News:

ยินดีต้อนรับ สู่ Pall Swiss เว็บบอร์ดตัวใหม่

Main Menu

**พายุหิมะ**

Started by pall, January 19, 2004, 01:06:51 PM

Previous topic - Next topic

pall




 
 
 ** เหตุการณ์ที่ลืมไม่ลงจนชั่วชีวิต **
 
 วันที่ 18 มกราคม 2004
 
 เราเดินทางออกจากบ้านโดยน้องซาร่าเป็นคนพาไป
 น้องซาร่าเป็นชื่อของรถซีตรอง X-SARA
 รูปข้างบนที่เห็นนี่แหละน้องซาร่ายี่ห้อเดียวกับของป้า
 
 เหมือนมีอะไรมาดึงให้ต้องออกจากบ้าน
 ป้าไม่อยากออกไปไหนเท่าไรเพราะเมื่อคืน
  ปวดท้องไม่ได้นอนทั้งคืน........รู้สึกเพลียมาก
 ลุงขนาดเป็นหวัดน้ำมูกไหลไม่หยุด
 แต่แกต้องไปเหยียบรอย Teen หมาให้ได้เซ็งมาก
 
 ระหว่างที่ออกจากบ้านทิวทัศน์ข้างทาง
 หิมะคลุมเต็มขาวโพลนสวยมาก...ยิ่งเกาะกิ่งสนเต็มต้นเป็นภาพที่สวยสุดๆ
 ลุงบอกดีใจที่แกะป้าออกจากบ้านมาได้
 ว่าไปจริงของแกวิววันนี้สวยมากบอกไม่ถูก
 ป้าชี้ให้ลุงดูท้องฟ้าข้างหน้ารู้สึกผิดปรกติมาก
 ออกเป็นสีเทาหม่นแต่เราไม่ได้คิดอะไรในทางร้าย
 
 เส้นทาง Oberbalm เส้นทางที่ใช้ดีมากไม่มีปัญหาอะไร
 และเส้นทางนี้เราคุ้นกันดีและใช้มากช่วงหน้าร้อน
 เป็นเส้นทางที่ลุงขับป้ากับลุงไปเดินเขาทุกปีจะชันและสูง
 
 คดเคี้ยวไปมา..........ส่วนหน้าหนาวเราไม่เคยได้ใช้เท่าไร
 
 ลุงบอกเราไปเส้นทางที่เดินเขาหน้าหนาวคงจะสวยมาก
 ป้าเห็นด้วยเหมือนมีอะไรมาดลใจ
 วิวสวยเหมือนอยู่บนเมืองเนรมิตของแม่มด
 ขาวโพลนและหิมะข้างทางสูงเมตรกว่าเต็มไปหมด
 ระหว่างขับขึ้นเขาลุงบอกผิดสังเกตมาก
 ไม่มีรอยยางรถให้เห็นเลย...ก้อนหิมะตั้งอยู่โดดเดี่ยว
 บนถนนหลายก้อน.........
 
 สักพักเริ่มมีลมพัดแรงและหอบหิมะพัดมากระทบรถหลายครั้ง
 จะเลี้ยวกลับไปทางเก่าก็ไม่ได้เพราะข้างทางมีแต่กองหิมะสูง
 มีทางเดียวคือต้องรุดหน้าขับอย่างเดียว
 ทางลื่นมาก......รถปัดเป๋ไปมาหลายครั้ง.......
 ลุงหน้าเริ่มซีด......บ่นออกมาเบาๆ......
 อืมไหวไหมนะ...............
 
 
 ข้างทางเราที่เป็นป่ามีรถจอดอยู่สองคันผิดสังเกตมาก
 ลุงบอกคงจะมีอะไรข้างหน้า......แกสงสัยมาก.....
 จริงอย่างที่แกคิดถนนที่ขับจะมีหิมะสูงครึ่งทางต้องค่อยๆขับ
 และลุงบอกเกือบไม่ไหว....แกเหนื่อยมาก....ป้าลืมยาโรคหัวใจติดตัวมาด้วย
 ทางที่ขับเกือบตกเขาหลายหน.......ป้าสวดมนต์บอกให้ปู่ช่วยตลอดทาง
 

**กระทู้นี้เป็นกระทู้เดิมหมายเลข 0151 ห้อง pallswiss (เผื่อใช้ในการค้นหา)**

pall




 
 
 **  เกือบเดี้ยง **
 
 ลุงกัดฟันขับรถจนถึงข้างบน
 เย้ๆๆๆป้าดีใจมากนึกว่าปลอดภัยแล้ว
 
 ลุงบอกว่ายังดีใจไม่ได้เพราะเรายังไม่ได้ลงมาข้างล่าง
 ใจป้าตกอยู่ตรงหน้าแข้ง........กลัวมาก.....
 เราคิดกันไปทางไหนดี.........ลุงให้ป้าไปดูป้ายที่ขับผ่านมา
 ออกนอกรถแทบปลิวลมพัดหอบหิมะมาเต็มหน้าแสบไปหมด
 
 ป้าบอกเราไปข้างหน้าเหอะเพราะเห็นถนนไม่มีหิมะ
 แต่พอลุงรู้ว่าต้องขับขึ้นภูเขาสูงอีกแกบอกไม่อยากเสี่ยง
 เส้นทางนี้เรารู้ดีแกชี้ให้เห็นว่าเห็นไหมไม่เห็นเส้นทางถนนเลย
 ตกลงเราใช้เส้นทางที่จะมา Belp............
 เส้นทางที่ลุงขับชื่อOberfluee  
 ตอนแรกป้าดีใจมากบอกลุงว่ารอดตายแล้ว
 
 ไม่ทันขาดคำลมพัดแรงจัดหอบหิมะมาเต็มถนนลุงต้องค่อยๆขับ
 เป๋ไปมาเพราะแรงลมและหิมะ......นั่งใจหายใจคว่ำตลอดทาง
 บางครั้งรถแฉลบออกนอกเส้นทางซึ่งไม่มีหิมะกองข้างทาง
 ซึ่งเป็นเขาสูงชันถ้าหล่นลงไปไม่ตายก็เลี้ยงไม่โต
 
 จนมาถึง..... Oberfluee  รถติดไปไหนไม่ได้
 ทำอย่างไรกันดี.....มือถือไม่มี.....
 ลมพัดหอบหิมะมาเต็มถนนตลอดเวลา
 ป้าเปิดประตูกดหิมะจากประตู....ลมพัดจนป้าเดินเซไปมา
 ลุงออกจากรถตามมาด้วย......แกลื่นหงายท้อง......
 ป้าไปประคองแก.....มือลุงสั่นไปหมด.หน้าซีดมากผิดสังเกต..
 กลัวลุงหัวใจวายมาก....ลืมยาติดตัวไปด้วยแย่มากเลย.......
 
 เราสองคนคิดกันว่าจะเดินไปหาบ้านชาวนาข้างหน้า
 ไปขอความช่วยเหลือและไปขอพั่วมาขุดหิมะข้างหน้า
 รีบเข้ามาในรถเพราะไม่ไหวหน้าแสบไปหมด
 หิมะพัดตีหน้าตลอดเวลา....ในรถมีแต่หิมะเต็มไปหมดเกือบท่วมประตูเปิด
 ป้าต้องตักออก........
 
 ลุงกัดฟันมือสั่นคงเกร็งมาก........
 สักพักเหมือนโชคช่วยลุงแกเขยื้อนถอยหลังได้
 แกถอยหลังเข้ามาใช้เส้นทางข้างใน
 หิมะหนาท่วมถนนแบบในรูป
 ได้ยินเสียงขูดพื้นรถตลอดเวลา
 จนมาถึงBumishaus สูงประมาณ900เมตรกว่าๆ
 
 มีบ้านชาวนาและป้ายบอกทาง.....ป้าต้องออกไปหาไม้มาขูดออก
 หิมะจับหนาโพลนจนอ่านไม่ได้
 มีชาวนาออกมาถาม....ลุงถามทางไปข้างล่าง
 เขาบอกว่าไม่รู้เหมือนกันเพราะทางทั้งสองเส้นพอๆกัน
 
 เราเลยต้องเสี่ยง.......ตอนแรกดีใจมาก....ถนนไม่มีหิมะ
 แต่แล้วต้องเ*่ยวเฉาเหมือนดอกไม้โดนน้ำร้อนราด
 ทางหนาเต็มไปด้วยหิมะที่ลมพัดหอบมากองตลอดเวลา
 และรถแล่นแฉลบไปมา..มีอยู่ครั้งแฉลบ
 จนลุงต้องหักพวงมาลัยกลับสุดขีด
 
 จนถึงข้างล่างเหมือนสวรรค์มาโปรดไม่มีผิด
 ถึงแม้บางครั้งเส้นทางลุงบอกเหมือนขับไปบนกระจก
 คืออันตรายมากถ้าพื้นจับเรียบเป็นน้ำแข็ง
 ทำให้รถเกิดอุบัติเหตุได้ง่ายถ้าแค่เบรค
 นิดเดียวเป็นอันว่า.....สบายแน่ๆ
 
 เรากลับบ้านโดยปลอดภัย.....
 ได้บทเรียนหลายอย่างในวันนี้.....
 เวลามีอะไรเกิดขึ้นเราอย่าขาดสติ..........
 เราต้องเตรียมพร้อมต้อนรับทุกสิ่งทุกอย่างที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
 พยายามอย่าลืมของใช้จำเป็น......ที่สำคัญที่สุดเช่นยา
 หัวใจของลุง.......ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นตอนนั้นลุงตายไปนานแล้ว
 นี่เพราะความประมาทตัวเดียวคิดว่า......ไปใกล้แค่นี้เอง
 เดี๋ยวก็กลับบ้าน......
 โชคดีไม่มีอะไรเกิดขึ้น......ไม่เช่นนั้นคงจะเสียใจตลอดชีวิต..
 
 

นี่นะ

ป้าจ๋า
 คุณพระรักษาทั้งลุงทั้งป้าเลยนะคะ  
 นี่นะอ่านไปก็ลุ้นตามไปด้วยค่ะ ใจหายใจคว่ำแทน  
 วันหลังอย่าออกกันไปแบบนี้อีกนะคะ น่ากลัวหรือไม่ก็เช็คสภาพอากาศก่อนออกจากบ้านก็ได้นะคะป้า  
 
 นี่นะเป็นห่วงค่ะ

ป้าพร Stockholm

โฮ้ ป้าจ๋า  หิมะ หนะสวย  แต่ ก็น่ากลัว  เหมือนกัหนะ  ยิ่งตอนที่หิมะลาลาย  เป็นน้ำ แล้วอุณหภูมิ ก็เย็นต่ากว่าจุดเยือกแข็งลงไป แบบ รวดเร็ว  ทีนี้ น้ำก็จะกลายเป็นน้ำแข็ง   แล้วเราก็ต้องเดิน ไปบนน้ำแข็งเนีย
 ไม่สนุกเลย  อาจหกล้ม  ขาแข้งหักได้เหมือนกัน
 
 เราอยู่เมืองไทย เราไม่ค่อยได้เห็น ผู้ ใหญ่ หรือ หนุ่มๆ สาวๆ เดินแล้วหกล้มกัน          แต่มาอยู่เมืองหิมะ   ดูจะเป็นเรื่องธรรมดาเสียแล้ว  แต่ถ้าเห็นเขาหกล้มแล้ว   อย่าได้ไปหัวเราะ เขาเป็นอันขาด  อิ อิ  แค่เรายิ้มๆ ก็คงพอแล้ว  อิ อิ
 
 โฮ้ป้า กับลุง ชอบเจออะไรที่ตื่นเต้น  แต่ต้องเตรียมพรอ้มไว้ในรถบ้างหนะป้า   พรั่วจอบ  เครื่องอำนวยความสะดวก สำหรับหน้หนาวทั้งหลายแหล่นะป้า    

ส้มจุก

น่ากลัวนะคะหนูไม่เคยเจอหิมะบนภูเขาเห็นแต่ในหนัง  แต่เคยเจอหิมะเต็มถนนเดินไปมาลำบาก  และนี่ป้าไปอยู่บนภูเขาไหนจะลมไหนจะหิมะอีก  หนูเคยขับรถบนโคลนเละๆ นะคะเข้าใจเลยว่าตอนป้าบอกว่ารถเป๋ไปเป๋มาเป็นยังไง เสียว แหะ แหะ  ทีหลังป้าต้องเอายาใต้ลิ้นของลุงแยกเก็บมาไว้ในกระเป๋าป้าแล้วละคะ  ถ้าลืมหยิบมายังไงในกระเป๋าป้าก้อยังมีสำรอง  
 
 ป้าจ๋ายังไงก้อขอให้ป้าดูแลตัวเองด้วยนะคะ อยู่กันสองคนตายายหนูเป็นห่วงคะ  

นิด

ซ่าทั้งคู่ อีกคนหัวใจไม่ค่อยดี อีกคน ก็ไม่สบายยังไม่วาย นะป้า ดีนะ คุณพระคุณเจ้าคุ้มครอง เมื่อไหร่จะไม่มีเรื่องตื่นเต้นมาให้ลูกหลานลุ้นกันตัวโก่งนะป้า