News:

ยินดีต้อนรับ สู่ Pall Swiss เว็บบอร์ดตัวใหม่

Main Menu

**Einkaufen im Ausland**

Started by pall, June 23, 2005, 05:12:34 AM

Previous topic - Next topic

pall

**การไปซื้อของนอกเขตสวิตฯ**
 
วันนี้นั่งมัดหนังสือพิมพ์เก่าที่เขาแจกฟรี เป็นพวกหนังสือของMigros และ Coop
และหนังสือต่างๆ..ที่ล้วนแต่เป็นของฟรี   
ป้าไม่ได้ซื้อหนังสือพิมพ์มาอ่านนานแล้ว เพราะเสียดายอีกอย่างต้องการประหยัดเงินด้วย
ยอมรับว่าเป็นโรคจิตชนิดหนึ่งที่ชอบอ่าน ..อ่าน..และอ่าน..และหลังจากนั้นก็เก็บไว้เพื่อมัดทิ้งตอนที่ทางเขตพำนักนัดวันมาเก็บหนังสือพิมพ์เก่าๆ ที่นี่ไม่มีการเก็บหนังสือพิมพ์ไว้ขายเหมือนเมืองไทย   พอป้าจะมัดเก็บทิ้งก็ต้องมานั่งอ่านที่จะเก็บมัดอีกรอบ จนแน่ใจแล้วว่าจะมัดทิ้งแน่ๆถึงได้มัดไป   หนังสือพิมพ์ที่อ่านจบแล้วเมื่อมัดเสร็จถ้ายังไม่ถึงกำหนดที่ทางเขตที่อยู่จะมาเก็บ
เราก็ต้องนำไปเก็บไว้ที่ห้องใต้ดิน
สำหรับเขตที่ป้าอยู่...เป็นเขตที่อยู่มีความสะดวกสบายมาก ไม่ว่าจะเป็นขยะเปียก..หรือขยะแห้ง.. สามารถนำไปทิ้งที่เขาจัดไว้ได้ทุกวัน ทางเขตที่อยู่มาเก็บอาทิตย์ละ3ครั้ง..
ความสะดวกสบายแบบนี้ต้องใช้จ่ายที่ต้องสูงมาก
ซึ่งป้าจะต้องจ่ายส่วนนี้เพิ่มไปใน NK   (Nebenkosten)อ่านว่า...เนเบ่นคอสเท่น...
ซึ่งเป็นค่าบำรุงรักษาดูแลสถานที่ไม่ว่าจะเป็นค่าน้ำ...ค่าไฟที่ใช้กันภายนอก..
ค่าดูแลสวน..ทำความสะอาดบริเวณ...ฯลฯเป็นต้น
การจ่ายเงินส่วนนี้ก็แล้วแต่สัญญาที่ทำกันว่ารวมไปแล้ว ในค่าเช่าบ้านหรือยังไม่ได้คิดรวมต้องมาจ่ายภายหลัง.  ซึ่งคิดจากรายจ่ายเอามาแบ่งหารกัน
 
ค่า NK   (Nebenkosten)ของป้า เราจะคิดรวมเป็นปีและจ่ายปีละ2ครั้ง
และคิดตามขนาดจำนวนห้อง    ห้องชุดที่ป้าซื้อมาเป็น3ห้องครึ่ง
ราคาของ NK   (Nebenkosten) เลยถูกลงหน่อย..
แต่ก็แพงพอสมควรคือ ต้องจ่ายเงินส่วน NK   (Nebenkosten)เดือนละร่วม400 สวิสฟรังก์
 
ป้านั่งอ่านหนังสือพิมพ์แล้วเจอบทความที่น่าสนใจมาก เขาเขียนถึงคนสวิสที่ชอบไปช๊อปปิ้ง
ซื้อพวกอาหารพวกเนื้อ..หมู..ไก่..จากเขตพรมแดนฝั่งเยอรมันและพรมแดนเขตฝรั่งเศส
เพราะราคาถูกกว่าที่ขายในสวิตฯมาก   บางคนซื้อมาเกินกว่าที่เขากำหนดไว้
ป้าเคยไปซื้อเที่ยวเขตพรมแดนฝรั่งเศส และหอบของกลับมาแต่นานมาแล้วร่วม20ปี
ตอนนั้นยังใช้เงินฟรองอยู่... ทางด่านถามถึงของที่ซื้อมาเหมือนกันแต่เราไม่ได้ซื้อมามาก
แต่ป้าเห็นรถบางคันเขาตรวจละเอียดมาก  ยอมรับว่าหลังจากนั้นไม่เคยไปซื้อของจากพรมแดนอีกเลย  อีกอย่างไปซื้อก็ไม่คุ้มค่าน้ำมันเท่าไรเพราะBern อยู่ไกลจากพรมแดนพอสมควร...
และหาซื้อของจากเมืองไทยจากร้านจีนได้แทบทุกอย่าง


**กระทู้นี้เป็นกระทู้เดิมหมายเลข 0763 ห้อง pallswiss (เผื่อใช้ในการค้นหา)**

pall

#1
บทความสั้นๆที่เขาเขียนเกี่ยวกับเรื่องการไปซื้อของ มาจากพรมแดนและนำเข้าประเทศ
ยอมรับว่าไม่เคยรู้เรื่องเกี่ยวกับกฎระเบียบมาก่อน..
สำหรับตัวป้าเองยอมรับว่าเป็นความรู้ใหม่ที่ยังต้องเรียนรู้อีกมาก.....
และเพิ่งรู้ว่าการไปซื้อของแต่ละครั้งเมื่อนำเข้าประเทศ
เขามีกำหนดราคาของรวมกันทั้งหมดให้แค่300 สวิสฟรังก์ ซึ่งไม่ต้องจ่ายภาษีขาเข้า
และพวกสินค้าต่างๆจะมีการกำหนดแยกประเภท และของที่ซื้อมาถึงแม้จะรวมกันทั้งหมดจำนวน300สวิสฟรังก์ ก็อย่าเพิ่งดีใจเพราะเขาจะตรวจดู ว่าของที่ซื้อมามีสิ่งที่เขากำหนดไว้หรือเปล่า
ยกตัวอย่าง
เช่นพวกอาหารเนื้อที่ซื้อมา
ว่าเกินกำหนดที่เขากำหนดไว้หรือเปล่า.
เนื้อ...เขากำหนดให้แค่  500 กรัมเอง
Milch หรือ Michprodukten
พวกนมเนย..และอื่นๆเช่น
นมให้เค่5ลิตร...Butterหรือพวกครีมให้แค่1กก.
และยังมีอีกมากมาย
 
**ค่าปรับ**
ถ้าใครซื้อมาเกินกว่าที่เขากำหนดไว้ จะเสียค่าปรับราคาสูงพอสมควร
เขาจะคิดแบบนี้(ถ้าเกิน)
เนื้อจะเสียกก.ละ20สวิสฟรังก์
Butter  กก.ละ16สวิสฟรังก์
......................ฯลฯ..เป็นต้น
**และยิ่งกว่านั้น***
ถ้าซื้อของทั้งหมดเกินกว่าที่เขากำหนดไว้300สวิสฟรังก์
ถ้าซื้อมาเกินกว่าที่กำหนดไว้รวมกันทั้งหมด  500 สวิสฟรังก์
เราจะต้องโดนปรับส่วนนี้ไม่มีการลบ300สวิสฟรังก์ออก
 
**นี่เป็นแค่ตัวอย่างที่เขียนมาให้เห็น**
 
ถ้าใครสนใจรายละเอียด สามารถเข้าไปอ่านได้ที่Linkนี้
http://www.ezv.admin.ch/zollinfo_privat/zu_beachten/00350/index.html?lang=de
http://www.zoll.admin.ch/f/news/news.php

pall

#2
อยากทราบว่าใครชอบไปซื้อของ ทางเขตเยอรมันและฝรั่งเศสบ้าง ..
และเคยมีปัญหากันบ้างไหม เกี่ยวกับการตรวจของที่ซื้อมา
 
และการขอวีซ่าด้วยว่าทำกันแบบไหน?  
สนใจอยากรู้มาก..ขอบคุณมากจ๊ะสำหรับคำตอบ  
 

น้องบัวชมพู

ก่อนหน้านี้ น้องบัวฯก็ชอบแว๊บไปซื้อของฝั่งฝรั่งเศสนะคะคุณป้า
 เพราะอย่างที่ว่าแหล่ะค่ะ ราคามันถูกกว่าที่สวิส
 แต่ตั้งแต่เปลี่ยนค่าสกุลเงินเป็นยูโรเนี่ย น้องบัวฯว่ามันก็ไม่ค่อยจะถูกกว่าสักเท่าไหร่แล้วนะคะ
 อย่างซีเรียลที่น้องบัวฯกินประจำ ก่อนหน้านั้นมันถูกกว่า
 แต่ตอนนี้ไปๆมาๆซื้อที่ Pick Pay ราคามันก็ราวๆกันเลยอ่ะค่ะ
 ช่วงนี้น้องบัวฯเลยลดความถี่ไปจ่ายตลาดที่ฝั่งฝรั่งเศสให้น้อยลง
 จะมีบ้างก็ตอนแว๊บๆผ่านไปน่ะค่ะ แต่ก็ไม่ค่อยบ่อยเหมือนเมื่อก่อน
 
 แต่ก็เป็นความรู้ใหม่นะคะ ที่คุณป้ามาเล่าให้ฟังว่าเค้าจำกัดจำนวนของที่ซื้อด้วย
 เพราะน้องบัวฯไปทีไร ด่านเค้าถามน้องบัวฯก็ส่ายหัวดิกๆ "ป่าวค๊า ไม่ได้ซื้อค๊า" ทู๊กที
 โดนจับได้เมื่อไหร่ สงสัยโดนปรับกันหลังอานแน่ๆเลยค่ะ
 เพราะน้องบัวซื้อเนื้อทีแทบจะซื้อมาเลี้ยงทั้งหมู่บ้าน แห่ะๆ (ก็ชอบกินนี่คะ)
 
 ส่วนเรื่องวีซ่า น้องบัวฯก็ขอเป็นวีซ่าเชงเก้นปกติน่ะค่ะ (แบบ Multiple)
 ได้ก็ค่อนข้างจะง่ายหน่อย ก็คงจะเพราะว่าน้องบัวฯอยู่ติดชายแดนสวิสฝรั่งเศสกระมังคะ
 แค่น้องบัวฯแจงเหตุในการเดินทางว่า "ไปช๊อปปิ้งค๊า" แค่นี้เค้าก็แปะวีซ่ามาให้แล้วอ่ะค่ะ
 รู้สึกเหมือนคนที่พำนักอยู่ในเขต VD, GE, VS มั้งคะ ที่จะสามารถไปขอวีซ่าที่เจนีวาได้
 ที่เจนีวานี่เจ้าหน้าที่ใจดีค่ะ รอคิวก็ไม่นาน แต่ต้องเสียตังค์โทรไปนัดจองวันกันก่อน
 น้องบัวฯเคยต้องไปทำที่เบิร์นครั้งนึง สมัยอยู่ที่บาเซิล
 อ๊ายยยยยยยยยยยยย เจ้าหน้าที่ดุยิ่งกว่าหมีในบ่อกลางเมืองอีกค่ะ!
 น้องบัวฯต้องเสียน้ำตาไปตั้งหลายแหม่ะแน่ะ กว่าเค้าจะยอมให้วีซ่าน้องบัวฯมา
 แถมยังมีทิ้งท้ายอีกว่า "ให้เป็นของขวัญคริสตมาสนะคะเนี่ย"
 คือว่าถ้าไม่ใช่เทศกาลคริสต์มาสเนี่ย ก็จะใจดำไม่ให้น้องบัวฯไปเที่ยวใช่มั้ยคะแม่หมีใจร้าย!
 ฮือ ฮือ ฮือ
 
 ว๊าย! ลืมตัว พิมพ์เยอะไปหน่อยค่ะ แห่ะๆ  
 แต่ท้ายนี้อยากจะบอกว่าคุณป้าเขียนข้อความได้น่าอ่านจังเลยอ่ะค่ะ :)

pall

สวัสดีจ๊ะน้องบัวชมพู  
 อิอิ..นึกภาพสั่นหัวดิกได้เลยตอนที่ป้าซื้อของมา  
 เป็นเหล้าไวด์ตั้งหลายขวด..และแชมเปญอีก  
 เรียกว่าเกินโควต้า...นี่ขนาดบอกซื้อมาไม่มาก  
 ตอนเขามาถามป้ากับลุงเราก็สั่นหัวดุ๊กดิ๊กเหมือนกันเลย  
 และป้าก็บอกให้ลูกทะเลาะกันและร้องไห้...  
 แบบดาราตุ๊กตาทอง..แต่แหมเขาเล่นเกินบทบาทไป  
 เลยทะเลาะกันจริงๆ...ทางด่านคงปวดหัวมาก.รำคาญ  
 เลยบอกว่ากั๋งๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ  
 อิอิ..รู้จักไหมคำนี้แปลว่าไปโลดดดดด  
 งานนี้รอดตัวไปได้...  
 เมื่อ20ปีที่ผ่านมาเขตบาเซิล  
 มีคนไทยไปซื้ออาหารจากร้านคนจีนกันมาก  
 ที่Mulhouseหอบข้าวหอบของกันพรุงพะรังเลย.  
 
 ฟังนอ้งบัวเล่าแล้วสงสารมาก  
 แบบนี้เสียชื่อคนเมืองหมีมากเลย...  
 แต่ป้าไม่เกี่ยวนะ..ตอนนี้ป้าอยู่เมืองน้องวัว...  
 เสียดายนะป้าไม่รู้จักน้องบัวมาก่อน  
 ไม่เช่นนั้นจะเช็ดน้ำตาปลอบใจน้องบัวซะหน่อย  
 เอ๊ะๆๆๆช่วงท้ายชักทะแม่...งๆชอบกลนะ  
 ****ที่เขียนว่าแม่หมีใจร้าย! ***  
 
 ขอบใจอีกครั้งที่ชมจ๊ะ....  
 มาช่วยเขียนอะไรหน่อยซี..เล่าความหลัง  
 หรือการมาใช้ชีวิตหรืออะไรเขตที่อยู่ก็ได้  
 ..นี่อ่อยเหยื่อแล้วนะหาคนมาช่วยเขียน  
 วันนี้เขียนหลงวัยไปหน่อยเพราะอากาศร้อนจัดพิกลจ๊ะ  
 
 

ตุ้ม

อยู่เจนีวามานานแต่ไม่ได้ข้ามไปซื้อของชำที่ในฝรั่งเศสประจำเช่นครอบครัวอื่นๆเพราะลุงบอกว่าถ้าเราไปใช้เงินที่อื่นแล้วคนในประเทศก็จะตกงาน  ท้ายสุดผลทางด้านเศรษฐกิจก็จะมาตกลงที่ใกล้ๆตัวเราเพราะคนสวิสฯไม่มีงานทำ  อีกทั้งตอนนี้เรามีเหลือกันแค่ 2 คนไม่คุ้มค่าน้ำมันไปกลับ  รวมทั้งไม่ชอบลักษณะของการจัดร้านชำในฝรั่งเศส  แต่ถ้าเป็นของชำของไทยจะข้ามไปซื้อประมาณเดือนหรือสองเดือนต่อครั้งเพราะที่เจนีวาแพงๆๆๆๆๆ มากกกก   และมีไม่ค่อยครบเครื่อง  แต่จะไปซื้อเวลาที่จะผ่านไปทางนั้นหรือจะหาเรื่องไปเที่ยวที่อื่นแล้วแวะซื้อ  รวมทั้งแวะซื้อของชำของฝรั่งเศสที่ราคาถูกมากจริงๆกว่าในสวิสฯเท่านั้นเพราะเป็นทางผ่านอยู่แล้ว  เดี๋ยวนี้ร้านของชำไทยในเจนีวามีหลายร้านอาจจะมีของมากขึ้นและราคาอาจจะลดลงบ้างแล้วก็ได้  แต่ไม่เคยไปซื้อจึงไม่ทราบรายละเอียด  ขอย้ำว่าคุณภาพของบางอย่างไม่ทัดเทียมกับในสวิสฯและราคาของบางอย่างอาจจะแพงกว่าดัวย  เพื่อนร่วมงานซื้อของชำในสวิสฯก่อนกลับบ้านพักในฝรั่งเศสตอนเย็นทุกวัน

น้องบัวชมพู

น้องบัวฯพิมพ์แปลกยังไงเหรอคะคุณป้าพอล ตรงแม่หมีใจร้ายอ่ะค่ะ
 ว่าแต่เรื่องเขียนเล่าความหลัง น้องบัวฯคงจะไม่ไหวล่ะมั้งคะ
 เพราะเมื่อปีก่อนโน้นนนน มีเพื่อนขอให้น้องบัวฯเขียนเหมือนกัน
 เรื่องเกี่ยวกับการมาเรียนที่นี่ ประมาณที่ป้าเขียนนั่นแหล่ะค่ะ
 เพื่อนน้องบัวฯเค้าจะเอาของหลายๆคนไปรวมเล่มทำเป็นหนังสือทำมือขาย
 แต่จนบัดนี้ น้องบัวฯก็ยังดองของเค้าไว้จนเน่าไปทั้งไห ไม่ได้เริ่มเขียนสักกะตัวเลยเจ้าค่ะ T-T
 
 พี่ตุ้มอยู่เจนีวาเหรอคะ แล้วร้านของไทยที่พี่ตุ้มไปซื้อที่ฝั่งฝรั่งเศสมันอยู่ตรงไหนอ่ะคะ?
 ของน้องบัวฯก็ใช้ซื้อเอาที่โลซานน์เนี่ยแหล่ะค่ะ มีร้านเวียดนามอยู่สองสามร้าน
 ร้านนึงเจ๋งมาก ผักสด ของชำค่อนข้างครบนะคะ แต่อยู่ไกลบ้านหน่อย
 อีกร้านที่อยู่ใกล้ก็พอใช้ได้ค่ะ ข้าวสารคุณภาพดีกว่า แต่ว่าผักสดไม่ค่อยเยอะเท่า
 ราคาก็โอเคนะคะ ถ้าซื้อบ่อยๆจนเค้าจำหน้าได้แล้วก็มีได้ส่วนลดปัดเศษให้บ่อยๆ
 แต่จำได้ว่าตอนที่ไปซื้อที่ร้านพี่คนไทยที่เบิร์น (เมืองหมีอีกแล้วค่ะป้าพอล)
 พี่ที่ร้านน่ารักมากกกกกกกกกก พอรู้ว่าน้องบัวฯเป็นนักเรียน ให้ของกินแถมมาเพียบเลยค่ะ
 แต่จนบัดนี้ น้องบัวฯยังไม่ได้มีโอกาสไปซื้อที่โน่นอีกเลยนะคะ
 เพราะไกลบ้าน นั่งรถไฟไปซื้อก็ไม่ไหวค่ะ ค่ารถไฟแพงม๊ากกกก

ร่วงข้าว ( ข้าวจ้าว )

สวัสดีค่ะป้า ,น้องบัวชมพู และคุณตุ้ม
 
 ข้าวจ้าวก็เป็นคนนึงค่ะที่ชอบไปซื้อของที่เยอรมันมาก แต่จะนานๆไปที พอไปที่ก็ซื้อเยอะมากๆ แต่พอมาอ่านข้อความของป้าว่าจะโดนปรับยังไงบ้างนี้ มีความรู้สึกหนาวๆเลยค่ะ ก็โอเคค่ะรู้ว่าจะต้องโดนปรับล่ะแต่ไม่รู้ว่าจะโดนแบบไม่คุ้มขนาดนี้ก็ไม่ไหวค่ะ คราวหน้าไปคงต้องระวังแล้วล่ะ  
 ส่วนมากไปก็จะไปซื้อไก่เหนียวที่ 5ตัว เนื้อ3 โล ไก่3 โล แล้วก็พวกผงซักฟอก น้ำยาซักผ้าหอมน่ะคะ สบู่ก็ถูก จะซื้อที่เยอะมาก แต่ที่ชอบคือเราหักภาษีได้ พอไปคราวหน้าก็จะได้เงินคืนค่ะ
 พอไปทีสามีข้าวจ้าวก็จะเตือนว่าเธออย่าซื้อเนื้อเยอะนะ เดี๋ยวโดนตรวจ ทำไมซื้อไก่เยอะจัง ก็จะบ่นตลอดค่ะ เราก็เถียงไม่ออก เลยบอกไปว่าชั้นซื้อไก่เหนียวนะยะ เค้าไม่ได้เขียนนี่ว่าไก่ได้กี่ตัว ( แฮ่ๆ เถียงข้างๆคูๆไปงั้นล่ะคะ ฮิๆๆ)
 เขียนซะเยอะเลยคราวนี้ เห็นเว็ปเงียบๆ เลยเข้ามาแจมน่ะคะ
 วันนี้ไม่ค่อยสบายค่ะ เป็นหวัดแดดแย่จังเลยแต่ก็ต้องไปทำงานค่ะป้าเดี๋ยวฝรั่งจะหาว่าหญิงไทยเราบอบบาง ต้องแสดงให้เค้าเห็นหน่อยว่าเราหญิงไทยเข้มแข็ง ฮิๆๆ ( ทำเป็นเก่งเดี๋ยวก็เดี้ยงตอนเย็นทุกที 555)

ทิรามิสุ

ทางเขตสวิสเหนือที่จะข้ามไปเยอรมันนี้ตรวจเข้มคะ แต่จะสุมตรวจนะคะ ถ้าเราซื้อต้องโชว์บิล โชว์ของด้วยค่ะ เรียกว่าเปิดรถดูเลยนั้นเอง แล้วก้อจะลงประวัติว่าเราไปซื้อของเมื่อไรในคอมพิวเตอร์ด้วยคะ ดังนั้นเราก้อจะไม่ค่อยซื้อเนื้อเยอะ เฮียสามีบอกว่า คุณภาพเนื้อไม่ดีเท่าสวิสนะเธอ ไก่ก้อเลี้ยงไม่สะอาดแบบบ้านเรา คือว่าเป็นคนสวิสแท้นั้นละค้า แต่ส่วนมากจะซื้อหนักไปทางเสื้อผ้า เพราะว่าสวยแล้วก้อถูกกว่าบ้านเราค่ะ อ้อ น้ำมันพืชก้อถูกกว่าค่ะ

บอมย์

ทางเขตสวิตตอนใต้อิตาลี่ ก็จะเป็นบางช่วงค่ะ แต่ส่วนใหญ่ บอมย์กับแฟนไม่ค่อยซื้ออะไรกลับมาหรอก ไปทานข้าวบ้านเพื่อนแล้วก็กลับ นเวลาขากลับ เขาก็จะถามทุกครั้ง ว่ามีอะไรโชว์ไหม ซื้ออะไรมาหรือเปล่า ถ้าเราบอกไม่มี ก็ไม่ตรวจ แต่มีอยู่ครั้งหนคึ่ง แฟนซื้อไวน์หวานมา ไม่ใช่ซิ เพื่อนที่นั่นซื้อฝากมา 6 ขวด ก็บอกเขาซื้อไวน์มา เขาก็ให้จอดรถตรวจ ว่า 6 ขวดจริงไหม แล้วก็ให้ไปค่ะ ไปบ่อยที่อิตาลี่ แฟนชอบซื้อขนมหวาน กับ หนังสือการ์ตูน โทโปลิโน่มากกว่า อิอิ

แจง

#10
มาแจมด้วยค่ะ เอ่อ แจงไม่ค่อยได้ไปซื้อที่อื่นเลย
เห็นด้วยกับป้าตุ้มค่ะ ทำงานที่นี่ ซื้อของที่นี่ ราคาก็ไม่ต่างกันมาก ถ้าเทียบกับค่าน้ำมันที่เสียไป
นอกเสียจากจะไปเที่ยว รึไปธุระก็จะซื้อติดๆ มาบ้างเล็กน้อย  
แต่แจงชอบที่เยอรมัน พวกเสื้อผ้า มีหลายแบบ ให้เลือกเยอะกว่าที่นี่
ส่วนเนื้อไม่เอามาเยอะกลัวโดนตรวจ ยิ่งสามียิ่งขี้กลัวค่ะ
ว่าแล้วอยากไป เยอรมัน จัง หุหุ

pall

สวัสดีค่ะคุณตุ้ม
 อ่านที่คุณตุ้มเขียนแล้วได้ข้อคิดหลายอย่าง
 และได้มุมมองที่แตกต่างออกไป..แบบมองกันคนละมุม
 และบางสิ่งบางอย่างก็ถูกต้องตามที่คุณพูดมาค่ะ
 

pall

สวัสดีจ๊ะน้องบัวชมพู
 เรื่องเขียนหนังสือยาวๆเล่าเรื่องชีวิตตัวเองนี่
 ป้าก็นิสัยแย่มาก..เป็นพวกชอบดอง..
 และเป็นประเภทวาดวิมานในอากาศ
 แต่พอเอาจริงเอาจังแล้วไม่ได้เรื่อง
 พวกท่าดีทีเหลว...ดีนะที่ลุงเลี้ยงดู
 ถ้าหากินเลี้ยงตัวเองสงสัยอดตาย
 หมีสวิสเป็นหมีที่อยู่ในช่วงปุบปิแต๊ท
 

ตุ้ม

คุณ Pall กับน้องบัวฯ จะให้รอไปนานสักอีกเท่าไหร่คะ  อยากอ่านเรื่องเข้มข้นบู้ๆมันๆแต่เป็นจริงมากค่ะ  ตั้งใจรอคอยนะคะ
 
 น้องบัวฯคะ ร้านขายของชำไทยในฝรั่งเศสมีที่ Annemasse  ที่ Rue de Genève เป็นร้านคนเวียตนามอยู่ครงข้ามกับ Honda ไม่ไกลจากชายแดนมากค่ะ  ส่วนอีกร้านอยู่ที่ Bonneville ซึ่งเป็นเมืองเล็กๆมีของมากชื่อร้าน Angkor และมีอาหารสำเร็จรูปทั้งขนมขายด้วย  ในเมืองนี้มีอีกร้านเล็กสองร้านค่ะแต่ของไม่มากเท่าร้านแรก  ที่ Ferney-Voltaire ก็มีค่ะ

pall

สวัสดีจ๊ะรวงข้าว
 ป้าเขียนตอบรวงข้าวทีไรทู้จะหายทุกที
 ไม่รู้ว่ารวงข้าวปิดยันต์กันเหนียวหรือเปล่า
 เห็นที่รวงข้าวบอก..ต้องคอยระวังแล้ว
 ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นหูชาแน่ๆ
 ทำงานระวังรักษาสุขภาพหญิงเหล็กไว้นะจ๊ะ
 ถ้าล้มหมอนนอนเสื่อแล้วไม่คุ้ม..
 พยายามนอนพักผ่อนให้มากๆ..กินยา...และดื่มน้ำชามากๆนะจ๊ะ