News:

ยินดีต้อนรับ สู่ Pall Swiss เว็บบอร์ดตัวใหม่

Main Menu

คิดว่าไง

Started by เพ็ญ, October 14, 2005, 05:36:34 AM

Previous topic - Next topic

เพ็ญ

สวัสดีค่ะป้าพอลและทุกคน เพ็ญจะแต่งงานเร็วๆนี้ ปัญหาคือ แฟนให้
 เซ็นแยกสมบัติ และได้เซ็นไปแล้ว โมโหมากที่เขาดูถูกเรา เขาไม่ได้รํารวยเลย รู้จักกันใหม่ๆเรารู้ว่าเขาไม่มีเราก็อยู่เพราะรัก เขาบอกว่า
 ถ้าเลิกกันเขาไม่อยากเหลือแต่ตัวอะไรกันนี่ทั้งๆที่ทุกวันนี้เขาก็แทบจะ
 มีแต่ตัว เรื่องเซ็นไม่มีปัญหาเซ็นให้เขา แต่ความรู้สึกซิมันลืมไม่ได้เหมือนเขาตบหน้าเราอย่างแรง ทุกคนคิดว่าเพ็ญทําถูกไหมที่เซ็นให้
 

**กระทู้นี้เป็นกระทู้เดิมหมายเลข 0917 ห้อง pallswiss (เผื่อใช้ในการค้นหา)**

อ้อม

สวัสดีค่ะ คุณเพ็ญ อ้อมก็เป็นอีกคนหนึ่งที่กำลังจะแต่งงานกับคนสวิส อ้อมไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าต้องเซ็นแบ่งสมบัติอะไรนี่ด้วย เพราะแฟนก็ไม่เคยพูดถึง..อ้อมเข้าใจนะคะว่าคุณเพ็ญรู้สึกอย่างไร อ้อมก็รักแฟนถึงแม้ว่าเค้าไม่ใช่คนร่ำรวยอะไร แค่พออยู่พอกินค่ะ เพราะเค้าก็เป็นมนุษย์เงินเดือนไม่ได้เป็นเจ้าของธุรกิจอะไร แต่อ้อมก็เลือกที่จะแต่งงานกับเค้า ยังไงคุณเพ็ญอย่าเพิ่งใจร้อนคิดถึงแฟนในแง่ร้ายเลยนะคะ ..ใจเย็นๆค่ะ ในความหมายของเค้าอาจจะไม่ได้หมายความว่าดูถูกหรืออะไรเรา ถ้าเราเป็นเค้าเราก็คงกลัวที่จะเหลือแต่ตัวเหมือนกันใช่ไหมคะ ถ้ากฎหมายไทยมีว่าเราต้องให้สมบัติแก่สามีถ้าเลิกกัน เราก็คงกลัวเหมือนกันแหละค่ะอ้อมว่า ..มันอาจจะไม่ได้หมายความว่าเค้าไม่ไว้ใจคุณเพ็ญหรอกมั้งคะ ..แต่อนาคตมันไม่แน่นอนเท่านั้นเอง..แต่ตราบใดที่เค้ารักคุณเพ็ญ แล้วคุณเพ็ญก็ดูแลเป็นภรรยาที่ดีของเค้า อ้อมว่ามันก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไรนี่คะ ..อ้อมว่าคุณเพ็ญคิดในทางที่ดีว่าหลังแต่งงานเราจะทำยังไงให้เราสองคนมีความสุขและอยู่กันไปจนแก่จนเฒ่าดีกว่าค่ะ ....เงินทองทรัพย์สมบัติช่วยกันหา เลิกกันก็แบ่งกันไป ไม่เห็นเป็นอะไรนี่คะ ..ไหนๆก็ไม่มีอะไรด้วยกันมาทั้งคู่,ช่วยกันสร้าง,ช่วยกันหา ลำบากมาด้วยกันคงไม่ทิ้งกันง่ายๆหรอกค่ะ ..เอาใจช่วยคุณเพ็ญนะคะ ..

เพ็ญ

ขอบคุณอ้อมมากที่ให้กําลังใจ อีกไม่กี่วันก็จะแต่งแล้วใจมันสับสนวุ่นวายไปหมดจากที่เคยตื่นเต้นดีใจ ตอนนี้กลายเป็นกลัวๆจะต้องได้เลิกกันอย่างที่แฟนคิดกลัวเลิกแล้วเราแบ่งเงินครึ่งหนึ่งนั่นหละ เราเคยถามเขาว่าถ้าเราเป็นคนรวยเขายังคิดที่จะให้เราเซ็นไหม? เขาไม่ยอมตอบ คําว่า" ช่วยกันสร้างช่วยกันหา" เคยอยู่ในความคิดเรานะแต่ตอนนี้เหรอ "เงินข้าใครอย่าเตะ" พยายามคิดในแง่ดีแล้วจ้ะอ้อม พยายามคิดถึงความดีของเขาที่มีให้เรา เฮ้อ...ยังไม่ได้แต่งเลยคิดไปถึงตอนหย่าแล้วเขาคิดได้ไงเนี้ย...แล้วอ้อมจะมาแต่งที่สวิสหรือเปล่า? เพ็ญว่านําเอกสารมาแปลและเดินเรื่องแต่งที่นี่จะง่ายกว่าถึงค่าแปลจะแพงถ้าเขาแปลผิดหรือตกเราให้เขาแก้ไขได้แต่ต้องเอาเอกสารมาให้ครบนะจะขอให้ได้แต่งเร็วๆจ้ะ

Tak




สวัสดีค่ะ คุณอ้อม คุณเพ็ญ แวะเข้ามาเห็นโพสนี้ ขอออกความเห็นหน่อยน่ะค่ะ ...มีเพื่อนแต่งงานกับชาวอะเมริกันค่ะ ไม่รวยและไม่เป็นหนี้ คืออยู่อย่างสบายๆ ก่อนแต่งให้เซนต์รับรองสิทธิ์ ในทรัพย์สินเช่นกัน  เพื่อนก็ทำค่ะ(บ้านรวยอยู่แล้ว) ไม่คิดอะไรมาก พออยู่กันไปถึง5ปี สามี เรียกทนายมาเปลี่ยน สัญญานั้นทิ้งไปค่ะ อาจจะป็นว่าคนเอเชียทำประวัติเสียไว้หลายเรื่องมังค่ะ  ฝรั่งเขาค่อนข้างจะมีแบบแผนกัน อย่าเก็บไปคิดว่าเขาไม่ไว้ใจน่ะค่ะ  สังเกตุจากพฤติกรรมของว่าที่สามีดูซิค่ะ ว่าเขาใจร้ายหรือ เป็นคนงกเกินเหตุไหม คุณย่อมรู้ดี และตัดสินใจได้ ถ้าไม่ใช่ ก็ไม่ต้องกังวลค่ะ หากคุณไปกันได้ด้วยดี อะไรๆ มันก็เปลี่ยนแปลงได้ ขอให้มีจิตใจที่มั่นคงเป็นพอค่ะ

บัวขาว

คิดว่าเขากลัวจนค่ะ....พอหย่ากันมาฝ่ายชายก็ต้องส่งค่าเลี้ยงดูฝ่ายหญิง...ยิ่งมีลูกก็ต้องยิ่งส่งเยอะ....คิดว่าเขาไม่อยากรับภาระภายหลังจากหย่ากันค่ะ.....
 ไม่ได้ยุนะค่ะพูดตามความรู้สึก.....สามีคือต้องเห็นหน้ากันทุกวันถ้าไม่ร้อยเปอร์เซนต์จริง จริง...ไม่เอาดีกว่าค่ะ....เวลาแต่งกันมาแล้วไม่ได้ดั่งใจ....เวลาก็ย้อนไม่ได้นะค่ะ..
 แยกสมบัติอย่างงี้ก็เสียเปรียบซิค่ะ แต่งงานกันมามีลูกมีเต้าโดยมากผู้หญิงก็อยากอยู่บ้านเลี้ยงลูกเองไม่ได้มีรายได้อะไร....หย่ากันมาไม่มีอะไรซักอย่าง ไม่มีค่าเลี้ยงดู ไม่สมบัติ เวลาศาลตัดสินมาเราไม่อะไรซักอย่างแล้วเราจะเลี้ยงลูกได้อย่างไง ศาลก็คงยกลูกให้ฝ่ายชายไป แล้วคนเราเวลาผ่านไป คนเราก็ย่อมแก่ลง การมานั่งนับหนึ่งใหม่ ครั้งแล้วครั้งเล่าเป็นอะไรที่เหนื่อย....อยู่ด้วยกันช่วยกันอยู่กันประหยัดพอเก็บเงินซื้อบ้านได้เป็นชื่อฝ่ายชายคนเดียว เสียเปรียบเต็ม เต็ม หย่ากันมาไม่เหลืออะไรซักอย่างลูกก็ไม่ได้ เงินก็ไม่มี บ้านก็ไม่มี เขาเอาไปหมด หรือนอกซักจากแต่ง แต่งไปเถอะแล้วมาหางานทำเก็บ กำเงินแน่น แน่น เป๋าใคร เป๋ามันอันนี้ไปอีกอย่าง อย่างงี้แต่งเลย.....แต่อย่างประมาท..คนเราต้องมีเงินในบัญชี.....จริง จริง ผัวเมียกันก็น่าจะบัญชีเดียวกันมีชื่อทั้งสองคน....พูดตามความรู้สึกตัวเองค่ะ ไม่ต้องคิดมากนะค่ะ เชื่อตัวเองดีที่สุด จะดีจะเสียก็ตัวเราเอง

บัวขาว

ต่ออีกหน่อยดีกว่า....กฎหมายเขาเขียนมาดีเอาไว้ช่วยเราผู้หญิงและเด็กเราควรได้สิทธิ์ตรงนั้นค่ะ.....

เพ็ญ

เพ็ญคิดเหมือนคุณบัวขาวเพราะเคยมีชีวิตการแต่งงานที่ล้มเหลว...กับฝรั่งผมทองนี่หล่ะ.. นอนเตียงร่วมกันมาเกือบสิบปียังพาคนอื่นมาใช้เตียงของเราเลย ตอนนั้นสิ้นคิดไปหน่อยหนีมาแต่ตัวต้องมาเริ่มต้นใหม่ ถึงได้คิดหนัก พอคนนี้มาอีกแบบ ทั้งๆที่เขาก็รู้ว่าเราไม่เอาอะไรจากแฟนเก่าทั้งที่มีสิทธิ์ แต่เขากลับกลัวเราอะไรกันเนี๊ย... ที่คุณ tak พูดก็อาจใช่เพราะเขาเคยมีแฟนไทยไม่ได้แต่งอยู่หลายปีหนีเขาไปอยู่กับคนใหม่เขาอาจจะกลัวเราหนีเขาไปอีกคนก็เป็นได้...เพ็ญยอมรับทุกความคิดเห็นคะเพราะคิดไม่ตก อยู่ตรงกลางระหว่างความรักใหม่ที่ทําให้โลกนี้น่าอยู่กว่าเก่าแหละเงินที่ทุกคนอยากมี....

ตุ้ม

ขอออกความเห็นเพิ่มเติมหน่อยนะคะ  การเซ็นแยกสมบัตินั้นหมายถึงสมบัติเดิมที่ทั้งสองฝ่ายมีมาแต่ดั้งเดิมรวมทั้งหนี้สิ้นและรายได้หรือผลประโยชน์ที่จะได้มาจากสินเดิมดัวยค่ะ  หลังจากแต่งงานแล้วเงินเดือนหรือรายได้ที่ได้มาทุกอย่างไม่นับที่ได้มาจากสินเดิมเป็นของส่วนกลางค่ะ  แม้กระทั่งเงินสะสมที่หักจากเงินเดือนนับจากวันที่แต่งงานจนถึงวันที่หย่าหรือตายไปก่อนเกษียรก็ต้องแบ่งกันค่ะ  เงินที่ได้จากประกันสังคมในตอนเกษียรแล้วก็ใช้คำนวนจากอายุของชีวิตสมรสเช่นกันค่ะ  

มาเป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้

เห็นด้วยกับคุณตุ้มค่ะ
 
 และยิ่งเจ้าของกระทู้บอกว่าตอนนี้เขาไม่มีอะไร ก็ไม่เห็นต้องห่วงนี่ค่ะ
 เก็บความแค้นนี้ไว้ในใจเป็นความมานะ ทำงานเก็บเงินเป็นของตัวเองดีกว่าค่ะ (ถ้าเจ้าของกระทู้ตัดสินใจเลิกไม่ได้ก็แต่งไป แล้วก็รีบเป็นตัวของตัวเองดีกว่ามั๊ยค่ะ)
 
 แต่ถ้ามีตัวเลือก อยากมีพ่อบ้านที่ดี อยู่บ้านเป็นแม่บ้านที่ดี คุยกับเขาหน่อยดีหรือเปล่าค่ะว่าคุณคิดอย่างไร และศึกษากฏหมายเพิ่มเติมว่าเขาเอาเปรียบคุณจริงหรือเปล่า
 
 เห็นด้วยกับคุณบัวขาวด้วยค่ะ
 
 กับคุณตั๊กก็เห็นด้วยค่ะ แต่ก็เหมือนซื้อหวย ที่คุณตั๊กโชคดี

Tak




สวัสดีค่ะ คุณเพ็ญ คุณบัวขาว คุณตุ้มคุณที่มาให้กำลังใจ จขกท ค่ะ เราอาจถูกหวยก็ว่าได้ค่ะ สามีและเราต่างก็ทำงานทั้งคู่ เงินทั้งหมดเราเก็บ เขาไม่เคยมาถามว่ามีเงินเท่าไร เหลือเท่าไรค่ะ เพราะเราบริหารการใช้จ่ายทั้งหมดเพียงผู้เดียวไม่เคยมีปัญหาเรื่องเงินกันเลยเราระวัง (ขี้เหนียวค่ะ) ถ้ามีเขาต้องไม่ไว้ใจเราแน่ๆ  
 
 เราไม่เคยเห็น*เจ้าสัญญาที่ว่า เพียงแต่เพื่อนเล่าให้ฟังค่ะ  หากไม่น่าเกลียดจนเกินไป คุณเพ็ญ น่าจะเอาเอกสารนี้ไปแปล ดู แล้วมาแจ้งเพื่อเป็นวิทยาทานแก่พวกเราต่อๆไปค่ะ เราก็ว่า คุณตุ้ม พูดถูกน่ะค่ะ ตรงที่ว่า หนี้ และ ทรัพย์สินที่งอกเงยขึ้นใหม่ คุณน่าจะมีส่วนได้เสียน่ะค่ะ  ทั้งนี้ทั้งนั้น เราก็ไม่รู้กฏหมายเขา ควรจะศึกษาค่ะ  
 
 หากเป็นว่าเราไม่มีสิทธิ์ใดๆ แต่หนี้ต้องร่วมรับผิดชอบ อันนี้แย่ค่ะ  ยิ่งเงินหลังสมรสเราร่วมหามาด้วยกัน เราก็ไม่มีสิทธิ์ ก็ไม่ต้องทนแล้วค่ะ ต่อให้รัก ก็ไม่ไหวค่ะ เราเองยังไม่แน่ใจตัว แล้วไงจะไปเชื่อใจผู้ชาย มันเปลี่ยนกันได้ ใครจะรู้เหตุการณ์ข้างหน้า  
 
 ขอเป็นกำลังใจให้คุณเพ็ญค่ะ หารายละเอียด ข้อมูลเพิ่มขึ้นค่ะ โชคดีค่ะ

เพ็ญ

หลังการแต่งงานทรัพย์สินของเราทัง้สองเป็น.. การแบ่งแยกทรัพย์สิน.. ตามกฎหมายแพ่งประเทศสวิสขอ้ที่ 247 กําหนดบังคับไว้ว่า คู่สมรสทั้งสองต่างมีสิทธิ์ในทรัพย์สินและรับผิดชอบหนี้สินของตนเองที่เกิดขึ้น. นี้คือเอกสารที่แปลเป็นไทยแล้ว และที่เพ็ญฟังเขาอธิบาย ในกรณีที่เลิกกัน เราไม่มีสิทธิ์ในเงินของเขานอกจากเงินประกันสังคมในตอนเกษียรและคํานวนจากอายุการสมรสอย่างที่คุณตุ้มว่าไว้ และถ้าเราซื้อของมีค่าให้เก็บใบเสร็จไว้  ข้อมูลที่ทราบมีแค่นี้ ถ้าใครทราบกฎหมายข้อนี้ช่วยอธิบายหน่อยคะ..ขอบคุณทุกคนที่เป็นกําลัง ถ้าแต่ง..จะรีบหางานทําโชคต้องเข้าข้างเราซักวัน เขาป้องกันตัวเขาเราก็ต้องป้องกันตัวเราเองจริงไหมคะ....