ต่ออายุพาสปอร์ต

[ปุ๊ย]

รบกวนป้าพอล และเพื่อนๆๆ ทุกคนนะคะ เข้าเรื่องเลยแล้วกัน ปีนี้จะกลับไปเที่ยวเมืองไทย ใกล้พาสปอร์ตหมดอายุ เลยคิดว่าจะกลับไปต่อที่เมืองไทย
 ปัญหาคือว่า ตอนนี้ได้แก้ไขนามสกุลเป็นของสามีเรียบร้อยแล้ว โดยส่งมาแก้ที่สถานทูตไทยที่เมืองเบิร์น
 ขอถามเลยนะคะ  
 
 1. จะต้องใช้เอกสารไรในการต่อพาสปอร์ตที่เมืองไทย ต้องแก้ไขบัตรประชาชน ทะเบียนบ้านให้นามสกุลตรงกับพาสปอร์ตที่แก้ไขแล้วหรือป่าว ถึงจะสามารถต่ออายุพาสปอร์ตได้
 
 2. ถ้าต้องแก้ไขบัตรประชาชนทะเบียนบ้าน ต้องทำอย่างไร ต้องเอาเอกสารใบสมรสไปแปลไหม แล้วแปลที่ไหน แล้วทำอย่างไรต่อ ต้องไปติดต่อกงศุลที่ กรุงเทพ แล้วค่อยเอาไปยื่นที่อำเภอที่เรามีถิ่นที่อยู่ใช่ไหม??
 3. ขอขั้นตอนอย่างละเอียด จะได้เป็นแนวทางให้เพื่อนๆๆ ต่อไปค่ะ  
 

**กระทู้นี้เป็นกระทู้เดิมหมายเลข 0590 ห้อง pallswiss (เผื่อใช้ในการค้นหา)**

[ปุ๊ย]

4. เราต้องไปติดต่อสถานทูตสวิสไหมค่ะ เพื่อรับรองเอกสารสมรส เพราะเคยอ่านเจอว่า ถ้าเอกสารสมรสไม่ใช่ภาษาอังกฤษ ต้องเอาไปแปลแล้วให้สถานทูตนั้นๆ รับรองเอกสารค่ะ

[pall]

สวัสดีจ๊ะปุ๊ย
 ถ้าต้องการความสะดวกสบาย
 ไม่ต้องการความยุ่งยากเกี่ยวกับการทำหนังสือเดินทางใหม่
 ป้าคิดว่าทำที่สวิตฯดีที่สุดสะดวก..ง่ายดาย...ไม่มีขั้นตอนยุ่งยาก
 มีคนไทยจำนวนมากที่แต่งงานที่นี่
 และทำหนังสือเดินทางใหม่ที่นี่กันแทบทั้งนั้น
 
 คนไทยที่แต่งงานที่นี่เท่าที่เห็น...
 ไม่ได้ไปแจ้งการแต่งงานเข้าทะเบียนบ้านที่เมืองไทย
 ชื่อและนามสกุลที่ทะเบีนนบ้าน
 ในเมืองไทยยังเหมือนเดิมทุกอย่าง.
 ก็ไม่มีปัญหาอะไร....เขาก็ยังมีสิทธิทุกอย่าง.....ในเมืองไทย...
 และก็อาศัยอยู่ที่สวิตฯได้ไม่มีปัญหา...
 และพอถึงเวลาที่กม.สวิตฯกำหนดไว้...ก็สามารถขอ
 เป็นคนสวิสและมีสิทธิถือหนังสือ
 เดินทางของสวิสได้.....มีสิทธิทัดเทียมคนสวิสทุกอย่าง.
 และมีสิทธิในเมืองไทยด้วย
 
 
 **ความยุ่งยาก....เกี่ยวกับการยื่นแจ้งเข้าทะเบียนบ้านที่เมืองไทย**
 
 ถ้าปุ๊ยไปแจ้งเรื่องการจดทะเบียนสมรส
 ที่จดที่สวิตฯเข้าทะเบียนบ้านในเมืองไทย
 จะวุ่นวายพอสมควรเกี่ยวกับเอกสาร
 ต้องเปลี่ยนนามสกุลใหม่...มีสถานะภาพใหม่...
 แบบนี้...จะต้องเปลี่ยนบัตรประชาชนใหม่ด้วย
 ไม่เช่นนั้นจะมีปัญหา...การทำบัตรประชาชนใหม่
 สามารถทำได้ภายใน1วัน..ถ้าเอกสารพร้อม
 
 ถ้าต้องการทำหนังสือเดินทางเล่มใหม่ในเมืองไทย
 และต้องการยื่นเรื่องการจดทะเบียน
 ที่จดในสวิตฯ.....ปุ๊ยต้องนำ
 เอกสารการสมรสไปยื่นที่สถานฑูตไทย
 ให้ทางสถานฑูตไทยแปลเป็นภาษาไทย
 ประทับตรา(ราคาค่าแปล...จ่ายในราคาสูงพอสมควร)
 พอได้เอกสารมาเรียบร้อยก็นำไปยื่นเข้าทะเบียนบ้าน
 ที่เมืองไทย
 และหลังจากนั้นปุ๊ยก็ต้องทำบัตรประชาชนใหม่.
 หลังจากนั้นก็เสร็จเรียบร้อย
 
 พอได้บัตรประชาชนใหม่มาแล้วปุ๊ยก็ไปยื่นขอทำ
 หนังสือเดินทางเล่มใหม่.
 อัตตราค่าธรรมเนียมก็ประมาณ1000ถึง1500บาทแล้วแต่หน้า
 ที่ทำ....
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 

[pall]

**การยื่นเรื่องขอทำ..หรือต่ออายุหนังสือเดินทางไทย**
 
 ในสวิตเซอร์แลนด์มีขั้นตอนดังนี้
 
 1.ขอแบบคำร้องยื่นเรื่อง 2 ชุด
 -  กรอกข้อความลงในคำร้องให้สมบูรณ์ทั้งด้านหน้าด้านหลัง
 -  นส่วนที่เขียนว่าบุคคลอ้างอิงให้ใส่ชื่อบุคคลที่อยู่ทางเมืองไทย
 
 2.ค่าธรรมเนียมเงินสดจำนวน 100สวิสฟรังก์
 
 
 3.ซองและแสตมป์จ่าหน้าซองถึงตัวเอง 5.- สวิสฟรังก์
 
 4.รูปถ่าย 3 ใบ (ถ่ายจากร้านถ่ายรูป)
 
 5.หนังสือเดินทางไทย(ถ้าเป็นหนังสือเดินทางเล่มเก่าเล่มใหญ่
 กรุณาส่งค่าซูมรูป5สวิสฟรังก์มาด้วย(กรณีต่ออายุ)
 
 6.สำเนาบัตรประชาชนและสำเนาทะเบียนบ้าน
 
 เมื่อเตรียมเอกสารพร้อมแล้วก็ติดต่อสถานฑูตไทยที่Bern
 
 
 **เอกสารอ้างอิง...จากสถานฑูตไทย**

[pall]

ถ้าปุ๊ยไม่ได้ยื่นเรื่องการจดทะเบียนสมรส
 แจ้งเข้าทะเบียนบ้านทางเมืองไทย
 ยังเหมือนเดิมทุกอย่าง.ชื่อและนามสกุลเก่า
 ก่อนแต่งงาน
 ป้าคิดว่าน่าจะทำหนังสือเดินทางเล่มใหม่
 โดยใช้ชื่อเดิมที่เคยทำมาก่อนในฉบับที่จะหมดอายุ
 
 
 รอให้คนอื่นที่รู้ดีกว่ามาช่วยตอบด้วย
 จะได้ข้อมูลมากกว่านี้....

[ปุ๊ย]

อ่านแบบนี้แล้ว ต่อที่สวิสดีกว่า ไม่ยุ่งยากแก้เอกสารที่เมืองไทยด้วย  
 แล้วแบบคำร้องไปขอได้ที่ไหนค่ะ แล้วต่อนานไหมค่ะ กว่าจะได้กลับมา

[ปุ๊ย]

หลังจากได้อ่านเรื่องที่ป้าเขียนแล้ว ก้อรีบโทรไปถามสถานทูตไทยค่ะ ต้องเดินทางไปทำเรื่องเองที่สถานทูตไทยค่ะ รอประมาณ 1 อาทิตย์ได้รับการต่อพาสปอร์ตค่ะ กะว่าก่อนเดินทางจะไปทำเรื่องค่ะป้า แล้วจะแวะไปหานะคะ คิดถึงป้าพอล

[ตุ้ม]

ปุ๊ยต่ออายุพาสปอร์ตหรือขอเล่มใหม่(ต่างกัน)  ถ้าต่ออายุพาสปอร์ตทางสถาณฑูตส่งเอกสารมาให้กรอกแล้วส่งกลับไปทางไปรษณีย์ประมาณ 1 อาทิตย์ก็ได้  แต่ถ้าพาสปอร์ตเล่มเก่าต่ออายุไม่ได้แล้วต้องไปดัวยตัวเองและประมาณ 1 เดือนจึงจะได้(เค้าบอกอาทิตย์เดียวแต่รอหนึ่งเดือน)  และถ้าบัตรประชาชนหรือสัมโนครัวยังเป็นนามสกุลเดิมอยู่พาสปอร์ตใหม่จะเป็นนามสกุลเดิมอีกแม้ว่าพาสปอร์ตเก่าจะเปลี่ยนนามสกุลไปแล้ว  ก็ต้องไปยื่นเรื่องอีกขอเปลี่ยนใหม่อีกในเล่มใหม่(ทำมาแล้ว)  จะกลับเมืองไทยก็รีบๆไปทำเสียแต่เนินๆ

[โอเลี้ยง]

หวัดดีค่คุณปุ๊ย  ป้าพอล คุณตุ้ม  ขออนุญาตคุณปุ๊ยนะคะ  คำถามของคุณปุ๊ยมีประโยชน์กับโอเลี้ยงเหมือนกันค่ะ
 * ขอถามคุณตุ้ม ต่ออีกนิดนึงนะคะ  ในกรณีที่เรานำทะเบียนสมรสไปแปลที่เมืองไทย โดยให้สำนักงานการแปลทั่วไปแปล แล้วประทับตราจากกระทรวงต่างประเทศที่ไทย ไม่ทราบว่าในกรณีนี้ใช้ได้หรือเปล่าคะ* เพราะต้องการจะไปเปลี่ยนสถานะในบัตรประชาชนที่เมืองไทยน่ะค่ะ   ขอบคุณมากค่ะ

[ปุ๊ย]

สวัสดีคุณตุ้ม ปุ๊ยเป็นแบบต่ออายุในเล่มเก่าค่ะ โทรไปถามแล้ว ว่าส่งมาต่อทางไปรษณีย์ได้ไหม เขาบอกว่าจะต้องมาเขียนคำร้องด้วยตัวเองค่ะ แง๊ๆๆ นี้ละ เลยต้องมาเบิร์น

[pall]

สวัสดีจ๊ะปุ๊ย
 ถ้าปุ๊ยมาทีเบิร์นถ้าป้าไม่ได้ไปไหน.ถ้าอยู่บ้านก็เจอกันเหมือนเดิมจ๊ะ.
 
 ป้าเอาLink น่าสนใจมาก
 เกี่ยวกับเหนังสือเดินทางเล่มใหม่
 สวยจ๊าบมากลองเปิดดู...เขาบอกรายละเอียดมาหมด...
 
 
 http://www.mfa.go.th/web/861.php
 
 ใช่จ๊ะปุ๊ยเพื่อนป้าอยูไกลมากยังต้องเดินทางมาทำ
 หนังสือเดินทางด้วยตัวเองเลยทางสถานฑูตไม่ส่งเอกสาร
 ทางPost

[ตุ้ม]

สวัสดีค่ะคุณ Pall ปุ๊ย  ไม่ทราบว่าทำไมเค้าถึงเปลี่ยนให้ไปต่อดัวยตนเอง  เพราะเคยทำแบบทางไปรษณีย์  จนกระทั่งเมื่อปลายปีต้องเปลี่ยนเล่มใหม่จีงต้องไปดัวยตนเอง  เวลาปุ๊ยไปต่อหนังสือเดินทางควรลงทะเบียนออกเสียงเลือกตั้งนอกประเทศพร้อมกันไปทีเดียวเลยดัวย
 
 สวัสดีจ๊ะโอเลี้ยง  ไม่เคยทำเรื่องที่ถามค่ะ  แต่อยากจะทราบว่าทำไมจึงอยากเป็นนางไม่ใช่นางสาวในเมืองไทย  เวลาทำนิติกรรมต้องขออนุญาตสามีทุกอย่างนะคะ  จะซื้อจะขายบ้านที่ดิน  คิดดูให้ดีๆก่อน  

[pall]

สวัสดีค่ะคุณตุ้ม
 ไม่ทราบค่ะ...พี่เห็นใจคนที่อยู่ไกล.....
 ถ้าสามารถยื่นเรื่องราวผ่านทางPost ได้..จะช่วยประหยัดเวลา
 ได้มากเลย.

[โอเลี้ยง]

สวัสดีค่ะป้า คุณตุ้ม คุณปุ๊ย  ที่คุณตุ้มถามว่าทำไมถึงอย่างเปลี่ยนคำนำหน้าว่านาง  โอเลี้ยงว่าในความเป็นจริงก็เปลี่ยนสถานะแล้วจริงๆ อีกอย่างบัตรประชาชนก็ใกล้หมดอายุแล้วน่ะค่ะ เลยคิดว่าแปลใบทะเบียนฯ ไปเปลี่ยนอะไรๆ ให้เรียบร้อยไปเลยที่เมืองไทยค่ะ  เรื่องบ้านที่ดินอะไร ยังไงก็ต้องปรึกษากับแฟนก่อนเหมือนกันค่ะ แต่ตอนนี้ไม่มีกะตังค์หรอกค่ะ อิๆ

[ตุ้ม]

สวัสดีจ๊ะโอเลี้ยง การเปลี่ยนนั้นเมื่อไหร่อยากจะเปลี่ยนก็ทำได้  แต่จะเปลี่ยนกลับนั้นทำไม่ได้  ไม่ใช่ว่าจะสอนให้คิดมากกับสามีหรือคิดเอาแต่ตัวเอง  แต่อะไรๆที่เป็นของๆเราจะสะดวกกว่า  เมื่อถึงเวลาที่จะหยุดทำงานและตัดสินใจแน่ว่าจะไปอยู่เมืองไทยหรืออยู่ที่นี่จึงค่อยจะตัดสินใจทำก็ได้  สตรีไทยยังไม่มีสิทธิ์ที่จะทำนิติกรรมได้ดัวยตนเอง