News:

ยินดีต้อนรับ สู่ Pall Swiss เว็บบอร์ดตัวใหม่

Main Menu

ขอสอบถามเรื่องการแต่งานกับหนุ่มสวิสค่ะ

Started by อ้อม, September 20, 2005, 07:23:14 PM

Previous topic - Next topic

อ้อม

เพิ่งกลับมาจากสวิสเมื่อ 14 สิงหา 48 ที่แล้วมาค่ะ แล้วกำลังจะกลับไปแต่งงานกับแฟนที่สวิสประมาณ 9 ธันวาคม 48 นี้ค่ะ แล้วกะว่าจะใช้ชีวิตอยู่ที่นู่น ที่ THUN ค่ะ อยากรบกวนขอเรียนสอบถามว่า  
  1. มีคนบอกว่ายังจะขอ visitor visa ไปไม่ได้ เพราะหลังจากกลับมาต้องทิ้งช่วงประมาณ 3 เดือน ถึงจะกลับไปขอ visitor visa  ได้อีกที ..จริงไหมคะ? .เพราะถ้าจะเดินทางเดือนธันวานี้ก็ต้องเริ่มไปทำเรื่องยื่นขอวีซ่าประมาณเดือน พฤศจิกา ..แล้วเรื่องก็จะถูกดำเนินกว่าจะได้วีซ่าก็น่าจะเป็นประมาณสิ้นเดือนพฤศจิกานู่นเลยค่ะ ..
 2. ถ้าถือ visitor visa แล้วเตรียมเอกสารการแต่งงานไปทำเรื่องที่สวิส จะได้ไหมคะ ..โทรไปถามที่สถานฑูตสวิสที่กรุงเทพเค้าบอกว่าไม่ได้ ต้องทำเรื่องขอวีซ่าเตรียมตัวแต่งงานไป แต่แฟนไปถาม Gemeinhaus ที่ THUN  เค้าบอกว่าได้ ให้ถือ visitor visa เข้าสวิสแล้วทำเรื่องที่นู่นก็ได้ ..มันยังไงกันแน่คะ ..สับสนมากค่ะ ..ใจจริงอยากจะถือ visitor visa เข้าไปสวิสก่อนแล้วเตรียมเอกสารทั้งหมดไปทำเรื่องที่นู่น เพราะกะว่าจะไม่รีบแต่งงาน กะจะทำเรื่องประมาณ เดือนกุมภา 49 ค่ะ ..ขอความกระจ่างตรงนี้ด้วยค่ะ ..
 3. ถ้าทำเรื่องที่นู่นได้ เอกสารทั้งหมดเอาไปแปลที่สถานฑูตไทย ขอเค้ารับรองเอกสารแล้วไปยื่นเรื่องขอแต่งงานที่ Gemeinhaus ได้หรือเปล่าคะ หรือต้องแปลจากเมืองไทยไปเลย ..ยังไงขอรายละเอียดขั้นตอนการดำเนินการด้วยก็ดีค่ะ  
 
 
 ปัญหาทั้งหมดของดิฉันก็มีเท่านี้ค่ะ ค้นหาข้อมูล 2 คนกับแฟนระยะหนึ่งแล้ว แต่เราสับสนมากค่ะว่าต้องทำยังไงแน่ ..
     ขอบพระคุณล่วงหน้าสำหรับทุกคำตอบค่ะ  
 
                                                             อ้อม

**กระทู้นี้เป็นกระทู้เดิมหมายเลข 0853 ห้อง pallswiss (เผื่อใช้ในการค้นหา)**

เตย

ขอตอบตามประสบการณ์ที่เตยเคยทำนะคะ กรณีเคยถือ visitor visa เข้าประเทศมาก่อนแล้วทางสถานฑูตต้องให้เว้นระยะ 3 เดือนคะ แต่เดินเรื่องขอวีซ่าคู่หมั้นได้ คือขอวีซ่าเดินเรื่องจะมาแต่งงานที่นี่น่ะคะ
 
 ส่วนที่คุณโทรฯ ไปถาม เตยเข้าใจว่าด้วยทางสถานฑูตไม่อยากให้มีปัญหาภายหลังมากกว่า เพราะเอกสารที่คุณต้องเตรียมมีหลายอย่าง คุณอ้อมลองคิดอย่างแรกนะคะ เรื่องการแปลเอกสารคุณอ้อมก็ยังไม่เข้าใจเพราะจริงแล้วสถานฑูตไทยไม่รับแปลเอกสารนะคะ ยิ่งที่นี่คุณอ้อมต้องแปลเป็นภาษาราชการของที่นี่ คือเยอรมัน อิตาลี่ และฝรั่งเศส  ภาษาที่ใช้ของที่นี่ภาษาใด ภาษาหนึ่ง นั่นก็คือทาง THUN ใช้ภาษาเยอรมันก็ต้องแปลเอกสารเป็นภาษาเยอรมันคะ
 อันนี้ถ้าคุณอ้อมไปติดต่อสถานฑูตที่เพลินจิต เค้าก็จะแจก Translation office มาให้แล้วจะวงมาให้ว่าคุณอ้อมควรไปแปลที่ไหน
 
 โดยการไปขอวีซ่าคู่หมั้นก็เริ่มจาก คุณอ้อมนำเอกสาร
 - ทะเบียนบ้าน
 - สูติบัตร
 - สำเนาทะเบียนการหย่า (กรณีหย่าร้าง)
 - มรณบัตรของคู่สมรสเดิมที่ถึงแก่กรรม (กรณีม่าย)
 - หนังสือเดินทางหรือบัตรประจำตัวประชาชน (ใช้หนังสือเดินทางนะคะจะได้ไม่ต้องแปล)
 - หลักฐานการเปลี่ยนแปลงชื่อตัวและชื่อสกุล
 - ข้อมูลชื่อสกุลเดิมของมารดา (อันนี้จะมีในใบสูติบัตรอยู่แล้วไม่ต้องกังวลคะ)
 - หลักฐานแสดงสถานภาพ (โสด, หย่าร้าง, ม่าย) ซึ่งมีอายุไม่เกิน 6 เดือน  
 - ใบรับรองความประพฤติ (อันนี้ถ้าคุณอ้อมอยู่กรุงเทฑฯ ไปขอได้ที่สถานีตำรวจแห่งชาติอยู่ระหว่างมาบุญครองกับเวิร์ดเทรดนะคะ) * ใบนี้เราขอเป็นภาษาอังกฤษนะคะจะได้ไม่ต้องเสียค่าแปลเช่นกัน
 
 เอกสารอีกใบหนึ่ง อันนี้คุณอ้อมต้องส่งมาให้แฟนคุณอ้อมเขียนคือ "ใบคำร้องขอเตรียมการสมรส" แล้วให้เค้าแนบ*สำเนาหนังสือเดินทางของเค้าส่งมาให้ด้วย อันนี้ทางสถานฑูตจะให้เราส่งให้แฟนเพื่อกรอกในวันที่เราไปติดต่อ แล้วทางสถานฑูตก็จะให้เราไปแปลเอกสารเมื่อไหร่เราพร้อมก็ไปยื่นเอกสาร  
 เมื่อเราแปลเสร็จทุกอย่างเอกสารเรียบร้อยก็ไปยื่นที่สถานฑูตต้องยื่นต้นฉบับเอกสารต่างๆ นี้ พร้อมทั้งสำเนาที่ได้รับรองสำเนาถูกต้องแล้ว  เอกสารต่างๆ  ที่เป็นภาษาไทย และฉบับแปลเป็นภาษาราชการของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ภาษาใดภาษาหนึ่ง (ภาษาเยอรมัน ฝรั่งเศส หรืออิตาเลียน) * ไม่ต้องไปขอให้กระทรวงการต่างประเทศของประเทศไทยรับรองนะคะ  แล้วจ่ายค่าธรรมเนียม  
 หลังจากนั้นก็รอคะโดยระยะการพิจารณาใช้เวลาประมาณ 8 สัปดาห์  
 
 ส่วนที่คุณอ้อมกังวลเรื่องระยะเวลายังไม่ค่อยอยากแต่งเร็วนัก เตยว่าคุณอ้อมมีเวลาดูอีกนิดหน่อยนะคะ คือวีซ่าที่เราได้มีระยะเวลาสามเดือน ถ้านับตามที่คุณอ้อมพูดคือได้แต่งประมาณกุมภาพันธ์ตามที่คุณอ้อมต้องการพอดี คุณอ้อมใช้เวลานี้ไตร่ตรองดูแล้วกันนะคะ
 
 ขอให้โชคดีมีความสุขเยอะๆ นะคะ
 
 

pall

สวัสดีจ๊ะเตย
 ขอบคุณมากได้ความรู้หลายอย่างเกี่ยวกับ
 การยื่นขอทำวีซ่าคู่หมั้นที่เตยทำมา
 เตยเขียนเล่าให้ฟังอย่างละเอียดเลย
 เป็นข้อมูลความรู้สำหรับคนไทยบางคนที่เข้ามาอ่าน
 

pall

สวัสดีจ๊ะอ้อม
 
 ขอสรุปคร่าวๆนะจ๊ะจากคำตอบของเตยด้วย
 
 **คำถาม**
 1. มีคนบอกว่ายังจะขอ visitor visa ไปไม่ได้ เพราะหลังจากกลับมาต้องทิ้งช่วงประมาณ 3 เดือน ถึงจะกลับไปขอ visitor visa ได้อีกที ..จริงไหมคะ? .เพราะถ้าจะเดินทางเดือนธันวานี้ก็ต้องเริ่มไปทำเรื่องยื่นขอวีซ่าประมาณเดือน พฤศจิกา ..แล้วเรื่องก็จะถูกดำเนินกว่าจะได้วีซ่าก็น่าจะเป็นประมาณสิ้นเดือนพฤศจิกานู่นเลยค่ะ ..  
 
 ***คำตอบ**
 เป็นความเข้าใจที่ถูกต้องอ้อมต้องรอหลัง3เดือนไปแล้ว
 จึงจะยื่นขอทำวีซ่านักท่องเที่ยวเข้ามาใหม่ได้
 
 .............แวะเข้าไปอ่านที่นี่...........
 
 http://www.admin.ch/ch/d/sr/142_211/a4.html
 
 ข้อความ.....เป็นภาษาเยอรมัน
 Sind die Einreisevoraussetzungen nach Artikel 1 erfüllt und ist namentlich die fristgemässe Wiederausreise gesichert, so benötigen für die Einreise zu einem längstens drei Monate dauernden Aufenthalt mit einem Aufenthaltszweck nach Artikel 11 Absatz 1 ferner kein Visum
 
 

pall

**คำถาม...***
 
2. ถ้าถือ visitor visa แล้วเตรียมเอกสารการแต่งงานไปทำเรื่องที่สวิส จะได้ไหมคะ ..โทรไปถามที่สถานฑูตสวิสที่กรุงเทพเค้าบอกว่าไม่ได้ ต้องทำเรื่องขอวีซ่าเตรียมตัวแต่งงานไป แต่แฟนไปถาม Gemeinhaus ที่ THUN เค้าบอกว่าได้ ให้ถือ visitor visa เข้าสวิสแล้วทำเรื่องที่นู่นก็ได้ ..มันยังไงกันแน่คะ ..สับสนมากค่ะ ..ใจจริงอยากจะถือ visitor visa เข้าไปสวิสก่อนแล้วเตรียมเอกสารทั้งหมดไปทำเรื่องที่นู่น เพราะกะว่าจะไม่รีบแต่งงาน กะจะทำเรื่องประมาณ เดือนกุมภา 49 ค่ะ ..ขอความกระจ่างตรงนี้ด้วยค่ะ ..  
 
.............................................................................
 
***คำตอบ.....*****
 
การถือวีซ่านักท่องเที่ยวและมายื่นทำเรื่องขอแต่งงานที่นี่จะทำได้หรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับKanton เขตที่พำนักด้วยเพราะแต่ละKanton จะมีกฎระเบียบไม่เหมือนกัน ก่อนจะทำเรื่องแต่งงานในประเทศสวิตโดยใช้วีซ่านักท่องเที่ยว ควรสอบถามเขตที่ฝ่ายชายพำนัก  เพื่อความรอบคอบ
ถ้าแฟนอ้อมสอบถามว่าสามารถทำเรื่องยื่นขอแต่งงานได้ ก็หมายความว่าไม่มีปัญหาอะไรสามารถทำเรื่องขอแต่งงานในสวิตฯได้ดังนั้น อ้อมต้องเตรียมเอกสารให้ครบตามที่เจ้าหน้าที่เขตที่อยู่ต้องการ
 
***********สิ่งที่สำคัญที่สุด...**************
เอกสารที่จะต้องนำมายื่นแต่งงานที่นี่ ต้องนำมาจากเมืองไทยให้ครบจะได้ไม่มีปัญหาทีหลัง***
 
**ข้อมูลที่เขียนนำมาจากสถานฑูตไทยที่Bern**
เอกสารเตรียมมาใช้ในการจดทะเบียนที่สถานฑูตไทย  เอกสารที่สถานฑูตต้องการมีดังต่อไปนี้
 
1.....สูติบัตร (ใบเกิด)

2.....เอกสารรับรองสถานภาพการสมรส (ว่าปัจจุบันไม่ได้จดทะเบียนสมรสกับผู้ใด(โสด)
(หรือกาณีหย่าร้างต้องนำทะเบียนและการบันทึกหย่าร้างมาแสดงด้วย

3.....แบบรับรองทะเบียนราษฎร์หรือสำเนาทะเบียนบ้าน
 
4....การเปลี่ยนชื่อ(ถ้ามีการเปลี่ยนแปลงต้องนำเอกสารมาแสดงด้วย)
 
5.....หนังสือเดินทางไทย
 
 
 

pall

***คำถาม
 
3. ถ้าทำเรื่องที่นู่นได้ เอกสารทั้งหมดเอาไปแปลที่สถานฑูตไทย ขอเค้ารับรองเอกสารแล้วไปยื่นเรื่องขอแต่งงานที่ Gemeinhaus ได้หรือเปล่าคะ หรือต้องแปลจากเมืองไทยไปเลย ..ยังไงขอรายละเอียดขั้นตอนการดำเนินการด้วยก็ดีค่ะ  
 
............................................................
 
**คำตอบ.....***
ไม่มีปัญหาอะไรอ้อมสามารถนำเอกสารมาแปลที่สถานฑูตไทยได้แล้วนำเอกสารไปยื่นทำเรื่องขอแต่งงานได้เลย ค่าแปลเอกสารที่นี่มีราคาสูงพอสมควร
 
**สำหรับผู้ที่มายื่นขอจดทะเบียนสมรสที่สถานฑูตไทยที่นี่***
ถ้ามายื่นขอจดทะเบียนสมรสที่สถานฑูตไทยที่นี่ ต้องนำเอกสารมาแปลภาษา
ที่สถานฑูตไทยที่Bern..เท่านั้น ถ้าแปลมาจากที่อื่นสถานฑูตจะไม่รับ
หลังจากจดทะเบียนและแปลเรียบร้อยแล้วก็นำเอกสารนี้ไปยื่น ต่อเขตที่อยู่ก็เป็นอันเรียบร้อย
 
***ถ้าจะยื่นเอกสารจดทะเบียนที่สถานฑูตไทยที่Bern***
ต้องโทรนัดวันและสอบถามเพื่อความแน่ใจอีกครั้ง
 
ขอให้โชคดีจ๊ะ

แวะมาบอกคะ

เห็นคุณเตยบอกว่า  จะทำวีซ่าท่องเที่ยวเข้ามาแต่งงาน  ขอแนะนำนะคะ  "อย่าเสี่ยงทำวีซ่าท่องเที่ยวเข้ามาแต่งงานเลยคะ"  เพราะว่า "บางทีนะคะ"  ทางสถานฑูตสวิสในประเทศไทย  จะมีการปั้มวีซ่าของคุณว่า "ห้ามแต่งงาน"  อันนี้เห็นมาแล้วกับน้องสาวเพื่อนเองคะ ต้องเดินทางกลับประเทศไทยเมื่ออายุวีซ่าหมดลง   และค่าใช้จ่ายในการเดินเรื่องแต่งงานมาจากเมืองไทยคุณประหยัดมากเกือบสองพันสวิสฟรังซ์  ยกตัวอย่างนะคะ
 
 1. ค่าเครื่องบินถ้าวีซ่าท่องเที่ยวต้องซื้อไปกลับ  ถ้าวีซ่าแต่งงานสามารถซื้อเที่ยวเดียวได้ด้วยคะ  และอันนี้มันเป็นเรื่องเวียนหัวเลยคะ ถ้าคุณซื้อไปกลับ แล้วต้องกลับไป พอจะมาสวิสอีกทีต้องซื้ออีกไปกลับอีกเที่ยว หรือดีไม่ดีอาจทิ้งไปเฉย ๆ หนึ่งเที่ยวเลยก็ได้
 
 2. ค่าแปลเอกสารที่สวิสนะคะทุก ๆ อย่างคิดว่าประมาณ 600 สวิสฟรังซ์ แปลที่เมืองไทยและสถานฑูตรับรองคิดว่าไม่เกินร้อยฟรังซ์คะ ค่าแต่งงานอีกนะคะคิดว่าช่วงนี้เฉียด ๆ พันสวิสละคะ
 
 3. ถ้าได้วีซ่าแต่งงานมา ถ้าเดินทางมาถึง คุณก็เลือกแต่งงานคิดว่าประมาณน่าจะอยู่ราว ๆ เดือนนึง  แต่ถ้าได้วีซ่าท่องเที่ยวมาก ถ้าหากเจ้าหน้าทียึกยักอาจจะไม่ได้แต่งงานนะคะ ถือว่าไม่ได้มีจุดประสงค์จะมาแต่งงาน คุณอาจจะต้องออกนอกประเทศก่อน   ข้อนี้สำคัญมาก
 
 4. ถ้าเค้าอนุญาตให้คุณแต่งงานได้ คุณต้องเดินเรื่องแปล และตรวจเอกสารที่นี่คิดว่าประมาณสามเดือน บางที่คุณอาจจะต้องต่อวีซ่าต่อ ซึ่งต้องเสียค่าใช้จ่าย และค่าประกันเพิ่ม
 
 ลองคิดดูนะคะ  ถ้าคิดว่าไหน ๆ ก็จะแต่งงานกันแล้ว  ทำไมไม่ทำเรื่องแต่งงานมาเลยละคะ  เอาแบบที่เราคิดว่าชัวร์ ๆ เลยคะ

แวะมาบอก

ขอโทษทีคะไม่ใช่คุณเตย  แก้ไขเป็นคุณอ้อม คะตายลาย 555

อ้อม

ขอบคุณคุณแวะมาบอกค่ะ ..ไม่ใช่ว่าอ้อมเป็นคนหูเบานะคะ แต่ก็จริงอย่างที่คุณว่า อ้อมก็เชื่อว่าทำที่เมืองไทยค่าใช้จ่ายจะถูกกว่าเยอะมาก..และปลอดภัยดีด้วย เพราะอ้อมกับแฟนก็ไม่ได้ร่ำรวยอะไรมากมาย อ้อมคงบินไป-กลับบ่อยๆไม่ได้ นี่ก็กะว่าจะแต่งแล้วอยู่ที่นู่นเลยค่ะ ..ถ้าวีซ่าท่องเที่ยวไม่ได้ แล้ว visitor visa (วีซ่าเยี่ยมญาติจะแต่งได้หรือเปล่าคะ) ..

นิด( แม่ลูกหมูสามตัว)

คุณแวะมาบอก ค่ะ ไม่ทราบว่าคุณพอจะมีตัวอย่างของวีซ่าที่ปั้มข้อความว่า " ห้ามแต่งงาน "มาให้ดูได้ไหมค่ะ อยากเห็นมากเลยค่ะเพราะไม่เคยเห็นกรณีแบบนี้ ไม่ทราบว่ามีการเปลี่ยนแปลงกฏหมายการเข้าเมืองใหม่หรือค่ะ แล้วอีกอย่างหนึ่งสถาฑูตสวิสในประเทศไทยไม่มีสิทธิ์ปั้มข้อความอะไรลงในวีซ่า เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองที่อยู่ที่ประเทศสวิตฯเป็นหน่วยงานที่สามารถทำได้เท่านั้น เพราะจะเป็นคนตัดสินใจออกวีซ่าให้.
 http://www.ch.ch/ อันนี้เป็นลิ้งเวปตำรวจตรวจคนเข้าเมือง http://www.ch.ch/urn:ch:de:ch:ch.99.08:01อันนี้เป็นข้อมูลเกี่ยวกับวีซ่า
 แล้วอย่างกรณี ที่ทำวีซ่าท่องเที่ยวแล้วมาแต่งงานก็พึ่งได้ไปรวมงานแต่งและได้รับรู้ขั้นตอนในการยื่นเรื่องแต่งงานของเพื่อนรุ่นน้องมาเมื่อสามเดือนที่แล้ว  น้องเค้าทำวีซ่ามาเที่ยวแล้วยื่นเรื่องแต่งงานก็ทำตามขั้นตอนที่ป้าเขียนไว้ข้างบนทุกอย่างก็ผ่านไปด้วยดี ตอนนี้น้องคนนี้อยู่ที่นี้เรียบร้อย และกำลังเข้าเรียนภาษาเยอรมัน
 

อยากแนะนำ

อ้อมฟังๆแล้วก็ให้ไปถามที่สถานทูตดีกว่าเพราะพวกเราป้าๆยายๆพี่ๆก็แค่ได้ยินและได้อ่านมาไม่ได้ทำด้วยตังเองมันมีการเปลี่ยนแปลงได้นะ+++++++และที่ว่าสถานทูตจะปั้มวีซ่าห้ามแต่งงานนั้นก็เป็นไปไม่ได้หรอก+++++สถานทูตกับกองตรวจคนเข้าเมืองเขาทำงานร่วมกันค่ะ

pall

สวัสดีจ๊ะทุกๆคน
 สวัสดีจ๊ะนิด
 ขอบคุณมากสำหรับความเห็นที่เขียนบอกมา
 
 ขอบคุณมากสำหรับความเห็นของทุกๆคน
 เห็นด้วยจ๊ะกับความเห็นที่บอกว่าให้ไปสอบถามที่สถานฑูตไทย
 
 ****อ้อม...***
 ให้แฟนโทรไปสอบถามว่าสถานฑูตตอ้งการอะไรในการจดทะเบียนบ้าง
 ถ้าไม่มั่นใจกับข้อมูลที่ป้าก๊อบปี้มาจากสถานฑูตอีกที
 
 
 ****แต่การแต่งงานจดทะเบียนที่สวิตฯ***
 แฟนของอ้อมเป็นคนสวิสย่อมรู้ดีว่าเขาควรจะทำอย่างไรบ้าง
 เอกสารที่ใช้ภายหลังที่จะนำมายื่นต่อเขตที่อยู่
 ก็คือเอกสารที่เสร็จสิ้นจากการทำที่สถานฑูตไทยมาแล้ว..
 และนำมายื่นที่เขตที่อยู่และรอใบจากเขตแค่นี้ก็เสร็จ
 
 เอาใจช่วยจ๊ะ
 
 

แพร

เข้ามาบ้านป้าพอลแล้วขอกล่าวคำสวัสดีก่อนอื่นค่ะ
 พอดี แพรเห็นด้วยกับความคิดเห็นที่ ๖ ค่ะ เลยขอตอบตามประสบการณ์ตัวเองด้วยว่า  
 ทำวีซ่าแต่งงานมาดีกว่า ของแพรใช้วลาคอยแค่สองเดือนเองค่ะ
 ซื้อเครื่องบนขาเดียวด้วย
 ไม่เสี่ยงต่อการถูกโกหกของฝ่ายชายว่าโสดแต่บินมาจริงๆ แล้วแต่งงานไม่ได้ต้องกลับ  (เพราะทำวีซ่าแต่งงานเขาจะเช็คกลับมาที่ฝ่ายชายด้วยว่าแต่งงานกับทางเราตามกฏหมายได้หรือไม่ด้วย)
 ทางสถานฑูตทางเมืองไทยชอบขู่ค่ะว่า "มั่นใจนะว่าจะไปเที่ยว ถ้าไปแต่งงานก็ให้ทำเรื่องแต่งงานนะ ถ้าทำเรื่องวีซ่าท่องเที่ยวแล้วแต่งงานและถ้าตอนหลังมีปัญหาคุณจะเข้าประเทศสวิสฯต่อไปได้ยากนะ จะแต่งงานก็ทำเรื่องวีซ่าคุ่หมั้นไปเลย ให้ถูกต้อง เพื่อป้องกันหญิงไทยถูกหลอกลวงไปขายตัวในต่างแดน"
 

jeep

แต่งงานแล้วเหมือนกัน ทำเรื่องจากไทยง่ายกว่าค่ะ ตอนแรกก็ทำ วีซ่าท่องเที่ยวกะว่าจะมาแต่งงาน แต่มีปัญหาเร่องเอกสรกับการแปล ก็เลยกลับไปทำเร่องท่ไทย  
 

nana

สวัสดีค่ะป้าพอลค่ะ หนูมีเรื่องรบกวนสอบถามนะคะเกี่ยวกับเรื่องขอวีซ่า หนูมีแฟนเป็นคนไทยที่สวิสและกำลังทำเรื่องให้หนูไปที่นู่นประมาณเดือนสิงหาคม 50 ค่ะ แต่หนูกังวลใจว่าตอนนี้หนูว่างงานค่ะแต่แฟนส่งเงินมาให้ทุกเดือนค่ะ เลยกังวัลใจว่าหากเค้าทำหนังสือเชิญมาแล้วไม่มีหนังสือรับรองการทำงานจะเป็นอะไรหรือเปล่าค่ะ หรือจะให้พี่ที่เป็นเจ้าของบริษัทที่รู้จักกันออกหนังสือให้ดีค่ะ อีกอย่างค่ะถ้าแฟนทำหนังสือเชิญแล้วต้องแฟกซ์ไปที่สถานฑุตหรือส่งมาให้หนูไปยื่นค่ะ  หวังเป็นอย่างยิ่งค่ะว่าป้าพอลจะกรุณาตอบและช่วยตอบคำถาม