News:

ยินดีต้อนรับ สู่ Pall Swiss เว็บบอร์ดตัวใหม่

Main Menu

**ส่งข่าว**

Started by pall, June 23, 2004, 07:23:45 AM

Previous topic - Next topic

แม่บ้านหัวฟู

มาเยี่ยมลุง กะ ป้าจ๋า
 รักษาสุขภาพนะคะ
 

maratee

ขออำนาจ คุณพระศรีรัตนตรัย  จงดลบันดาล ให้คุณลุงเเละ ป้าพอล แข็งแรง มีสุขภาพ ดีขึ้นทุกวัน ทุกวัน ทุกวัน น่ะคะ  
 
 มาราตี
 

pall

**ผลการตรวจ***
 
 ขอขอบใจทุกๆคนที่เข้ามาให้กำลังใจป้า
 วันนี้ไปตรวจร่างกายนานมากแต่ยังตรวจไม่หมด
 วันศุกร์หน้าจะไปตรวจร่างกายต่อ
 วันนี้เอาเอาเลือดออกไป4ขวดเล็ก
 การดูดเลือดออกใช้การดึงดูดแบบสูญญากาศไวมาก
 ตรวจเอ็กซ์เรย์ตรงช่วงหน้าอก
 ตรวจดูอาการคร่าวๆเกี่ยวกับการทำงาน
 ของปอดด้วยเครื่องมือเล็กๆ
 ตรวจการเต้นทำงานของหัวใจด้วยเครื่อง
 ต้องรอการรายงานผลจากห้องแลป...
 
 ผลจากการดูเลือดคร่าวๆ
 หมอบอกว่าเป็นโรคโลหิตจางอีกแล้ว
 คราวนี้รู้สึกว่าหนักไปกว่าเดิมมาก
 หมอบอกวันศุกร์จะตรวจเลือดอีกครั้ง
 และต้องรอผลการตรวจตับด้วย
 
 ธรรมดาป้าไม่ฟุบถึงขนาดนี้
 ถึงว่าคราวนี้ทำไมเป็นหนักมากขนาดเดินรอบบ้านแทบจะคลานเลย
 ผมก็ร่วงจนเกือบหมดหัว
 โรคโลหิตจางของป้าเป็นแบบเรื้อรังเพราะเกี่ยวกับ
 โรคตับที่เป็นนั่นเอง
 โรคตับถ้าใครไม่เคยเป็นไม่รู้อาการของมันเท่าไร
 โรคพวกนี้เหมือนโรคสำออย
 
 โทรศัพย์ไปบอกลุงถึงผลการตรวจคร่าวๆ
 
 1.โรคหัวใจ
 จากการตรวจคร่าวๆต้องรอตรวจอีกครั้งวันศุกร์หน้า...
 หมอบอกว่าการทำงานของหัวใจปรกติ
 
 2. จากการเป่าด้วยเครื่อง
 ปอดทำงานปรกติ
 
 3.จากการตรวจดูเลือด
 พบว่าเลือดแดงต่ำมาก...
 
 4.ตับทำงานผิดปรกติ
 
 ลุงดีใจมากที่ป้าไม่เป็นโรคหัวใจ
 ตอนนี้ต้องรอผลการตรวจเลือดอย่างละเอียด
 ป้าดีใจที่รู้แล้วว่าอาการทั้งหมดเกิดจากอะไร
 แต่อาการของโรคโลหิตจางนี่ทุกคนที่เป็นต้องระวังให้ดีนะ
 ถ้าเป็นแบบรุนแรงน่ากลัวมากเลยนะ
 
 ป้าลืมนึกถึงโรคนี้ไป..นึกแต่โรคอื่น
 ธรรมดาแล้วป้าจะตรวจร่างกายทุกปี
 ตั้งแต่วุ่นๆเกี่ยวกับปัญหาต่างๆ
 ป้าลืมตรวจร่างกายไป2ปี
 ช่วงนี้เลยฟุบ...อาการที่ได้รับรุนแรงพอควร
 
 
 

pall

 
 
 **อาการที่ชี้แนะว่าโลหิตจาง **
 
 ผู้ที่โลหิตจางไม่มากหรือไม่มีโรคหลอดเลือดร่วมด้วยอาจไม่มีอาการก็ได้  
 อาการจะมีหรือไม่ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของโลหิตจาง และความเฉียบพลันของการเกิดโรค
 
 1. อาการเหนื่อยง่าย เหนื่อยง่ายหมายถึงรู้สึกเหนื่อยผิดปกติเวลาที่ต้องออกแรง เช่น เคยเดินบันไดได้โดยไม่เหนื่อยแต่กลับเหนื่อย  
 ถ้ามีโลหิตจางรุนแรง แค่เดินในบ้านก็อาจเหนื่อยแล้ว เวลาเหนื่อยอาจมีอาการใจสั่นร่วมด้วย ที่รุนแรงอาการมีอาการของโรคหัวใจวาย คือ เหนื่อย แน่นหน้าอก หอบ เป็นต้น  
 2. อาการอ่อนเพลีย เวียนศีรษะ  
 3. อาการเป็นลม หน้ามืด วิงเวียน  
 4. อาการทางสมอง เช่น รู้สึกสมองล้า หลงลืมง่าย ขาดสมาธิในการทำงาน เรียนหนังสือไม่ดีเท่าที่ควร นอนไม่หลับ  
 5. อาการหัวใจขาดเลือด มักพบในคนที่มีโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ โลหิตจาง ทำให้อาการของหัวใจรุนแรงขึ้น เจ็บหน้าอกง่ายขึ้น  
 6. อาการขาขาดเลือด พบในคนที่มีโรคหลอดเลือดของขาทำให้ปวดขา เวลาเดินได้ไม่ไกล ต้องหยุดพักบ่อยๆ เวลาเดิน  
 7. อาการทางระบบทางเดินอาหาร เช่น เบื่ออาหาร ท้องอืด
 
 **ประวัติที่ชี้แนะสาเหตุของโลหิตจาง **
 
 1. ระยะการเกิดอาการ หมายถึงว่าเกิดอาการโดยรวดเร็วเฉียบพลัน หรือเกิดอาการแบบค่อยเป็นค่อยไปช้าๆ  
 จากอาการต่างๆ 1 ถึง 7 ข้อที่ชี้แนะว่ามีโลหิตจางที่กล่าวมาข้างต้นหากพบว่า อาการพวกนั้นเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วหรือกะทันหันก็พอบอกได้ว่า เกิดจากสาเหตุของโลหิตจางชนิดเฉียบพลัน  
 
 แต่ถ้าระยะการเกิดอาการเป็นแบบช้าๆ เนิ่นนานไม่ใช่ปุ๊บปั๊บ ค่อยๆ เป็นจากน้อยๆ ก่อนแล้วมากขึ้นเรื่อยๆ แสดงว่า สาเหตุของโลหิตจางเป็นชนิดเรื้อรัง
 
 
 2. ประวัติการเสียเลือด หมายถึงมีการสูญเสียเลือดออกจากร่างกายทางใดทางหนึ่ง เมื่อเสียมากก็จะเกิดภาวะโลหิตจางตามมา เช่น  
 อาเจียนเป็นเลือด  
 ถ่ายอุจจาระออกมาเป็นสีดำ  
 ปวดท้องบริเวณลิ้นปี่  
 อาการทั้ง 3 ข้างต้นอาจหมายถึงเป็นโรคแผลในกระเพาะอาหาร แล้วมีเลือดออกจากแผลจนเกิดการสูญเสียเลือดและภาวะโลหิตจางตา
 
 3. ประวัติอาการร่วมอื่นๆ ที่สำคัญได้แก่  
 มีจุดหรือจ้ำเลือดตามตัวบ่อยๆ อาการนี้อาจหมายถึงภาวะเกร็ดเลือดต่ำ ที่นำไปสู่การสูญเสียเลือด และเกิดโลหิตจางตามมา  
 เป็นไข้หรือโรคติดเชื้อบ่อยๆ อาจแสดงถึงปัญหาเม็ดเลือดขาวต่ำ เมื่อป่วยบ่อยๆ ก็นำไปสู่ภาวะโลหิตจางได้  
 
 ***เป็นโรคระบบอื่นอยู่ เช่น โรคไต โรคตับ โรคข้ออักเสบ โรคมะเร็ง ฯลฯ โรคเรื้อรังเหล่านี้ล้วนทำให้เกิดโลหิตจาง**
 
 **อาการแสดง **
 
 อาการแสดง หมายถึง ลักษณะที่พบเห็นหรือตรวจพบในตัวผู้ป่วย ที่มีเลือดจาง มี 2 ชนิดคือ ชนิดที่บอกว่า มีภาวะโลหิตจางและที่บอกว่า มีสาเหตุอะไรที่ทำให้เลือดจาง  
 
 1. อาการแสดงที่บอกว่ามีภาวะโลหิตจาง  
 
 อาการแสดงที่พบบ่อยได้แก่ ลักษณะซีด  
 - ดูได้จากสีของผิวหนังบริเวณฝ่ามือ ใต้เล็บ  
 - หรือดูจากสีของเยื่อบุด้านในของเปลือกตาล่าง (พลิกเปลือกตาดู)  
 
 2. อาการแสดงที่ช่วยชี้แนะถึงสาเหตุของโลหิตจาง  
 
 มีตัวเหลืองตาเหลือง (ดีซ่าน) อย่างอ่อน แสดงถึงภาวะโลหิตจาง จากการแตกสลายของเม็ดเลือดแดง  
 มีจุดและจ้ำเลือดตามตัวชี้แนะถึงการมีเกร็ดเลือดต่ำ เป็นโรคไขกระดูกฝ่อ มะเร็งเม็ดโลหิตขาว หรือโรคที่เกิดการทำลายทั้งเม็ดเลือดแดงและเกร็ดเลือด  
 ลิ้นเลี่ยน อาจแสดงถึงโลหิตจางจากการขาดธาตุเหล็ก ผิวลิ้นจะเลี่ยนและซีด  
 เล็บอ่อนยุบเป็นแอ่ง พบในโลหิตจางจากขาดธาตุเหล็ก  
 ความดันโลหิตสูง อาจหมายถึงโลหิตจางจากไตวายเรื้อรัง  
 ความดันโลหิตต่ำ อาจหมายถึงภาวะช็อกจากการสูญเสียโลหิตอย่างรวดเร็ว เช่น เลือดออกจากแผลในกระเพาะอาหารหรือจากภาวะหัวใจวาย  
 ตับและม้ามโต พบได้ในโลหิตจางจากโรคเลือดธาลัสซีเมีย โรคมะเร็งเม็ดเลือดขาว  
 ต่อมน้ำเหลืองโต อาจหมายถึงมะเร็งต่อมน้ำเหลือง ซึ่งมักจะมีตับโตและม้ามโตด้วย  
 อาการบวม ผิวแห้ง มักพบในโรคไต  
 อาการขึ้นผื่นที่ใบหน้า และผมร่วง พบในโรคเอสแอลอี (SLE)  
 ท้องมาน พบในโรคตัวแข็ง  
 ข้อบวม พิการ พบในโรคข้อเรื้อรัง เช่น โรครูมาตอยด์อาไทรติส โรคเอสแอลอี เป็นต้น  
 โลหิตจางที่พบบ่อยในบ้านเราเกิดจากการขาดธาตุเหล็ก จากโรคเลือดธาลัสซีเมีย และเกิดจากโรคในระบบอื่น
 
 ***ระยะการเริ่มเกิดของโรค **
 
 
 อาจแบ่งโลหิตจางได้เป็น 2 กลุ่มใหญ่ๆ คือ  
 
 ก. โลหิตจางเฉียบพลัน  
 
 หมายถึงมีอาการของโลหิตจางเกิดขึ้นใน 7-10 วัน ซึ่งเกิดจาก  
 1. เสียเลือดเฉียบพลัน เช่น เลือดออกจากแผลในกระเพาะอาหาร จากประจำเดือนออกมาก  
 2. เม็ดเลือดแดงถูกทำลายเฉียบพลัน จะมีอาการร่วมคือดีซ่าน ปัสสาวะสีเข้ม อาจมีไข้ ม้ามอาจโต ถ้ามีประวัติเข้าป่า อาจเป็นมาลาเรีย  
 3. อาจเกิดจากมะเร็งเม็ดโลหิตขาวเฉียบพลัน ซึ่งจะมีไข้ เกร็ดเลือดต่ำ ตับม้ามโต  
 
 
 ข. โลหิตจางเรื้อรัง  
 
 เกิดอาการโลหิตจางนานกว่า 10 วัน อาจเป็นเดือนๆ ก็ได้  
 การตรวจสอบลักษณะทางคลินิกจากประวัติ อาการและอาการแสดงจะช่วยชี้แนะ ถึงสาเหตุของโลหิตจางได้
 ประวัติการเสียเลือดเรื้อรัง เกิดภาวะของธาตุเหล็ก ที่พบบ่อยได้แก่โรคกระเพาะอาหาร โรคประจำเดือนมาก ริดสีดวงทวารหนัก หรือมีพยาธิปากขอที่ดูดเลือดจากลำไส้  
 ลักษณะของธาลัสซีเมียจากหน้าตาและผิวพรรณ  
 ลักษณะทางคลินิกของโรคตับ โรคไต โรคเอสแอลอี ฯลฯ  
 ลักษณะทางคลินิกของการขาดสารอาหาร เช่น เลือกกินเฉพาะอาหารบางชนิด กินอาหารน้อย ติดสุรา ฯลฯ  
 
 **การรักษาโลหิตจาง **
 
 หลักการสำคัญในการรักษาโลหิตจางคือ รักษาที่สาเหตุของโลหิตจาง
 แนวทางการรักษาประกอบด้วย  
 
 1. การรักษาทั่วไป เป็นการบำบัดอาการของโลหิตจาง ระหว่างที่ทำการรักษาโรคสาเหตุของโลหิตจาง เช่น  
 - รักษาภาวะหัวใจวาย  
 - ลดการออกแรง  
 - ให้ออกซิเย่น  
 - ให้เลือดทดแทน มักให้ในกรณีที่ผู้ป่วยมีปัญหาหลอดเลือด ผู้ป่วยอายุมากหรือเสียเลือดมากเฉียบพลันผู้ป่วยเลือดจางเรื้อรังมักไม่จำเป็นต้องให้เลือด แม้ว่าความเข้มข้นของเลือดจะต่ำมากๆ ก็ตาม
 
 2. การรักษาจำเพาะ เป็นการรักษาไปที่สาเหตุ กำจัดสาเหตุ (ถ้าทำได้) และให้การรักษาโรคสาเหตุนั้นๆ เช่น ถ้าพบว่าเลือดจางเพราะพยาธิปากขอ ก็ให้ยากำจัดพยาธิและให้ยาที่มีธาตุเหล็กควบคู่กันไป  
 เมื่อระดับความเข้มข้นของเลือดกลับสู่ระดับปกติแล้ว ควรให้ยาเสริมธาตุเหล็กต่อไปอีก 3 เดือนจึงจะเพียงพอ
 
  แนวทางการปฏิบัติตน  
 
 ส่วนนี้ก็มีความสำคัญสำหรับผู้ที่เป็นโลหิตจางนอกเหนือจากที่ต้องรักษา ด้วยยาตามที่แพทย์สั่ง  
 อาหาร การออกกำลังกาย การประกอบอาชีพ การพักผ่อนควรปฏิบัติให้ถูกหลัก หากสงสัยให้สอบถามจากแพทย์  
 ในโลหิตจางที่เป็นโรคทางพันธุกรรมยังมีอีกสิ่งที่สำคัญมากคือ "การให้คำปรึกษา"  
 ผู้ป่วยอาจไม่เข้าใจ  
 พ่อแม่อาจไม่เข้าใจ  
 แฟน สามีหรือภรรยาอาจไม่เข้าใจ  
 อาจกล่าวโทษต่อกันว่าพันธุ์ไม่ดี  
 
 ปัญหาเหล่านี้จะบรรเทาลงได้จากการได้รับคำปรึกษาจากผู้รูและต้องได้รับความร่วมมือจากครอบครัว
 
 **คัดมาจากข้อความเกี่ยวกับโรคโลหิตจาง**
 ของhttp://www.thaifitway.com/
 
 
 
 
 
 
 

miko

โถ....น่าสงสารป้าจ๋าจังเลย ยังไงก็ขอให้หายดีในเร็ววันนะคะ และขออย่าให้เป็นอะไรเพิ่มเข้ามาอีกเลย เท่านี้หนูก็ว่าเยอะมากจนคนๆหนึ่งเกินจะรับใหว เอาใจช่วยป้าอยู่นะคะ อย่าเป็นอะไรมากกว่านี้เลย รักษาสุขภาพด้วยคะ

blacktea

ป้าจ๋า....อายุมากขึ้นก็ต้องระวังสุขภาพให้มากๆ นะคะป้า
 ป้าจะเฮ้วเหมือนพวกเราไม่ได้แล้วนะจ๊ะ...
 พักผ่อนมากๆ อย่าพยายามเอาเรื่องกังวลใจมาใส่ในหัว
 นอนหลับให้เยอะๆ กินให้อิ่มๆ เข้าไว้นะคะป้า
 เดี๋ยวโรคต่างๆ มันก็กลัว หายหน้าเองแหละป้า
 
 ขอให้ป้าหายไวๆ โรคภัยอย่ามาแพ้วพาน จ๊ะ
 

เกตุ

ป้าจ๋าหายเร็วๆนะจ้ะ ชรา (หรือเปล่า) แต่ยังมีไฟอยู่จ้ะ สู้ สู้

นี่นะ

ป้าจ๋า  
 
 นี่นะก็มีประวัติการเป็นโลหิตจางมาตั้งแต่เด็กแล้วค่ะ ตอนนั้นจำได้ว่า หมอสั่งให้กินอาหารที่เสริมธาตุเหล็กลงไปเยอะๆ เพราะนี่นะซีดมากๆ แล้วก็ไม่ค่อยมีแรง  
 
 ยาที่ได้มาทานเป็นยาบำรุงเลือด ซึ่งส่งผลให้นี่นะมีขนแขนยาวมากกว่าคนอื่นเขา  
 
 ป้าจ๋าลองหาผัก หาวิตามินที่เสริมธาตุเหล็กนะคะ นี่นะเข้าใจเลยว่าอาการของป้าจ๋าเป็นอย่างไร คงเบิ้ลจากนี่นะเป็นหลายเท่า  
 
 ป้าจ๋าพักผ่อนให้มากนะคะ นอนให้เยอะๆ อย่าปล่อยให้ร่างกายเพลียง่ายๆ  
 
 ขอให้อาการของป้าจ๋าดีขึ้นตามลำดับนะคะ

นิด ( แม่ลูกหมูสามตัว )

ป้าพักผ่อนน้อยไป และยังไม่ค่อยใส่ใจดูแลตัวเอง มัวแต่ดูแลน้องๆและลุง แล้วอีกอย่างป้าเป็นมังสาวิรัติ แล้วยังไม่สนใจเสริมธาตุอาหารที่ขาดไป ดูแลตัวเองเยอะๆได้แล้วนะป้า อย่าดื้อนักเลย ขอให้สุขภาพดีขึ้นเรื่อยๆนะค่ะ

กุหลาบดำ

ขอให้ป้าหายไวๆ พักผ่อนมากๆน่ะ

fan


pall

สวัสดีจ๊ะ นี่นะ
 สวัสดีจ๊ะ บี
 สวัสดีจ๊ะ  ส้มตำ
 สวัสดีจ๊ะนิด
 สวัสดีจ๊ะซาลามี
 สวัสดีจ๊ะชล
 สวัสดีจ๊ะบัวขาว
 สวัสดีจ๊ะมิโกะ
 สวัสดีจ๊ะธีระ
 สวัสดีจ๊ะบัวขาว
 สวัสดีจ๊ะดึ๊ยย์ (หายไปไหนมาจ๊ะคิดถึง)
 สวัสดีจ๊ะมาราตี
 สวัสดีจ๊ะหัวฟู(คิดถึงมาก)
 สวัสดีจ๊ะfan(ใครเอ่ย)
 
 ขอบใจทุกๆคนมากที่เข้ามาให้กำลังใจจ๊ะ
 อย่างที่นิดพูดมาถูกเลยป้าไม่คอ่ยดูแลตัวเอง
 ช่วงนี้ยอมรับว่าเป็นมากอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
 และขอขอบใจที่นี่นะแนะนำมาจ๊ะ
 คิดว่าอาการคงจะดีขึ้นในไม่ช้านี้
 ขอขอบใจในความห่วงใยที่ทุกคนที่มีต่อป้าจ๊ะ
 รัก
 pall

pall

สวัสดีจ๊ะเกตุ
 ป้ากำลังจะดีขึ้นจ้าขอบใจมากนะ
 
 สวัสดีจ๊ะกุหลาบดำ(ใครเอ่ย)
 ขอบใจมากจ้า

มอก




มาเป็นกำลังใจให้ป้าพอลกับลุงหายดี...ความแก่เฒ่าคนเราอาจจะหนีไม่พ้นแต่โรคภัยบางชนิดก็พอจะเยียวยาให้ทุเลาหรือหายได้....รักษาสุขภาพนะคะ.......
    ///จากสมาชิกบ้านยุโรปที่บ้านแปลน

มอก

ดอกไม้ไม่ยอมตามมาด้วย....อีกครั้งนะคะ