เธอก็หัวเราะบอกใครพูดอย่ามายุ่งกับเขาเลย......ฉันก็อึ้งถ้าเขาพูดเช่น
 
 นั้น.....ฉันจึงต้องเคารพสิทธิ์ของเขาฉันเลยไม่ถามอีก......อยู่มาอีกไม่
 
 นานมีน้องคนที่เรารู้จักกันมาจากเมืองไทยที่อยู่ในสวิสโทรมาหาบอก
 
 เกิดเรื่องร้าย...ขอให้ไปเยี่ยมพี่สาวดว่นดว้ยเธออยู่ที่โรงพยาบาล
 
 +++Unispitalzuerich++++ฉันก็ตกใจว่าทำไมเลยรีบไปเยี่ยมเขาที่
 
 โรงพยาบาล+++++ฉันตกใจมากเพราะเธอได้รับบาดเจ็บมากสะโพก
 
 ร้าวแขนหักข้อศอกหักหน้ามีรอยฟกช้ำดำเขียวถลอกปอกเปิก......ฉัน
 
 ถามว่าทำไมต้องเป็นแบบนี้.....เธอบอกไม่รู้และอย่าถาม......พอดี
 
 พยาบาลเดินมาหาฉันบอกว่าฉันเป็นอะไรกับคนไข้...ฉันก็บอกเป็น
 
 เพื่อน......แล้วพยบาลก็บอกฉันว่าช่วยถามคนใข้ให้หน่อยว่าเหตุการณ์
 
 มันเป็นอย่างไรเพราะตำรวจเขามาสอบสวนดว้ย.......ฉันก็พยายามถาม
 
 เขาแต่เขาบอกไม่รู้และอย่าถามเลย.......ฉันเลยพยายามถามและคุย
 
 กับน้องคนที่โทรมาบอกว่ารู้อะไรบ้างใหม???เธอก็บอกว่าได้ยินว่าเขา
 
 อาจจะโดนเพื่อนผู้ชายผิวดำจับโยนลงมาจากที่พักเพื่อฆาตกรรม
 
 อำพราง......โอทำใมมันโหดร้ายแบบนี้.....สาเหตุเธอไปรับปากคนผิวดำ
 
 ว่าจะหาผู้หญิงไทยมารับจ้างแต่งงานกับพวกเขาเพื่อพาสสวิสและเอา
 
 เงินเขามากินก่อนแล้ว((((((เรื่องรับจ้างแต่งงากับพวกผิวดำ)))))))เป็น
 
 เรื่องที่คนอื่นเล่ากันตัวเธอเองก็ไม่ยอมรับเพราะรู้ว่ามันผิดกฎหมาย...
 
 ฉันก็ไม่รู้ว่าจริงไม่จริง..

blacktea

สวัสดีค่ะคุณเห็นใจ
 ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีๆ นะคะ
 ยอมรับว่าเรื่องนี้ดีและมีประโยชน์มากๆกับเพื่อนคนไทย
 ขอบคุณอีกครั้งสำหรับน้ำใจที่มีให้กันค่ะ

เห็นใจ

และหลังจากนั้นชีวิตของเธอก็เปลี่ยนไป......สุขภาพทางกายและทาง
 
 ใจไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว......และเธอก็ได้รับการช่วยเหลือจากโซ
 
 เซียล......และหนว่ยงานที่เกี่ยวขอ้งในเรื่องที่อยู่อาศัยและค่าใช้จ่ายใน
 
 ชีวิตประจำวัน......แต่เธอก็ไม่รู้ว่าอันใหนถูกอันใหนผิดหรือว่าเธอจะ
 
 ประชดชะตากรรมก็มิอาจจะทราบได้.....การดำเนินชีวิตของเธอไม่ดี
 
 ขึ้นมีแต่เลวลง......ฉันจะคอยติดตามข่าวของเธออยู่เสมอ...สว่นมากได้
 
 ยินแบบในทางลบ......แต่บางทีฉันก็เข้าใจสภาพเธอเหมือนกันเพราะ
 
 บางทีเธอโทรมาขอเงินใช้และโกหกต่างๆนาๆกับฉัน.....ฉันจะให้ทุก
 
 ครั้งที่เธอมาขอ....แต่ไม่เกินสองร้อยฟรังค์....เพราะฉันรู้ว่าเธอเอาไป
 
 เล่นการพนัน......และฉันก็ไม่ได้ร่ำรวยฉันต้องทำงานถึงจะมีกิน......และ
 
 ช่วงนั้นฉันก็ติดตามข่าวเธอแบบ*งๆ......เพราะรู้ว่ามีหนว่ยงานนี้ชว่ย
 
 เธอยู่......บางทีก็ตามตัวไม่เจอเพราะเธอจะเปลี่ยนเบอร์มือถือบ่อยมาก
 
 ไม่รู้ว่าทๆไม?........เกือบจะสองปีที่ฉันไม่เคยเจอเธอเลย.....และอยู่ๆ
 
 นอ้งคนเดิมโทรมาบอกว่าโห้ฉันไปเยี่ยมพี่สาวดว้ยเธออยู่โรงพยาบาล
 
 โรคประสาท.....โออะไรมันจะแย่ขนาดนั้น.....ตอนนี้ฉันจึงได้รู้ว่าเธอ
 
 กำลังจะหย่าขาดจากสามีคนดำของเธอ.....สาเหตุฉันไม่อาจจะบอกได้
 
 เพราะไม่แน่ใจ......ฉันเลยโทรไปถามโรงพยาบาลว่ามีพี่สาวมาพัก
 
 รักษาตัวอยู่ที่นี่บ้างใหม???ฉันก็ได้คำตอบว่ามี.....และฉันเลยรีบไป
 
 เยี่ยมเธอโดยไม่ลืมสิ่งที่เธอชอบคือบุหรี่และฉันได้แวะซื้อข้าวกับผัด
 
 เปรี้ยวหวานที่ข้างล่างบานโฮฟซูริคหนึ่งชุดเอาไปฝากเธอ.....พอฉันไป
 
 ถึงฉันได้ติดต่อเจ้าหน้าที่และถามว่าพี่สาวอยู่ตึกใหน......และก็ได้รับคำ
 
 ตอบว่าอยู่ตึกนั้น......เพราะที่นั่นจะมีตึกผู้ปว่ยแต่ละชนิดแบบบ้ารุนแรง
 
 หรือแบบอ่อนๆ......ฉันไปที่ตึกนั้นและได้บอกความประสงค์ว่ามาเยี่ยม
 
 พี่สาว......ฉันแทบไม่เชื่อว่ามันจะแย่ขนาดนั้นที่นั่นต้องลั่นกุนแจเข้า
 
 ออกไม่ได้ง่ายๆ......พอฉันเข้าไปเจ้าหน้าที่ก็ลั่นกุนแจไว้ตามเดิม.....
 
 และฉันนั่งรอเจ้าหน้าที่ได้ไปตามพี่สาวมา.....และเธอก็มาฉันแทบไม่
 
 เชื่อสายตาตัวเองฉันจำเธอแทบไม่ได้......สองปีที่ได้เคยได้เจอเธอ
 
 จากคนที่สวยและหุ่นดี...กลายเป็นคนอว้นฉุแบบบวมๆ.....และฉันรู้ว่า
 
 เขาไม่ใช่คนเดิมแล้ว....แบบฟั่นเฟือนนิดๆ.....ฉันแอบเช็ดน้ำตาเพราะ
 
 สมเพศและสงสาร.......ไม่น่าเชื่อว่าชีวิตเธอจะตกต่ำถึงเพียงนี้.....แต่ฉัน
 
 รู้ว่าเธอดีใจมากที่ฉันไปเยี่ยม.....เธอถามฉันว่า*รู้ได้ไงว่า*อยู่ที่นี่....
 
 ฉันเลยบอกว่ามีคนโทรไปบอก.....และฉันเลยถามว่าแล้วมีใครมาเยี่ยม
 
 หรือเปล่า???เธอบอกไม่มีแล้วร้องให้ยามตกทุกได้ยากไม่มีใครมอง
 
 หรอก.....และเธอได้บอกฉันว่าถ้าฉันมาเร็วกว่านี้สองวันฉันคงไม่ได้เข้า
 
 เยี่ยมเธอเพราะเธอโดนขังห้องมืดเพราะเธอคลั่งทำร้ายเจ้าหน้าที่หรือ
 
 หมอ.....เธอบอกเธอโดนขังมืดหนึ่งอาทิตย์.....ฉันก็ไม่รู้ว่าจริงไม่จริง....
 
 จากการที่ฉันไปเห็นดว้ยตาของฉันเอง.....ที่นั่นจะมีทั้งหญิงและชาย.....
 
 คนอื่นๆฉันยอมรับว่าฉันกลัวเพราะบางคนก็พูดงึมงำเดินวนไปวนมา
 
 แบบเบลอๆ.....แต่ยังดีเจ้าหน้าที่ก็อยู่ที่นั่นดว้ย......และช่วงนี้เธอต้องถูก
 
 ควบคุมในการกินยาระงับประสาท.....สาเหตุที่อว้นฉุเพราะได้รับยาวัน
 
 ละสามเวลา.......พออาการดีขึ้นก็จะได้รัปล่อยตัวกลับบ้าน......เป็นแบบ
 
 นี้อยู่ร่ำไป...

เห็นใจ

ก่อนที่เรื่องเธอจะไปถึงขั้นเข้าโรงพยาบาลบ้า...ฉันก็ได้รับรู้ว่าเธอไปอยู่บ้านหญิงและมีคนให้เบอร์โทรไว้...ฉันก็เลยไปเปิดหาที่อยู่ในสมุดโทรศัพพ์ไม่มีค่ะ.....ที่อยู่ก็ไม่มี......ฉันเลยโทรไปตามเบอร์ที่ได้มาว่ามีพี่สาวอยู่นี่ใหม.....ทางนั้นบอกมาว่าเขาบอกไม่ได้แล้วเขาจะให้เธอติดต่อมาเองให้ทิ้งเบอร์ไว้.......และหลังจากนั้นเขาก็โทรมาและบอกว่าอยู่บ้านหญิง.....ตอนนั้นฉันก็ไม่ค่อยรู้เรื่องบ้านหญิงเลย.....ฉันก็พยายามถามว่าอยู่ที่ใหนเพื่อที่จะได้ไปเยี่ยมเธอได้...เธอก็บอกไม่ได้บอกแต่เพียงว่าบ้านเป็นหลังอยู่บนเนินแค่นั้น.....และก็คงจะเป็นหลังเดียวกันกับเจ้าของกระทู้ไปอยู่เพราะอยู่ในเขตุเดียวกัน.......และสาเหตุที่เธอต้องไปอยู่บ้านหญิงเจ้าขอกระทู้คงอธิบายได้ดีกว่าฉันแน่เลยเพราะเขาเคยไปอยู่ที่นั่นมา......สว่นพี่สาวเชื่อเธอไม่ได้หมดเพราะเธอจะเป๋อๆ....

เห็นใจ

Frauenhaus Zürich    
  Postfach
 8042 Zürich
 
 Tel. 01 350 04 04    
   
   
 

เห็นใจ




นี่คือแค่ส่วนหนึ่งของชีวิตหญิงไทยคนหนึ่งที่ตกระกำลำบากที่ต่างแดน
 
 เพราะการพนันคือปัญหาหลัก....และสองคือเตี้ยอุ้มค่อม......และไม่
 
 ยอมเรียนรู้ชีวิตประจำวันของครอบครัวว่าอยู่ในขั้นใหนในเรื่องการ
 
 เงิน......และชอบมองคนที่เขาสูงกว่าตัวเองในฐานะและอยากตามเขา
 
 ให้ทันเพื่อที่จะไม่นอ้ยหน้าเขา.....และภาษาสำคัญที่สุด.....ภาษาคือ
 
 เครื่องมือหากินในยามที่เราตกทุกข์ได้ยากยามไม่มีสามีหาเลี้ยงเช่น
 
 ไปของานทำที่ใหนถ้าเราได้ภาษาเขาอะไรๆมันก็จะง่ายขึ้น......และถ้า
 
 เกิดปัญหาในครอบครัวถึงขั้นรุณแรง......อย่าอายในการขอความชว่ย
 
 เหลือ.....ไม่จำเป็นต้องเป็นแค่คนชาติเดียวกับเรา......คนชาติอื่นที่ดีๆก็
 
 มีเยอะขอความชว่ยเหลือเขาได้.......และอย่ากลัวเสียหน้า....
 
 ที่เล่ามานี้หวังว่าจะมีประโยชน์ต่อใครบางคนได้บ้าง.......นี่ยังเป็นแค่
 
 หนึ่งสว่นสี่ของเธอคนนั้น........แต่อาจจะมีชีวิตของหญิงไทยอีกหลายๆ
 
 คนที่อาจจะแย่กว่านี้.....แต่ไม่มีโอกาศมาเล่ามาเขียนเพราะฐานะไม่
 
 อำนวยก็ได้.....และขอให้ทุกคนที่มีชีวิตแบบนี้อย่าถ้อถอย......อย่า
 
 โทษโชคชะตา.....ตัวคุณเท่านั้นที่จะทำให้ชีวิตคุณดีขึ้นหรือเลวลง...ไม่
 
 ใช่โชคชะตา.......เรื่องแบบนี้ไม่ใช่แค่คนที่มีสามีเป็นฝรั่งที่เมืองนอก
 
 แค่นั้น.....คนที่อยู่เมืองไทยและมีสามีเป็นคนไทยคุณก็อาจจะมีโอกา
 
 ศเป็นเหมือนเธอคนนี้ก็ได้ใครจะไปรู้....ฝรั่งหรือคนไทยมันก็มีทั้งดีทั้ง
 
 เลวเหมือนกันนั่นแหละแล้วแต่คุณจะเจอแบบใหน.....
 
 **ขอบคุณเจ้าของกระทู้ที่นำเรื่องนี้มาคุยและฉันได้มีโอกาศร่วมดว้ยกับเรื่องที่ฉันได้เจอมา.........ขอให้คุณโชคดีในทุกๆอย่างที่กำลังเป็นอยู่**
 
 ***ขอบคุณป้าพอลที่เปิดบ้านให้หลายๆคนเอาสิ่งดีๆมาเผื่อแผ่***
 
 ***จากใจของใครคนหนึ่งค่ะ***

pall

สวัสดีจ๊ะFrauenhaus  
 สวัสดีจ๊ะบี
 สวัสดีจ๊ะเห็นใจ  
 สวัสดีค่ะคุณตุ้ม
 สวัสดีจ๊ะบัวขาว
 สวัสดีจ๊ะนิด
 และสวัสดีทุกๆคนที่เข้ามาอ่าน
 
 Frauenhaus...และ...เห็นใจ......
 ป้าขอขอบใจมากเลยที่เข้ามาเขียนเล่า..
 อะไรดีๆให้ฟังกัน...ทำให้ได้รับรู้และได้เห็นภาพ
 ที่ได้ประสบมา...คนเราถ้าไม่ได้ประสบอะไรด้วยตัวเอง
 แค่รู้ผิวเผิน...จะไม่เข้าใจ...คือรู้แค่จากข้อความ..หรือ..จากตัวอักษร
 คนที่ประสบมาด้วยตัวเอง...จะสามารถถ่ายทอด..
 และบรรยายได้อย่างละเอียด..ถึงแก่นแท้...
 
 ถ้าไม่มาเขียนหรือเล่าอะไรสู่กันฟังแบบนี้....
 ป้ายอมรับว่า...นึกภาพไม่ออก...และคิดไปอีกแบบหนึ่ง...
 ต้องขอขอบใจมากจริง....
 ข้อเขียนของหนูทั้ง2คน...เป็นข้อความที่มีค่ามหาศาลมาก..
 ทำให้คนไทยบางคนที่ไม่กล้าตัดสินใจ...
 หรือหวาดกลัวระแวง...จะได้รู้...และเกิดความกล้า....
 และสามารถตัดสินใจได้อย่างมั่นใจ...
 
 คนที่มาอยู่ใหม่ๆที่นี่ไม่รู้กฎหมาย....ตอนมีปัญหา..
 และตัดสินใจ..ทำอะไรพลาด...เพราะความอาย...
 หวาดระแวงคนไทยด้วยกันที่ยื่นมือมาช่วยเหลือ...
 ...จงอย่าอาย...ถ้ามีปัญหา....คนไทยเราไม่แล้งน้ำใจ..
 ช่วยเหลือกันอยู่แล้ว..
 
 ถ้าใครมีปัญหาอะไร..หรืออยากถ่ายทอดความรู้ให้แก่กัน..
 ที่นี่ยินดีต้องรับทุกๆคน..ที่นี่เหมือนบ้านของทุกๆคน..
 ไม่ต้องกลัวการดูถูกกัน..เราพร้อมที่จะช่วยเหลือกันอยู่แล้ว...
 

pall

เห็นใจจ๊ะ
 เรื่องการเล่นการพนันนี่..เป็นปัญหาใหญ่มาก
 ไม่เฉพาะคนไทยที่นี่ที่ติดการพนัน
 คนไทยที่เมืองไทยก็ติดการพนันกันมาก
 การพนันนี่ร้ายแรงมาก...ที่ไม่ทำลายเฉพาะตัวคนเล่นเอง...
 แต่ทำลายคนใกล้..ครอบครัว...บางคนเล่นจนหมดตัว..
 และฆ่าตัวตายในที่สุด...
 
 ตอนป้ามาอยู่ใหม่ๆยังจำได้..ตอนนั้นจะมีอาบอบนวด
 ที่นี่ไม่กี่แห่ง..และสมัยนั้นเรื่องเซ็กต์ค่อนข้างจะเก็บ
 พวกหนังสือโป้จะเก็บวางขายในที่รโหฐาน
 ไม่วางแบบเปิดเหมือนสมัยนี้...ที่ถือว่าเป็นเรื่องปรกติธรรมดา
 
 ช่วงนั้นจะมีคนไทยมาเปิดอาบ..อบ..นวดแค่ไม่กี่คน
 และมีลูกค้ามาก..วันๆเขาจะจับเงินเหมือนเศษกระดาษ..
 เงินที่ได้มาก็ใช้แบบสุรุ่ยสุร่าย...ซื้อทองเเละเพชร..
 ดื่ม..สูบบุหรี่...และแก้เหงาโดยการเล่นการพนัน..
 เขาจะเปิดเล่นกันในซ่อง...แม่บ้านที่ติดการพนันก็แอบไปเล่นด้วย
 การเล่นแต่ละครั้งถ้าคนใกล้ชิด..หรือเคยเข้าไปดูจะรู้ว่า...
 แต่ละมือที่เขาเล่นนั้น...เงินมากแค่ไหน...
 
 เงินกองหน้าตักบางครั้งเป็นหมื่นสวิสฟรังก์...
 แต่กองไม่นานก็เปลี่ยนเจ้าของไปเรื่อยๆ....
 ค่าต๋งเขาเก็บกัน...เยอะมาก...
 บางครั้งเขาเล่นกันหลายวันหลายคืน...
 คนที่ทำงานอาบอบนวดไม่กระทบกระเทือนหรอก
 ถ้าเงินหมดก็หาได้ใหม่โดยการรับแขก...
 แต่แม่บ้านนี่พอเอาเงินที่ใช้จ่ายภายในบ้านมาเล่นหมด
 ...ก็เกิดปัญหา....ไม่มีเงิน...ก็ต้องหยิยยืมคนอื่น.
 ค่าดอกนี่โหดมากร้อยละ10หรือ20...
 พอเจ้าหนี้มาทวงไม่มีเงินจ่ายค่าต้นค่าดอกก็เกิดปัญหาใช้หนี้คืน
 บางคนก็ต้องแก้ปัญหาโดยการแอบมารับเเขก...
 และใช้หนี้...แอบตอนที่ผัวไปทำงาน...
 บางคนมีลูกก็เอาลูกไปจ้างคนเลี้ยงชั่วคราว..
 พอใหล้เวลาผัวกลับก็รับลูกกลับบ้าน...
 บางคนโชคร้านผัวจับได้ก็เลิกกัน..การตัดสินของศาล..
 ก็แล้วแต่เหตุผล...ส่วนมากที่เห็นลูกจะอยู่กับพ่อ...
 อย่างที่เห็นใจบอก..บางคนขายลูกให้ผัว..การเลิกจะได้ง่าย..
 เอาเงินก้อนมากอด..แต่ไม่นานก็หมด.
 
 การตั้งบ่อนในสวิตฯตอนนั้นดังและใหญ่มากเล่นข้ามจังหวัดเลย
 ที่ซูริคน่ะบ่อนใหญ่มาก..และมีคนคุมบ่อนเลย...
 ช่วงนั้นเคยได้ยินข่าวคนฆ่าตัวตายหลายคน
 เพราะความกลัวเจ้าหนี้ที่ข่มขู่..
 เงินช่วงนั้นสะบัดมาก..มีการตั้งแชร์เล่นกัน...ดอกสูงมาก...
 และเงินหาง่าย...เล่นการพนันไม่พอ..ไปเล่นคาสิโนด้วย...
 การเล่นรู้สึกจะมีดังอยู่2เเห่งที่คนไทยไปเล่น
 คือคอนส์ตั้น.และอีวอง...ถ้าเล่นหมดก็จับแขกไปเลย..
 ยอมรับว่าเห็นเงินที่เขาเล่นกันแล้วรู้สึกเสียดายมาก.
 
 เรื่องการรับจ้างแต่งงานก็เหมือนกัน
 เป็นเรื่องจริง.....
 สมัยก่อนพอคนไทยแต่งงานกับคนสวิส..
 เราได้พาสสวิสมากอดได้เลย...
 เรื่องรับจ้างแต่งงานทำกันเป็นล่ำเป็นสัน...
 เงินรับจ้างแล้วแต่ตกลง..บางคนจ่ายตั้ง3หมื่นถึง4หมื่นสวิส
 หรือมากกว่านี้...แต่งแล้วหย่ากันได้ไว...
 ตอนนั้นตำรวจไม่เข้มงวดเหมือนสมัยนี้...
 ทุกๆคนที่ป้าเคยเห็นจากจุดที่เฟื่องฟู.
 ปัจจุบันแต่ละคน...และใช้ชีวิตไร้แก่นสาร...
 และเหมือนกอสวะกอหนึ่ง....บางคนก็ตายไปแล้ว...
 เพราะโรคเอดส์...ถ้ายังมีชีวิตอยู่...ก็อาศัยเงินประกันสังคม..
 มีชีวิตอยู่ไปวันๆ....แต่เขาก็ยังจมกันไม่ลง....
 
 
 

miko

สวัสดีคะ ป้า และทุกๆคน อืมม....ยอมรับได้ความรู้อีกแง่มุมหนึ่งที่ยังไม่รู้และไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าจะมีอะไรแบบนี้ฟังป้าและทุกคนเล่ายอมรับว่าน่ากลัวจริงๆ จะล้อเล่นกับชีวิตในต่างแดนไม่ได้จริงๆเลยนะเนี่ย เป็นประโยชน์จริงๆทู้นี้ ขอบคุณมากๆคะที่เล่าสู่กันฟัง