News:

ยินดีต้อนรับ สู่ Pall Swiss เว็บบอร์ดตัวใหม่

Main Menu

ขอคำปรึกษาเรื่องลูกจะไปเรียนที่สวิสกับ่าครองชีพ

Started by เอ, March 14, 2005, 09:06:59 PM

Previous topic - Next topic

blacktea


miko

อ้าว...ไม่ได้ชิจ๊ะน้อง ชาดํา ทํางานจนตัวเป็นเกลียวหัวเป็นน๊อตขนาดนี้ถ้าไม่เก็บเงินไว้บ้างแล้วจะเอากําลังใจจากใหนละจ๊ะมาทํางาน อิ อิ

เอค่ะ

ขอบคุณสำหรับทุกคำแนะนำค่ะ ขอตอบคำถามดังนี้ค่ะ
 1.รายได้ ต่อเดือนที่ได้ยังไม่ทราบแน่นอน แต่คิดว่า2000-2500ค่ะสำหรับค่าใช้จ่ายภายในบ้านและค่าเดินทาง
 2. บริษัทออกค่าใช้จ่ายให้ดังนี้ ค่าโรงเรียนลูก, ค่าเช่าบ่าน ,ค่านำ. ค่าไฟ ส่วนประกันไม่แน่ใจแต่คิดว่าบริษัทออกให้ค่ะ
 3.ลูกชายตอนนี้ 4ขวบพอดี อ.2  ตอนนี้ห่งเรื่องลูกเป็นหลัก เพราะคิดว่าลูกยังเล็กเกินไป แล้วช่วงที่กลับมาก็ขึ้นป1พอดี แต่คิดตามเวลาที่ต้องไปอยู่แล้ว กลับมาไม่ทัน อาจต้องเรียซำ ลองปรึกษาบางคนดู เขาแนะนำว่าลูกยังเล็กเกินไปถ้าหางจะให้ซึมซับภาอังกฤษและตอนกลับมาอาจจะสับสน
 4.ถ้าเอไปด้วยแล้วต้องประหยัดการที่จะมีเงินเก็บกลับมาก็ยาก และเอต้องทิ้งงานที่เมืองไทย ตอนกลับมาก็ต้องหางานใหม่อีก กลัวว่าจำหาลำบาก ถ้าไม่มีเงินเก็บกลับมาบ้าง ตอนกลับมาก็ใช้แต่เงินของสามีอย่างเดียว ไม่ค่อยเวิลค์
 Kun tom Are you stay in Brasel? Thank you for your nicely.
 
 Thank you
 A

เอค่ะ

ตั้งใจว่าจะให้สามีไปอยุ่คนเดียว ห่วงการเรียนของลูกเป็นหลักค่ะ เพราะเตรียมที่เรียป1ไว้ให้เขาแล้วต้องฝากกันล่วงหน้าเป็นปี ถ้าไปกับพ่อเขา กลับมาสอบไม่ทันแน่ ถีงกลับมาสอบก่อนก็ต้องมีปัญหาเรื่องภา
 ษา ถ้าอยู่เมืองไทยต่อก็ได้เรียนที่นี่แน่ จึงต้องตัดสินใจเลือกสิ่งที่เห็นอยู่ตรงหน้าก่อนค่ะ ก็ไม่รู้ว่าตัดสินใจถูกไหมนะคะ ?
 แต่บางคนก้บอกว่าเอทำให้ลูกเสียโอกาสไปอญู่เมืองนอก แล้วก็ไม่เป็นห่วงสามี แต่จริงๆแล้ว เราห่วงทุกคน แต่เราต้องตัดสินใจเลือกสิ่งที่เป็นปัจจุบันก่อน อนาคตยังมาไม่ถึง
 สามีคิดว่าได้กลับเมืองไทย 2ครั้งต่อปี เอก็คิดว่าจะบินไปหา1-2 ครั้งต่อปีเหมือนกัน กลัวเค้าเหงา ไดยินว่าที่ บนาเซิล เป็นเมืองที่เงียบ กลัวไปมีกิ๊กที่โน่น แฮะ แฮะ
 
 ขอกำลังใจหน่อยค่ะ

นก ณ สวิตฯ

สวัสดีค่ะเจ้าของกระทู้........คุณเอ
 สวัสดีค่ะ ป้าพอล สบายดีไหมค่ะ อากาศเริ่มดีขึ้นแล้ว หน้าฟึลลิ่งไปเที่ยวไหนหรือเปล่าคะ
 และก็สวัสดีชาดำ miko ป้าตุ้ม คุณทอม ....จำกันได้ไหมเอ่ย  
 เพราะเคยเข้ามาทักทายนาน ถึง นานมากแล้ว ...แหะ แหะ
 อ้อ ! สวัสดีจ้าบัวขาว เป็นไงคะ โครงการสองใกล้เสร็จยัง แล้วตัวโตอายุเท่าไหร่แล้ว คงกะลังซนน่าดูเลยนะคะ
 เห็นหัวข้อกระทู้แล้วรู้สึกอยากออกความคิดเห็น เพราะเพื่อนบ้าน  
 ที่อยู่อพาทเม้นเดียวกัน ก็มาทำงานลักษณะเดียวกันแต่มาจากประเทศอังกิด
 ลูกสาวอายุ ห้าขวบ เข้าอนุบาล1 ที่เดียวกับลูกชาย
 อยากบอกว่า เอาลูกเรียนที่เมืองไทยดีกว่า ร้อยเปอร์เซ็นเลยคะ
 เท่าที่ได้คุยกับแม่ของหนู ซาร่า มีแต่ปัญหา  
 คิดว่าระบบการศึกษาของอิงแลนด์ กับ ประเทศไทยเรา
 เหมือนกัน คือ เด็ก เข้าอนุบาลหรือโรงเรียนไวมาก  
 เด็กสี่ขวบ ต้องไปโรงเรียนทั้งวันแล้ว
 ครูก็สอนเด็กทั้งวัน หัดเขียน หัดอ่าน สะกดคำง่าย
 พร้อมทั้งเด็กมีกิจกรรม มีอะไรทำตลอดวันว่างั้นเถอะ
 
 ที่สวิตฯ เด็กเข้าอนุบาล หนึ่ง ตอนห้าขวบ  
 กิจกรรมที่โรงเรียนก็ไม่เยอะ ก็เป็นพวกวาดรูป เล่นสี
 ประดิษฐ์ ตัดปะ ทำงานฝีมือเล็ก ๆ น้อย ๆ แต่ไม่เน้นวิชาการ
 จะเน้นเรื่องการเข้าสังคมของเด็ก และ เน้นเรื่องการช่วยเหลือตัวเอง
  เช่น ใส่รองเท้าเอง ผูกสายรองเท้าเอง แต่งตัวใส่เสื้อผ้าประมาณนี้แหละคะและก็พาเดินสำรวจ ธรรมชาติ ไม่มีการสอนภาษาอื่น นอกจากภาษา เยอรมัน ฝรั่งเศส หรือ อิตาลี่(นอกเหนือจากนั้นต้องหารร.พิเศษให้เอง)
 ระยะเวลาที่ไปอยู่โรงเรียน ก็สองชั่วโมงครึ่งโดยประมาณ ก็กลับมาทานข้าวเที่ยง ถ้ามีโปรมแกรมของโรงเรียนตอนบ่าย ก็ไปบ่ายอีกสองชม.
 ส่วนใหญ่เด็กอนุบาลหนึ่ง ก็มีแค่ช่วงเช้าสอง ถึง สามชั่วโมง ตอนบ่ายก็ว่างทั้งวัน  
 เด็กที่เคยเรียนทั้งวัน มีกิจกรรมให้ทำตลอดวันแล้วมาเรียนที่นี่ทำให้เด็กเกิดอาการเบื่อหน่าย ไม่อยากไปโรงเรียน ไหนเรื่องภาษาอีก  
 กว่าจะปรับตัวได้กว่าจะเข้าใจเพื่อน ๆ และคุณครูพูด ต้องใชเวลาอีกเป็นปี
 
 น้องซาร่าที่นก พูดถึงตอนนี้แกก็กำลังมองหาโรงเรียนนานาชาติ ที่ซูริคแล้วคะ(แพงระยับเลย) เพราะแกไม่สามารถเรียนที่นี่ได้เหมือนเด็กทั่วไป แกไม่อยากไปโรงเรียน แกบอกว่าไม่มีอะไรทำ มีแต่เล่น แบบเด็ก ๆ น่าเบื่อ เพื่อนก็ไม่มีใครอยากเล่นด้วย ตอนเช้าแกร้องไห้ก่อนไปโรงเรียนทุกวันเลยคะ คุณแม่เป็นคนบ่นกับนกเองค่ะ  
 
 ถ้าคุณเอ ..อยากให้ลูกมาเรียนที่นี่ด้วยกว่า น่าจะหาโรงเรียน นานาชาติให้ลูกเรียนเลย ดีกว่า(แพงมาก ) เพราะถ้าเข้าโรงรียนตามอำเภอ ของสวิตฯการเรียนการสอนช้ามากกก แล้วลูกคุณจะเบื่อ โรงเรียนเปล่าๆ แล้วต้องกลับไปเริ่มใหม่ ที่เมืองไทยอีก
 
 ปกติเป็นคนไม่ชอบออกความเห็นชอบแอบอ่าน  คะ นี่ยาวมาก ๆ เลยคะ  
 พอดีมีตัวอย่าง ใกล้ ๆ ตัวก็เลยอยากแชร์ประสพการณ์ตรงนี้ให้คุณแม่ได้เอาประคิดทบทวนประกอบการตัดสินใจ
 
 
   
 
 
 
 
 
 
 

pall

สวัสดีจ๊ะทุกๆคน
 
 สวัสดีจ๊ะนก
 จำได้จ๊ะหายหน้าหายตาไปเลย...
 ดีใจที่ได้เจอกันอีก...เป็นอย่างไรบ้างจ๊ะไปเที่ยวที่ไหนมาบ้าง?
 ฤดูใบไม้ผลิ...ป้ากับลุงคงจะเริ่มออกเดินเขากันอีก
 ช่วงนี้ข้างบนดอกไม้จะสวยมาก
 
 ดีใจที่เข้ามาช่วยแชร์ความคิดเห็นกัน
 จะได้มีความรู้เพิ่มขึ้นไปอีก..แล้วเข้ามาคุยกันอีกนะ
 

นก

ดีใจจังค่ะที่ป้าไม่ลืม ....ไม่ได้หายหน้าหายตาไปไหนหรอกคะ ก็วนเวียนอยู่เเถวนี้แหละค่ะ ชอบอ่านของเพื่อน ๆ และของป้า ๆ มีประโยชน์มากๆ เลยคะ (แอบอ่าน)  นี่ก็จะเฟเรียนอีกแระ คงไม่ได้ไปเที่ยวไหน ถ้าอากาศร้อนมาก ๆ ก็พาลูก ไป Schwimbad  เพราะเด็ก ๆ ชอบน้ำกันมาก ๆ เสาร์ อาทิตย์ก็ไปตั้งแคมป์ ทำ ของย่าง ๆ กินแถวริมแม่น้ำ หรือไม่ก็ ขึ้นเขาเดินเล่นเหมือนที่ป้าว่า แหละค่ะ  
 คราวหน้าจะแวะมาทักทาย และ ก็หาเรื่องมาเล่าให้เพื่อน ๆ ฟังคะ

pall

ป้าไม่ลืมนกหรอก...ถ้าลืมก็จะแกล้งบอกว่าไม่ลืม555
 
 ป้าและทุกๆคนจะคอยฟังเรื่องของนกที่จะเข้ามาคุย
 หรือเล่าอะไรเกี่ยวกับเด็กๆก็ได้...
 อากาศดีว่าจะออกไปดูน้ำเเข็งที่จับอยู่ข้างลำธารย้อยสวยมาก
 ป้าชอบไปดูถ้าโอกาสอำนวย